[รีวิวปากกาหมึกซึม] Aurora 88

Aurora 88 เป็นปากกาหมึกซึมอีกรุ่นหนึ่งที่ผมอยากได้มากๆ แต่ยังไม่มีปัญญาจะหามาครอบครอง เพราะค่าตัวไม่ใช่น้อยเลยครับ คือ เริ่มต้นกันที่ราว 400-500 USD ไปจนถึงพันกว่าๆแน่ะครับ

ปากการุ่นนี้เริ่มผลิตมาตั้งแต่ในช่วงปี 1950 หรือหกสิบกว่าปีมาแล้ว และยังคงผลิตต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมไปบ้างตามสมควรนะครับ โดยปากการุ่นนี้เป็นปากกาด้ามแรกของโลกที่ได้รับเกียรติให้ไปแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ลีโอนาโด ดาวินชี ในกรุงมิลานด้วยครับ

ความที่ค่าตัวเกินเอื้อมสำหรับผมในตอนนี้ จึงทำได้แต่เอารีวิวของฝรั่งมาแปลให้อ่านกัน เป็นการสร้างกิเลสร่วมกันไปพลางๆครับ 55555 บทความนี้ผมแปลมาจากเรื่อง Aurora 88 Large Black Resin Fountain Pen จากเว็บ Best Fountain Pen ของ Ms. Jennifer นะครับ ลองมาดูกันครับว่า ปากกาหมึกซึมระดับเวิลด์คลาส ที่มีค่าตัวหมื่นอัพนี้จะเป็นยังไงครับ

Ms. Jennifer ขึ้นต้นรีวิวของเธอด้วยคำถามที่ว่า เจ้า Aurora 88 Large นี่จะเป็นปากกาหมึกซึมที่ดีที่สุดของคุณรึเปล่านะ และเธอพยายามที่จะให้รายละเอียดต่างๆในรีวิวของเธอ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจครับ

Ms. Jennifer เล่าว่า เธอเองก็เคยพยายามที่จะหาปากกาหมึกซึมที่มีคุณภาพโดยรวมดีที่สุด ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ยากมากๆสำหรับตัวเธอครับ และในครั้งแรกที่เธอเห็นเจ้า Aurora 88 นี่เป็นครั้งแรก เธอบอกว่า ปากการุ่นนี้สร้างความหวังให้กับเธอเป็นอย่างสูงเลยครับ ด้วยรูปลักษณ์ของปากกาที่สง่างามอย่างมาก จนเธอต้องพยายามหามาทำรีวิวให้จงได้ครับ

เรื่องที่พยายามหาปากกาหมึกซึมที่มีคุณภาพโดยรวมดีที่สุด หรือ Overall Best นี่เป็นความพยายามของนักเล่นปากกาหลายๆคนเลยนะครับ รวมถึงตัวผมก็เคยตั้งคำถามว่า หากจะพกปากกาหมึกซึมเพียงด้ามเดียว จะเลือกอะไรดีครับ นี่เป็นเหตุผลหลักที่ผมหาอ่านรีวิวของนักวิจารณ์ต่างๆ แล้วเอามาแปลให้ได้อ่านกันนี่แหละครับ

ภาพประกอบจาก www.nibs.com

จุดเด่น และจุดด้อย

จุดเด่น

• ให้ประสบการณ์ด้านการเขียนระดับสุดยอด

• มีช่องมองน้ำหมึก

• สมดุลดีมาก

• สามารถเขียนโดยเสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้ามได้ถนัด

จุดด้อย

• ไม่มี !!!

