top of page
  • เรียบเรียง: ฐณิพัชร์ มายะการ

[รีวิวปากกาหมึกซึม] Lamy Joy / Rotring ArtPen / Pelikan Script

ไม่รู้ว่าคนที่ใช้ปากกาหมึกซึมส่วนใหญ่ จะเป็นเหมือนผมรึเปล่านะครับ คือ ยิ่งเขียนด้วยปากกาหมึกซึม ก็ยิ่งอยากพัฒนาลายมือตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆน่ะครับ ที่ผมเป็นอย่างนี้ก็อาจจะเป็นเพราะ การเขียนด้วยปากกาหมึกซึมมันรู้สึกถึงความละเอียด ประณีต กว่าการใช้เครื่องเขียนชนิดอื่นๆ ไม่ใช่สักแต่ว่าเขียนมั้งครับ

จากความคิดที่อยากพัฒนาลายมือ ก็เลยกลายเป็นอยากหัดเขียน Calligraphy บ้างครับ

คำว่า ‘Calligraphy’ นี่ผมไม่รู้จะแปลเป็นภาษาไทยยังไงนะครับ จริงๆแล้วผมชอบคำแปลจากพจนานุกรมที่ว่า “ศิลปะในการคัดลายมือ” มากครับ เท่าที่ดูแล้วในบ้านเรามักจะใช้คำว่า ‘อักษรวิจิตร’ กับคำว่า ‘อักษรประดิษฐ์’ แทนคำว่า ‘Calligraphy’ ครับ แต่ผมขอใช้คำว่า ‘อักษรวิจิตร’ แล้วกันนะครับ เพราะเห็นว่าเป็นการเขียนที่บรรจงวิจิตรจริงๆครับ ส่วนคำว่า ‘อักษรประดิษฐ์’ ทำให้รู้สึกเหมือนกับการประดิษฐ์ฟอนท์ตัวอักษร สำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์ซะมากกว่าน่ะครับ 5555

จากความที่สนใจในการเขียนอักษรวิจิตร ทำให้ผมหาปากกาสำหรับการเขียนด้านนี้แบบต่างๆมาลองใช้ครับ มีทั้งหัวปากกาแบบปากตัด (Italic Nib) หัวปากกาแบบยืดหยุ่น (Flexible Nib) หัวปากกาแบบปลายงอ (Fude Nib) และปากกาพู่กัน (Brush Pen) ครับ ซึ่งก็เขียนสนุกดี ไว้ว่างๆผมจะนำหัวปากกาแต่ละแบบมาเขียนเปรียบเทียบให้ดูกันนะครับ

บทความนี้ผมเรียบเรียงมาจากกระทู้เรื่อง A Comparison Review of Stub-Italic Pens ของผู้ที่ใช้ User Name ว่า QM2 ในเว็บ www.fountainpennetwork.com ครับ เป็นบทความที่เปรียบเทียบปากกาปากตัด 3 ยี่ห้อ ซึ่งผมกำลังจะหามาเล่นอยู่พอดี เพราะปากกาปากตัดที่ผมมีอยู่เป็นแบบราคาไม่แพง คุณภาพยังไม่ค่อยดีมากนักครับ และที่น่าสนใจอย่างที่สุด คือ ปากกา 2 ใน 3 รุ่นที่นำมาเปรียบเทียบในบทความนี้ สามารถหาซื้อในบ้านเราได้ไม่ยากด้วยครับ

บทความนี้ผมจะเขียนในลักษณะเรียบเรียงนะครับ คือ จะใส่ข้อมูลที่ผมค้นจากแหล่งอื่นๆ รวมถึงความเห็นส่วนตัวของผมแทรกเข้าไปด้วยเลยครับ อีกอย่างบทความนี้เจ้าของกระทู้ลงไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 แล้ว ซึ่งรูปทรงและสีสันของปากการุ่นใหม่ๆอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วนะครับ

จากบนลงล่าง Rotring ArtPen / Pelikan Script / Lamy Joy

ปากกาทั้ง 3 รุ่นที่นำมาเปรียบเทียบในบทความนี้ ได้แก่

Lamy Joy 1.9 mm

Rotring Art Pen 1.1 mm.

