วิธีที่จะฉลอง “วันลายมือเขียนสากล”

ในวันที่ 23 มกราคม ของทุกปี ได้ถูกกำหนดให้เป็น “วันลายมือเขียนสากล” หรือ National Handwriting Day ซึ่งผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ก่อนหน้าแล้วในเรื่อง “บอกความในใจ ผ่านลายมือเขียนกันเถอะ” มาในบทความนี้ผมขอเสนอวิธีง่ายๆที่จะร่วมฉลองวันลายมือเขียนสากลด้วยกันครับ

ขณะที่วันอื่นๆของปี พวกเราได้หันมาสื่อสารหรือจดบันทึกด้วยการกดแป้นคีย์บอร์ด และลากมือผ่านสมาร์ทโฟน แต่ใน “วันลายมือเขียนสากล” ขอให้พวกเรากลับมาปัดฝุ่นปากกาด้ามเก่า และลงมือเขียนกันเถอะครับ

สำหรับวิธีที่จะร่วมฉลอง “วันลายมือเขียนสากล” ง่ายๆ มีดังนี้

เขียนจดหมาย

การเขียนจดหมาย หรือบัตรอวยพร ดูเหมือนจะเป็นศิลปะที่กำลังจะสูญหายไปจากโลกนี้ซะแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่า ไม่มีสิ่งใดที่จะทดแทนความรู้สึกดีๆที่ได้รับจากจดหมายหรือบัตรอวยพรที่เขียนด้วยลายมือของผู้ส่งได้ ใน “วันลายมือเขียนสากล” นี้นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่เราจะนำศิลปะที่งดงามนี้กลับมาอีกครั้งโดยเริ่มจากตัวเราเองก่อนเลยครับ เขียนจดหมายหรือบัตรอวยพรด้วยข้อความในใจสั้นๆ แล้วส่งไปให้คนพิเศษของคุณทางไปรษณีย์ เมื่อเขาหรือเธอได้รับจดหมายของคุณก็คงจะประหลาดใจและประทับใจไม่น้อยเลยนะครับ และคงจะน่าประทับใจยิ่งกว่า หากคุณได้รับจดหมายตอบจากเขาหรือเธอคนนั้น

คุณอาจจะกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่นำศิลปะแห่งการเขียนจดหมายให้กลับมาอีกครั้ง อย่างน้อยก็ในกลุ่มคนสนิทเล็กๆของคุณ

ศึกษาดูสิว่า ลายมือเขียนบอกอะไรกับคุณบ้าง

ลายมือสามารถบ่งบอกถึงบุคลิกภาพของแต่ละคนได้เป็นอย่างดีเลยนะครับ นักจิตวิทยาบางท่านแค่เห็นลายมือเขียนก็สามารถอ่านถึงนิสัยใจคอได้เลยทีเดียว สำหรับคนที่ศึกษาเรื่องของดวงชะตา หรือโหงวเฮ้ง ยังบอกอีกว่า ลายมือเขียนนี่สามารถกำหนดเรื่องของดวงชะตา โชคลาภ หรืออุปสรรคในชีวิตได้อีกด้วย (อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่ผมเองก็ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้นะครับ) ลองค้นในกูเกิ้ลด้วยคำว่า “วิเคราะห์ลายมือเขียน” จะพบบทความน่าสนใจมากมาย ที่ได้ประโยชน์และอ่านสนุกมากเลยครับ

ไม่ว่าลายมือเขียนจะบอกอะไรคุณได้บ้าง แต่ที่แน่ๆ ลายมือเขียนของคุณนั่นแหละที่บ่งบอกถึงความมีตัวตนของคุณอย่างแท้จริง ต่างจากการส่งข้อความผ่านระบบอิเลคทรอนิกส์ที่ไร้ความเป็นตัวตนอย่างสิ้นเชิง

เปรียบเทียบลายมือของตนเองจากอดีต

ลองหาสมุดบันทึก หรือเอกสารเก่าๆ ที่คุณเคยเขียนไว้ในอดีตมาเปรียบเทียบกับลายมือเขียนในปัจจุบันครับ คุณอาจจะพบความแตกต่างอย่างคาดไม่ถึงทีเดียว ลายมือเขียนนี่ยังมีแฟชั่นด้วยนะครับ อย่าง “ลายมือถั่วงอก” ที่เด็กวัยรุ่นนิยมเขียนกัน หรือตัวเหลี่ยมๆที่ผมเห็นสถาปนิกหลายๆคนชอบใช้ ตัวหนังสือกลมๆอ้วนๆที่ดูน่ารัก หรือจะเป็นตัวหนังสือหวัดๆ แบบที่คนรุ่นคุณพ่อหรือคุณปู่ชอบเขียนกัน แล้วลายมือของคุณพัฒนามาอย่างไรกันบ้างครับ