อะไรจะขนาดนั้น

นี่เป็นวิดีโอสั้น รีวิว Aurora 88 Large ของ Ms. Jennifer ครับ

ประสิทธิภาพ

Aurora 88 ที่ Ms. Jennifer นำมารีวิวนี่เป็นรุ่น Black Resin หรือตัวปากกาทำจากเรซินสีดำ ขลิบด้วยสีทอง ซึ่งผู้ทำรีวิวบอกว่า เป็นปากกาหมึกซึมที่งดงามเอาซะมากๆเลยครับ เพียงแต่ได้พบเห็นยังไม่ทันได้จับ คุณก็จะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ในรูปลักษณ์แบบดั้งเดิม ที่เต็มไปด้วยความหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นช่องมองน้ำหมึก คลิปเหน็บกระเป๋า หรือรอยแกะสลักชื่อยี่ห้อก็ตาม

Aurora 88 เป็นปากกาขนาดใหญ่ หรือโอเวอร์ไซส์ (คือ มีขนาดพอๆกับ Montblanc 146 ครับ) ซึ่ง Ms. Jennifer บอกว่า เธอชอบปากกาที่มีขนาดใหญ่ๆแบบนี้ ตัวปากกาเป็นรูปทรงซิการ์ ที่ป่องตรงกลาง และปลายทั้งสองด้านเรียวเล็กลง คลิปเหน็บกระเป๋าชุบทอง มีลักษณะเป็นรูปตัวอักษร Y ตรงส่วนปลายของคลิปเป็นตุ่มกลมๆสีทอง ดูมีรสนิยมดี

ภาพประกอบจาก www.nibs.com

ระบบเติมหมึกของ Aurora 88 เป็นแบบ Piston Filler ครับ Ms. Jennifer บอกว่า เธอเริ่มจะชอบระบบเติมหมึกแบบนี้ขึ้นมาแล้วล่ะ แม้ว่าในการทำความสะอาดจะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นสักหน่อย แต่มันก็เป็นระบบเติมหมึกที่สามารถจุน้ำหมึกได้มากดี แล้วเธอก็เป็นคนที่เขียนหนังสือเยอะด้วย จึงไม่จำเป็นจะต้องเติมน้ำหมึกบ่อยๆครับ

ระบบเติมหมึกแบบ Piston Filler นี่ เป็นระบบเติมหมึกที่ผมชอบที่สุดก็ว่าได้ครับ เพราะนอกจากจะเติมหมึกได้มากแล้ว ระบบเติมหมึกแบบนี้ก็มักจะมีช่องมองน้ำหมึก ทำให้เห็นเลยว่าน้ำหมึกในปากกาเหลือมากน้อยแค่ไหน ผมเคยทำรีวิวเรื่องระบบเติมหมึก Piston Filler ไว้แล้ว ลองไปชมกันนะครับ

ภาพประกอบจาก www.nibs.com

ที่ปลอกปากกาของ Aurora 88 มีแถบขนาดใหญ่ ขอบด้านบนและล่างของแถบนี้นูนสูงขึ้น และมีรอยสลักบางๆเป็นคำว่า Aurora เป็นตัวอักษรแบบลายมือเขียน ตัวอักษรนี้จะทำเป็นสีดำให้เข้ากับตัวปากกาครับ เมื่อถอดปลอกปากกาออก จะมองเห็นช่องมองน้ำหมึก ที่ด้านบนและล่างของช่องมองน้ำหมึกจะมีแหวนสีทองเล็กๆอยู่ ตัวปากกาจะเรียงเล็กลงไปจนถึงปลายด้าม ส่วนปลายของ Section จะบานออกเล็กน้อย เพื่อป้องกันนิ้วมือลื่นไปโดนหัวปากกา

ภาพประกอบจาก www.nibs.com

หัวปากกาของ Aurora 88 มีขนาดใหญ่และยาว สวยงามมาก ที่หัวปากกามีสลักคำว่า 14K หัวปากกาที่ใช้นี้เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในปากกา Aurora Optima ซึ่งผู้ทำรีวิวบอกว่า เป็นหนึ่งในหัวปากกาที่เขียนลื่นที่สุดเท่าที่เธอเคยเขียนมาเลยครับ

ผู้ทำรีวิวบอกอีกว่า เวลาที่ถือปากกาด้ามนี้อยู่ในมือ จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่าสูงศักดิ์ขึ้นมาในบันดลเลยล่ะ และยังทำให้รู้สึกได้ถึงงานประดิษฐ์ที่เข้าขั้นประณีตศิลป์เลยทีเดียวครับ เจ้า Aurora 88 นี่เป็นปากกาที่สวยงาม และมีความสมดุลดีมาก เป็นปากกายอดเยี่ยมจริงๆ แม้แต่ก่อนที่คุณจะลงมือเขียนซะอีก