Pelikan Script 1.5 mm.

Mr. QM2 ทำตารางสรุปคะแนนของปากกาทั้ง 3 รุ่น ดังนี้ครับ

ส่วนตัวผมมีหลักเวลาที่ดูการให้คะแนนนะครับ อย่าง Mr. QM2 มีให้คะแนนที่เป็นเศษ 0.7, 0.8 นี่ ผมมองว่า แกเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจจะฟันธงครับ เพราะคะแนนเต็ม 5 ควรจะต้องแบ่งออกอย่างชัดเจนไปเลยว่า 5 = ดีมาก, 4 = ดี, 3 = พอใช้, 2 = พอรับได้ และ 1 = ไม่เอาล่ะ ยังงี้เป็นต้นครับ แบ่งย่อยออกมาเป็น 3.5, 4.5 ก็ถือว่าลังเลแล้วว่าจะดีหรือไม่ นี่ยังเป็น 3.8, 4.7 อีก

ส่วนตัวผมเวลาที่มีคะแนนเป็นจุดนี่ผมจะปัดลงหมดครับ คือ ได้ 4.5 ก็แปลว่า ยังไม่ดีมาก หรือได้ 3.8 ก็แปลว่า ยังไม่ดีพอครับ ที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะเดาใจคนรีวิวครับ เนื่องจากแต่ละคนจะมีอคติกับสิ่งที่ตนชอบ ไม่อยากให้คะแนนน้อย ขอเพิ่มคะแนนให้อีกนิดก็แล้วกันน่ะครับ

นอกจากนี้ ผมจะตัดหัวข้อที่ไม่เกี่ยวข้อกับการเขียนออกไปก่อน ไม่เอามาคิดรวมด้วยครับ เช่น เรื่องของความสวยงาม การออกแบบ สองข้อนี้ผมจะตัดทิ้งไปเลย เพราะส่วนตัวผมแล้ว ปากกาต้องเขียนดีมาก่อนครับ ให้สวยแค่ไหน เขียนไม่ดี สุดท้ายก็นอนเล่นในกล่อง ไม่ได้เอาออกมาใช้

ส่วนเรื่องราคาอันนี้ผมก็ไม่เอามาคิดเป็นคะแนนนะครับ เพราะถ้าเกินงบก็ซื้อไม่ไหวอยู่แล้วครับ 5555 เรื่องราคาผมจะเอามาเปรียบเทียบกับวัสดุที่ใช้ในการผลิต เช่น Lamy ทำจากพลาสติก ABS คงทนกว่าพลาสติกทั่วไป ทำให้มีราคาแพงกว่า คือ ถ้าจะแพงกว่า ก็ควรจะแพงอย่างมีเหตุผลครับ ซึ่งก็ต้องมาดูกันอีกว่า ผมจะยอมจ่ายเงินเพื่อสิ่งนั้นรึเปล่านะครับ

แต่สิ่งที่ผมจะเอามาคิดเพิ่มเติม คือ ปากการุ่นนั้นๆ สามารถหาออฟชั่นเพิ่มเติม อย่างหมึกหลอด ที่สูบหมึกได้ง่ายรึเปล่า ราคาแพงมั้ย เพราะการจะหาออฟชั่นต่างๆในบ้านเราบางทีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนกันนะครับ ยิ่งเป็นปากกาแบบ Calligraphy นี่จะบริโภคหมึกแบบสุดๆไปเลยครับ แถมยังมักจะเปลี่ยนสีหมึกกันบ่อยๆด้วย ส่วนตัวผมเห็นว่าไม่เวิร์คกับหมึกหลอดอย่างแรงครับ

ลักษณะภาพนอก

Lamy Joy เป็นปากกาที่มีลักษณะยาว ด้ามปากกาเป็นเหลี่ยมๆ ผิวมันเป็นเงา ส่วนปลายของด้ามปากกา และคลิปมีสีแดงดูสวยงาม รูปทรงของปากกาคล้ายๆ Lamy Safari แต่ด้ามปากกายาวกว่า แล้วค่อยๆเรียวเล็กลงไป ดูคลาสิกดี คล้ายกับด้ามปากกาคอแร้ง ส่วนปลายของด้ามปากกาจะตัดตรง ที่ด้ามปากกามีรอยสลักเป็นโลโก้ของ Lamy และมีช่องดูน้ำหมึกเหมือน Lamy Safari โดยรวมแล้ว Lamy Joy จะดูสวยกว่าปากกาอีกสองรุ่นครับ

Rotring Art Pen ผิวปากกาทำจากพลาสติกสีดำด้าน ที่ส่วนบนของปลอกปากกา และส่วนท้ายของด้ามปากกาจะมีลักษณะโค้งมนสีขาว ที่ส่วนบนของปลอกจะมีตัวเลขบอกขนาดของหัวปากกาไว้ด้วย คลิปเป็นโลหะเรียบๆ แถบกลางตัวปากกาเป็นวงแหวนสีแดงเล็กๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของปากกา Rotring ที่ด้ามปากกาเขียนว่า Rotring ArtPen ด้วยสีขาว ตัวปากกามีลักษณะเรียวยาว เหมือนกับด้ามปากกาคอแร้งเช่นกัน

Pelikan Script มีด้ามปากกาเป็นสีเทา กึ่งเงากึ่งด้าน ปลอกปากกาสีขาวอมฟ้า คลิปปากกาเป็นพลาสติก มีสีเดียวกับส่วนหัวของปลอกปากกา และด้ามปากกา ขณะที่ส่วนปลายของด้ามปากกามีสีขาวอมฟ้าเหมือนปลอกปากกา มีโลโก้ของ Pelikan และขนาดของหัวปากกา เป็นสีเงินพิมพ์อยู่บนด้าม ด้ามปากกามีลักษณะเรียวยาวเหมือนกับด้ามปากกาคอแร้งเช่นกัน

การออกแบบ

ปากกาทั้ง 3 รุ่นมีจุดที่เหมือนๆกัน คือ ออกแบบให้เป็นปากกาที่เรียวยาว เหมือนกับด้ามปากกาคอแร้ง และปากกาทั้งหมดก็ทำด้วยพลาสติกเหมือนกัน จะมีข้อแตกต่างกันอยู่บ้าง คือ

  • Pelikan Script จะด้ามสั้นกว่าปากการุ่นอื่นๆอยู่นิดหน่อย

  • Rotring Art Pen มีบริเวณที่จับปากกา หรือ Grip Section เป็นลักษณะซี่ๆ ซึ่งบางคนอาจชอบ ขณะที่บางคนอาจไม่ชอบเอาซะเลยก็ได้ อันนี้ต้องลองไปจับดูเองครับ

  • Lamy Joy มีการออกแบบที่คล้ายกับ Lamy Safari บริเวณที่จับปากกามีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมเหมือนกัน จุดแตกต่างของ Lamy Joy ที่เหนือกว่าปากกาทั้งสองรุ่น คือ สามารถนำปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามได้ และมีช่องดูว่าหมึกหมดรึเปล่าที่บริเวณด้าม

ผมยังไม่เคยใช้ Lamy Joy นะครับ แต่ผมยังสงสัยว่า Grip Section ที่เป็นลักษณะสามเหลี่ยม หากนำไปใช้กับปากกา Calligraphy นี่จะเวิร์คแค่ไหน คือ หากจับได้ถนัดพอดี ก็น่าจะมีประโยชน์มาก เพราะจะสามารถล็อกองศาของปากกาให้แน่นอนได้ง่ายกว่าครับ แต่ถ้าใครที่จับปากกาแล้วไม่ได้องศาที่ถูกต้อง การหมุนปากกาเพื่อปรับองศาของลายเส้นจะมีปัญหารึเปล่าก็ไม่รู้นะครับ

ส่วนช่องมองหมึกที่ด้ามนี่ ถ้าเป็น Lamy Safari ผมยังไม่เห็นประโยชน์มากนัก แต่พอเป็นปากกา Calligraphy นี่ ผมว่าเวิร์คมาก เพราะปากกา Calligraphy กินหมึกเหลือเกิน และหากหมึกหมดขณะเขียนตัวหนังสืออยู่จะเป็นเรื่องที่เซ็งสุดๆครับ แต่จุดนี้พอไปเปรียบกับ Pilot Parallel แล้วกลับกลายเป็นจุดด้อยไปเลย เพราะ Lamy Joy จะไม่สามารถเอาไปทำเป็น Eyedropper Conversion ได้ แต่ Pilot Parallel มีคนเอาไปทำมาแล้วครับ

ความทนทาน

Lamy Joy ซึ่งผลิตจากพลาสติก ABS ย่อมมีความแข็งแรงเหนือกว่าปากกาอีก 2 รุ่น แต่ผิวปากกาของ Rotring Art Pen จะทนต่อรอยขีดข่วนดีที่สุด แต่ชื่อยี่ห้อและรุ่นที่เขียนเป็นสีขาวบนด้ามของ Rotring Art Pen จะหลุดลอกได้ง่าย ขณะที่ Pelikan Script จะเป็นรอยง่ายกว่าอีก 2 รุ่น และดูเหมือนว่าพลาสติกจะอ่อนกว่าด้วย ตัวอักษรบนด้ามที่เป็นสีเงินก็หลุดลอกง่ายกว่า

ประสิทธิภาพการไหลของน้ำหมึก (Flow)

Rotring Art Pen มีจุดเด่นที่สามารถเติมสีหลากหลายชนิด แทนน้ำหมึกของหมึกปากกาหมึกซึมได้ แต่ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของเจ้าของปากกาเองนะครับ สำหรับ Lamy Joy มีคุณสมบัติการไหลของน้ำหมึกเหมือนกับ Lamy Safari แต่ดูเหมือนว่าปากกาจะไม่ชอบหมึกบางสีของ J. Herbin และ Noodler’s (เจ้าของกระทู้ไม่ได้บอกว่าเป็นหมึกรุ่นไหน สีอะไรนะครับ) ส่วนการไหลของน้ำหมึกของ Pelikan Script ไม่ค่อยน่าเชื่อถือมากนัก มีเส้นขาดๆหายๆ บางทีหมึกก็ไม่ไหลเอาซะดื้อๆ

ประสิทธิภาพของหัวปากกา (Nib)

Mr. QM2 บอกว่า ปากกา Rotring Art Pen ของเขาทุกด้ามเขียนได้ลื่นดีมากตั้งแต่แกะออกจากกล่อง

ขณะที่ Lamy Joy ทุกด้ามที่เขามี ก็เขียนลื่นเหมือนกัน แต่บางครั้งก็มีกัดกระดาษอยู่เหมือนกัน และหากคุณเขียนไปแล้วรู้สึกว่ามันติดๆขัดๆ อาจเป็นเพราะมีเศษไฟเบอร์ของกระดาษติดอยู่ที่หัวปากกาก็ได้

ส่วน Pelikan Script จะลื่นสู้อีก 2 ยี่ห้อไม่ได้ และคุณภาพของหัวปากกาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ดีเท่าอีก 2 ยี่ห้อด้วย

เกี่ยวกับหัวปากกาของ Lamy Joy ที่ผมค้นจากเว็บอื่นๆ รวมถึงจาก Youtube ของ Stephen Brown บอกว่า หัวปากกาแบบ Italic ของ Lamy จะค่อนข้างคม ทำให้กัดกระดาษครับ โดยเฉพาะหัวปากกาที่มีขนาดเล็ก คือ 1.1 มม.จะกัดกระดาษมากที่สุด รองมาก็เป็น 1.5 มม. ก็ยังกัดกระดาษอยู่ แต่หัวขนาด 1.9 มม. นี่เขียนได้ลื่นดีมากครับ

คุณภาพของการเขียนแบบปากกาปากตัด

ปากกาทั้งสามยี่ห้อที่นำมาเปรียบเทียบกันนี้ มีหัวปากกาแบบ Italic (เจ้าของกระทู้บอกว่าเป็น Stub Italic อันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับว่าเป็น Stub ด้วยรึเปล่า จึงขอเขียนว่าเป็นหัวแบบ Italic ไว้ก่อนแล้วกันนะครับ) หัวปากกาของ Rotring Art Pen ดูเหมือนจะเขียนลายเส้นได้คมกว่า Lamy Joy เล็กน้อย ขณะที่ Pelikan Script ยังเขียนได้คมกว่าทั้งสองยี่ห้ออีก

พอดูจากภาพตัวอักษรที่เขียนเปรียบเทียบ ผมแปลกใจว่า ทำไมลายเส้นของ Pelikan Script 1.5 มีขนาดใหญ่ที่สุด ขณะที่ Lamy Joy 1.9 กลับดูเหมือนว่าเส้นขนาดเล็กที่สุดก็ไม่รู้นะครับ กระดาษที่ใช้เขียนก็เดาว่าน่าจะเป็น Rhodia ซึ่งก็ไม่ซึมอยู่แล้วครับ จากลายเส้นที่เขียน เท่าที่ผมสังเกตเองนะครับ เห็นว่า Pelikan Script ลายเส้นขาดอยู่หลายจุด ผมว่าแบบนี้ไม่เหมาะกับงานเขียนอักษรวิจิตรครับ

ราคา

ในสหรัฐฯ ราคาของ Lamy Joy กับ Rotring Art Pen ราคาพอๆกัน อยู่ที่ราว $25 ส่วน Pelikan Script ขายที่ราว $16 แต่ในยุโรป Rotring Art Pen จะขายที่ราว 19 Eur ส่วน Lamy Joy ขายที่ 16 Eur และ Pelikan Script ขายที่ 14 Eur ครับ

สำหรับในบ้านเราผมไม่รู้ว่ามีใครนำ Pelikan Script เข้ามาจำหน่ายบ้างนะครับ แต่อีกสองยี่ห้อ คือ Lamy Joy กับ Rotring Art Pen นี่หาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนใหญ่ๆทั่วไป โดย Lamy Joy จะมีราคาขายในบ้านเราอยู่ที่ราว 800-900 บาท ส่วน Rotring Art Pen จะขายกันที่ราว 500-600 บาทครับ เห็นราคาแล้วก็ดีใจนะครับว่า ปากกายี่ห้อไหนที่มีผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ จะมีราคาพอๆกัน หรือบางทีก็ถูกกว่าในเมืองนอกอีกครับ

เจ้าของบทความได้กล่าวสรุปไว้ว่า ขณะนั้นเขามี Lamy Joy 3 ด้าม Rotring Art Pen 2 ด้าม และ Pelikan Script อีก 1 ด้าม ซึ่งเขาจะยอมเสียเงินซื้อ Pelikan Script อีก จนกว่าปากการุ่นนี้จะได้รับการปรับปรุงให้ทำงานได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เขาแนะนำว่า หากใครกำลังมองหาปากกาแบบ Italic Nib แล้ว Lamy Joy และ Rotring Art Pen จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เจ้าของบทความบอกว่า ส่วนตัวเขาจะชอบ Lamy Joy มากกว่า ตรงที่ออกแบบสวยกว่า และดูหรูกว่าเยอะครับ

ส่วนตัวผม Lamy Joy มีจุดเด่นตรงที่ สามารถเปลี่ยนหัวปากกากับ Lamy Safari และ Lamy รุ่นอื่นๆได้ง่าย ทั้งยังใช้ที่สูบหมึก และหมึกหลอดร่วมกับ Safari ได้อีกด้วย ซึ่งอุปกรณ์เพิ่มเติมต่างๆของ Lamy ก็สามารถหาซื้อได้ง่ายในบ้านเราครับ

ส่วน Rotring Art Pen สามารถใช้หมึกหลอดแบบมาตรฐาน ที่มีขายอยู่ทั่วไปได้ รวมถึงสามารถใช้หมึกหลอดมาตรฐานแบบยาวได้ด้วย ทำให้สามารถจุหมึกได้มากกว่า และราคาถูกกว่า นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้ที่สูบหมึกแบบมาตรฐาน ซึ่งหาได้ไม่ยากอีกด้วยครับ

เสียดายที่บทความนี้ไม่ได้เอา Pilot Parallel มาร่วมเปรียบเทียบด้วยนะครับ เพราะเป็นปากกาปากตัดยอดนิยมอีกยี่ห้อหนึ่ง ที่สามารถหาซื้อได้ง่ายในบ้านเราครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝันนะครับ

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page