พัฒนาลายมือ

เมื่อได้เปรียบเทียบลายมือเขียนจากอดีตจนถึงปัจจุบันแล้ว ผมมั่นใจเลยว่า ลายมือเขียนของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะแย่กว่าลายมือเมื่อในอดีต ก็เพราะว่าปัจจุบันเราไม่ค่อยจะได้เขียนกันสักเท่าไหร่นะครับ ทีนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาพัฒนาลายมือเขียนกัน อย่างน้อยก็คิดซะว่าเป็นการปรับโหงวเฮ้งให้กับตัวเองละกันครับ 555555

จดบันทึกประจำวัน หรือเขียนไดอารี

หากเป็นไปได้ผมอยากให้พวกเรามาเริ่มเขียนไดอารีกันครับ นี่ก็เพิ่งผ่านปีใหม่มาได้ไม่นาน หากเริ่มลงมือเขียนแต่วันนี้ก็ทำได้ไม่ยาก นึกย้อนหลังไปไม่กี่วัน ก็เท่ากับว่าเราได้เริ่มเขียนไดอารีตั้งแต่ต้นปี 2019 กันเลย

ผมเจอมาหลายๆคนที่บอกว่า ไม่รู้จะเขียนอะไรลงในไดอารีของตน เพราะวันๆก็ทำอะไรที่ซ้ำๆซากๆ เขียนไปก็คงจะเหมือนๆกันทุกวัน อย่างนี้ผมแนะนำว่า ลองเขียนบันทึกจากความคิดหรือความทรงจำแทนสิครับ วันนี้เรานึกถึง คิดถึงอะไร มีแผนอะไรหัว พบกับเรื่องราวน่าประทับใจ หรือได้ฟังเรื่องเล่าที่น่าสนใจจากใคร ก็จดบันทึกไว้ เพื่อเก็บความรู้สึกดีๆนี้ไว้ ก็เหมือนกับการเก็บสิ่งที่ดีไว้ในธนาคารนะครับ หยิบขึ้นมาอ่านอีกวันใด ก็จะยังรู้สึกดีๆได้อีกทุกครั้ง

เกี่ยวกับไดอารีนี่ ผมเคยได้รับประสบการณ์ดีๆจากพี่ๆบางคน ที่ไดอารีได้ช่วยยืนยันได้ว่า ในวันนั้นๆเขาทำอะไรที่ไหน จนทำให้เขาสามารถหลุดพ้นจากเรื่องยุ่งยากหรือคดีความได้เลยก็มีครับ ขณะที่ไดอารีมากมายในอดีตที่ช่วยต่อจิ๊กซอร์ของประวัติศาสตร์โลกให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไดอารีที่มีชื่อเสียงบางเล่มยังช่วยคลี่คลายคดีสำคัญในอดีตได้อีกด้วย ใครจะรู้ว่าไดอารีที่คุณเขียนในวันนี้ ต่อไปอาจจะมีความสำคัญต่อคุณเองหรือใครๆบ้างก็ได้นะครับ

ฝึกเซ็นชื่อ

ลายเซ็นนี่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะบุคคลที่กฎหมายยอมรับเชียวนะครับ และก็อย่างที่หลายคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า มีความเชื่อกันว่าลายเซ็นยังกำหนดโชคชะตาของแต่ละคนได้อีกด้วย ใน “วันลายมือเขียนสากล” นี้ ก็นับเป็นโอกาสอันดีที่เราจะมาพัฒนาลายเซ็นของเราให้ดูดีและช่วยส่งเสริมดวงชะตานะครับ

สำหรับเรื่องการเซ็นชื่อนี่ ผมแนะนำเลยว่า หาปากกาหมึกซึมที่มีหัวปากกาขนาดใหญ่ หรือบางคนอาจจะใช้หัวปากกาเฉพาะ เช่น หัวแบบ Stub หรือ Music Nib มาช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะของลายเซ็นตัวเอง ลายเส้นจากปากกาหมึกซึมจะแสดงออกถึงน้ำหนักการกดปากกา ทำเส้นตวัดได้สวย ไล่สีโทนหมึกงดงามกว่าลายเส้นจากปากกาหลายๆชนิด ยิ่งทำให้ลายเซ็นของคุณมีเอกลักษณ์มากขึ้น ยิ่งเมื่อบวกกับการใช้น้ำหมึกที่มีสีสันเฉพาะตัว เช่น หมึกสีกาแฟ หรือสีฟ้าน้ำทะเล แค่คนเห็นลายเส้นและสีของน้ำหมึก ก็แทบจะแสดงออกถึงความเป็นตัวคุณเลยทีเดียว

เป็นอย่างไรบ้างครับกับวิธีการฉลอง “วันลายมือเขียน” สากลแบบง่ายๆ เรามาร่วมกันอนุรักษ์ศิลปะแห่งการเขียนด้วยลายมือด้วยกันนะครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี