[รีวิวปากกาหมึกซึม] Parker IM

Parker IM นี่เป็นหนึ่งในปากกาหมึกซึมที่มีผู้ขอให้ผมทำรีวิวเข้ามาค่อนข้างมากรุ่นหนึ่งเลยครับ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะชื่อยี่ห้อ Parker เป็นที่รู้จักของคนไทย และคนทั่วโลก ในฐานะผู้ผลิตเครื่องเขียนชั้นนำของโลกมานานแล้วนะครับ เรียกว่า สำหรับเพื่อนๆนักเรียน หากจะขอเงินพ่อซื้อปากกาสักด้ามระหว่าง Lamy กับ Parker สงสัยจะขอซื้อ Parker ง่ายกว่าครับ 5555 นอกจากนี้ปากกา Parker ยังหาซื้อได้ง่ายในบ้านเราด้วย ในแผนกปากกาของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆทุกแห่ง รวมถึงร้านเครื่องเขียนชั้นนำจำนวนมาก ก็มักจะมีปากกายี่ห้อนี้ขาย แถมราคาของปากการุ่นนี้ก็ยังไม่แพงนักอีกด้วย คือ อยู่ในราวหนึ่งพันบาทครับ

อันที่จริงผมตั้งใจที่จะทำวิดีโอรีวิวปากการุ่นนี้ให้ชมกันอยู่แล้ว แต่พอดูจากตารางเวลาของผมในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมคงหาเวลาทำรีวิวปากกายากมาก ก็เลยแปลรีวิวของต่างประเทศให้อ่านกันก่อน เผื่อว่าในช่วงปิดเทอมเพื่อนๆน้องๆนักเรียน หรือพี่ๆนักศึกษา จะได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการติดสินใจเลือกหาปากกาด้ามใหม่รับเปิดเทอมหน้าครับ

ชื่อรุ่น IM นี่ ในแคตาล็อกของ Parker บอกว่า ย่อมาจาก ‘Instant Modern’ แปลว่าอะไรดีหว่า ความทันสมัยกึ่งสำเร็จรูป แบบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Instant Noodle) ดีมั้ยครับ 5555 เรื่องที่ว่า IM ย่อมาจากอะไรนี่ ผมไปอ่านในฟอรั่ม fountain pen network เค้าคุยกัน ฮาดีครับ แต่ผมชอบอยู่อันนึงที่บอกว่า ย่อมาจาก It’s Meaningless ครับ 5555

ตัวปากกา และปลอกปากกาของ Parker IM ทำจากโลหะ มีให้เลือกหลายสี หลายลายเลยนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าที่สั่งมาขายในบ้านเรามีสีอะไรบ้าง หัวปากกาสแตนเลสมีเพียงขนาดเดียว รีวิวของต่างประเทศบอกว่า ขนาดของลายเส้นจะเล็กกว่าหัวขนาด M ของ Parker Sonnet แต่ก็ยังใหญ่กว่าหัวขนาด F ของยี่ห้อเดียวกัน ก็น่าจะเรียกว่าเป็นหัวขนาด Medium Fine (MF) นะครับ แต่ Parker ไม่ได้ระบุขนาดไว้บนหัวปากกานะครับ

บทความนี้ผมสรุปรีวิวของ 2 เจ้ามาให้อ่านกันนะครับ คือ รีวิวของ penaddict.com กับของ bestfountainpen.com ครับ เพื่อจะได้เห็นว่านักรีวิว 2 รายพูดถึงปากการุ่นนี้ยังไงกันบ้าง แต่ผมจะแค่สรุปส่วนที่คิดว่าสำคัญมานะครับ ไม่ได้แปลมาแบบเป๊ะๆเลย ช่วงแรกนี่จะเป็นรีวิวจาก Pen Addict ก่อนครับ

เริ่มต้นมาผู้ทำรีวิวพูดถึงยี่ห้อ Parker ว่าเคยเป็นยี่ห้อปากกาที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในโลก แต่ว่าระยะหลังนี้ดูเหมือนว่าจะแผ่วๆไปเยอะเลย และสำหรับเขาแล้ว าสินค้าของ Parker ที่ออกมาใหม่ๆนี่ก็ดูงั้นๆ ไม่มีอะไรที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปากกาของคู่แข่งอื่นๆ

Parker IM ที่เขานำมาทำรีวิว เป็นรุ่น Premium สีไข่มุกมรกต (Emerald Pearl) ที่มีลวดลายบนตัวปากกาเป็นแถบๆในแนวขวาง เหมือนกับ Parker Vacumatic ที่โด่งดังในอดีต

สิ่งหนึ่งที่สะดุดตาผู้ทำรีวิวมากเกี่ยวกับ Parker IM คือ ขนาดของหัวปากกาที่ค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับขนาดของตัวปากกา เป็นขนาดที่เล็กกว่าปากกาปกติ ผู้ทำรีวิวใช้หมึกหลอดที่แถมมาด้วย เขาพบว่าปากการุ่นนี้เขียนได้ดีมาก จนทำให้เขาลืมสังเกตเรื่องขนาดของหัวปากกาไปเลย

หัวปากกาเป็นขนาด Medium ทำจากสแตนเลส เขียนได้ลื่นมาก และสามารถควบคุมความกว้างของลายเส้นได้ง่าย ทั้งขนาดของลายเส้นยังเป็นขนาดที่กำลังดีอีกด้วย การไหลลื่นของน้ำหมึกก็ทำได้อย่างดีมาก ผู้ทำรีวิวยังชอบน้ำหมึกสีน้ำเงินของ Parker อีกด้วย แต่เรื่องของน้ำหมึกนี้ ผู้ทำรีวิวอีกรายบอกว่า น้ำหมึกค่อนข้างจะใสไปสักหน่อยนะครับ

ผู้ทำรีวิวบอกว่า เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะสนุกกับการเขียนด้วย Parker IM ขนาดนี้

Parker IM นับเป็นปากกาหมึกซึมที่มีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มสนใจปากกาหมึกซึม ปากการุ่นนี่เป็นปากกาที่ดูคลาสิก แต่ก็ยังคงดูทันสมัยมีไตล์ ตัวคลิปเหน็บกระเป๋าของ Parker IM เป็นรูปลูกศรแบบดั้งเดิมของ Parker ขณะที่ Section ของปากกาทำจากโลหะปัดผิดแบบซาติน ให้ความรู้สึกที่ทันสมัย นับว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมาก

ผมจะต่อด้วยรีวิวจาก Best Fountain Pen นะครับ ซึ่งก็เหมือนเดิม คือ ผมจะสรุปเฉพาะสาระสำคัญมาให้อ่านกันครับ

Parker IM ที่ Best Fountain Pen เอามาทำรีวิว เป็นสี Gun Metal ลายตาราง ซึ่งผู้เขียนบรรยายถึงความงามของปากกาไว้ซะยืดยาวเลย ตรงนี้ผมขอข้ามไปเลยแล้วกัน แต่พอจะสรุปได้ว่าผู้ทำรีวิวทั้งสองรายพึงพอใจกับวัสดุที่ใช้ สีสัน ลวดลาย และการออกแบบของ Parker IM นี่มากครับ ด้านการเขียนผู้ทำรีวิวจาก Best Fountain Pen บอกไว้แต่แรกเลยว่า ปากการุ่นนี้นอกจากจะสวยแล้ว ยังเขียนได้เหมือนฝันอีกด้วย

สำหรับหัวปากกานี่ ผู้ทำรีวิวบอกว่า เป็นหัวปากการุ่นเดียวกับ Parker Urban ซึ่งขนาดของหัวปากการุ่นนี้จะแคบกว่าหัวปากกาปกติราว 3 มม. และยาวกว่าเล็กน้อย แต่ผู้ทำรีวิวไม่ได้บ่นเรื่องหัวปากกามีขนาดเล็กแต่อย่างใดนะครับ

ผู้ทำรีวิวบอกว่า พอได้ปากกามาเธอก็เอาหมึกหลอดใส่เข้าแล้วก็เขียนๆๆๆเลย ปรากฏว่าปากกาเขียนออกมาเส้นขาดๆหายๆ แม้จะเขย่าปากกาแล้วก็ตาม ซึ่งผู้ทำรีวิวบอกว่า เธอได้บทเรียนที่สำคัญสำหรับการใช้หมึกหลอดกับปากกาใหม่ๆ คือ ให้รู้จักอดทนรอครับ 5555 อันนี้ผมเจอมาหลายคนเหมือนกันนะครับ พอได้ปากกามาใหม่ก็เสียบหมึกหลอดเข้าไป แล้วก็เขย่าปากกาซะยกใหญ่ เพื่อจะได้รีบๆเขียน ถึงปากกาจะเขียนได้ แต่น้ำหมึกยังเดินเข้าไม่เต็มที่ยังไงก็เขียนไม่ดีครับ ยิ่งเป็น Parker ซึ่งมี Feed ที่ค่อนข้างยาว เพื่อทำหน้าที่สะสมน้ำหมึก (บางแห่งก็เรียกตรงนี้ว่า Collector ครับ) จะยิ่งต้องใช้เวลารอให้น้ำหมึกเดินเข้าไปจนเต็มระบบค่อนข้างนานนะครับ

ผู้ทำรีวิวบอกว่าการเขียนของ Parker IM มีลักษณะคล้ายๆกับ Parker Urban เพราะปากกาทั้งสองรุ่นใช้หัวปากกาที่เหมือนกัน แต่ยังบอกว่า ดูเหมือนขนาดลายเส้นของ IM จะเล็กกว่า Urban เล็กน้อยครับ ผู้ทำรีวิวยังสังเกตว่า พอเขียนหนังสือไปนานๆ เธอพบว่า เกลียวด้ามปากกาของ Parker IM จะหมุนกลับ ทำให้หลวมจาก Section ได้ครับ

ตัว Section ที่เป็นโลหะของ Parker IM มีน้ำหนักมากกว่าด้ามปากกา ทำให้น้ำหนักของปากกากดลงบนกระดาษได้มาก ตรงนี่ผู้ทำรีวิวบอกว่าชอบมากครับ ตัวปลอกปากกาทำจากทองเหลือง มีน้ำหนักค่อนข้างมาก พอเอาปลอกปากกาไปเสียบท้ายด้าม จะรู้สึกหนักขึ้นไปบ้าง แต่ก็ยังเขียนได้สบายๆอย่างไม่มีปัญหา ผู้ทำรีวิวของ Best Fountain Pen ชอบเขียนหนังสือโดยเสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้ามครับ และเธอบอกว่า Parker ทุกรุ่นที่ทำรีวิวมาจะสามารถเสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้ามได้อย่างมั่นคง และเขียนได้สบายๆด้วยครับ

เธอได้สรุปไว้ว่า Parker IM เป็นปากกาที่ยอดเยี่ยมมาก การแต่งผิว สีสัน ลวดลายสวยงาม คลิปลูกศรใช้งานได้ดีมาก ปากกามีสมดุลในการเขียนดี และยังเขียนได้ลื่นด้วย นับเป็นปากกาที่คุ้มเกินราคาอีกรุ่นหนึ่งครับ

ผมเคยอ่านรีวิวจาก Fountain Pen Network เกี่ยวกับ Parker IM นี่ พบว่า มีบางคนบ่นเรื่องหัวปากกาเขียนมี Feedback นิดหน่อยครับ บางคนก็ไม่พอใจว่า หัวปากการุ่นนี้ใช้ใน Parker Vector ที่มีราคาถูกกว่า แต่อันนี้ผมว่าไม่ใช่ประเด็นนะครับ เพราะตัวปากกาของ IM ทำมาหรูกว่า ก็ต้องมีต้นทุนสูงกว่าเป็นธรรมดา เจออยู่หนึ่งรายที่บอกว่า หัวปากกาของ Parker IM เขียนกัดกระดาษ และแห้งมาก แต่รีวิวจากในฟอรั่มนี่ แม้จะเป็นรีวิวจากผู้ใช้งานจริง แต่ผู้รีวิวบางคนก็อาจจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์เกี่ยวกับปากกาหมึกซึมมากนักนะครับ เท่าที่ผมดูจากรีวิวจากนักเล่นปากกาหมึกซึมที่มีประสบการณ์ ส่วนใหญ่ก็พอใจกับปากการุ่นนี้นะครับ

ยังดีที่ปากการุ่นนี้สามารถหาซื้อได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆในบ้านเรา ซึ่งโดยมากก็จะมีหมึกให้ลองเขียนด้วย หากใครสนใจจริงๆผมอยากแนะนำให้ไปลองเขียนด้วยตนเองเลยครับ เวลาไปลองเขียนขอให้เตรียมเนื้อหาที่จะเขียนยาวๆไปด้วยนะครับ ลองเขียนด้วยลายมือที่เขียนปกติสักครึ่งหน้ากระดาษเป็นอย่างน้อย เพื่อจะได้รู้ว่า ปากการุ่นนี้เขียนแล้วสบายมือหรือไม่ ขนาดของหัวปากกาเหมาะกับลายมือปกติของเรารึเปล่าด้วยครับ แต่เวลาไปลองเขียนนี่จะใช้วิธีจุ่มหมึกเขียน ซึ่งจะเขียนได้ลื่น และเปียกกว่าเวลาที่เราเติมน้ำหมึกเข้าไปในตัวปากกานะครับ ดังนั้นเวลาที่ซื้อไปเขียนจริงๆ อาจจะรู้สึกแตกต่างจากที่ลองจุ่มหมึกเขียนได้นะครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝันครับ

แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