ปลอกปากกา และความสมดุล

Aurora 88 เป็นปากกาที่เมื่อนำปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามแล้วให้ความรู้สึกสมดุลดีมาก Ms. Jennifer บอกว่า ไม่ใช่ว่า Aurora 88 จะสามารถนำปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามได้เท่านั้น แต่พอนำปลอกปากกาไปเสียบท้ายด้ามแล้วยังให้ความรู้สึกที่ดีมากอีกด้วย จริงๆแล้ว Ms. Jennifer พูดบรรยายคุณงามความดีในเรื่องนี้ไว้มากเลยนะครับ

ตรงนี้อย่างงว่า ทำไมผู้ทำรีวิวจึงตื่นเต้นนักกับแค่เอาปลอกปากกาไปเสียบท้ายด้ามได้นะครับ เพราะปากกาทั่วๆไปด้ามละไม่กี่สิบกี่ร้อยบาท ก็เอาปลอกปากกาไปเสียบท้ายด้ามได้ทั้งนั้น แต่สำหรับปากการาคาแพงๆ โดยเฉพาะที่มีขนาด Oversize บางรุ่นไม่สามารถเอาปลอกปากกาไปเสียบท้ายด้ามได้นะครับ หรือบางรุ่นถึงจะเอาปลอกปากกาไปเสียบได้ แต่ก็ไม่มั่นคงนัก หรือไม่พอไปเสียบแล้วก็จะหนักจนเสียสมดุลครับ ซึ่งใครที่ตามอ่านรีวิวของ Ms. Jennifer จะรู้ดีว่า เธอเรียกตัวเองว่า พวก “Poster” ไม่ใช่หมายถึงโปสเตอร์โฆษณาอะไรนะครับ แต่หมายถึงเป็นพวกที่ชอบเอาปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามครับ และผมเองก็เป็น Poster ด้วยเหมือนกัน

Ms. Jennifer บอกเลยว่า Aurora 88 นี่เป็นปากกาหมึกซึมที่ออกแบบมาทั้งสำหรับการเขียนทีดี และสำหรับให้นักสะสมปากกาได้ชื่นชมครับ โดยพูดชื่นชมว่า นี่เป็นทุกที่ปากกาด้ามหนึ่งควรจะมี

สิ่งหนึ่งที่ Ms. Jennifer “รัก” ปากการุ่นนี้เอาซะมากๆ ก็คือ Aurora 88 ทำให้เธอเปลี่ยนใจเกี่ยวกับระบบเติมหมึกแบบ Piston Filler ครับ Ms. Jennifer บอกว่า เธอไม่เคยสนใจระบบเติมหมึกแบบนี้มาก่อนเลย เพราะเธอรู้สึกว่า เติมหมึกยุ่งยาก และต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นสำหรับการทำความสะอาดปากกา แต่เธอรู้สึกว่า แม้จะใช้เวลาทำความสะอาดมากขึ้น แต่เมื่อเทียบกับปริมาณความจุน้ำหมึกแล้วมันคุ้มครับ ยิ่งเธอไม่ใช่คนที่ชอบเปลี่ยนสีน้ำหมึกบ่อยๆอยู่ด้วย เพราะเธอมีปากกาหลายด้ามที่ใส่น้ำหมึกสีสันต่างๆกันอยู่แล้ว แทนที่จะเปลี่ยนสีน้ำหมึกในปากกา ก็แค่หยิบปากกาด้ามอื่นมาใช้ก็แค่นั้นเอง และการทำความสะอาดปากกาก็ไม่ใช่ว่าจะทำกันบ่อยๆซะที่ไหน การใช้ Aurora 88 ที่มีระบบเติมหมึกแบบ Piston Filler ช่วยให้สามารถเขียนหนังสือทั้งวันหรือหลายๆวัน โดยไม่ต้องห่วงเรื่องหมึกจะหมดครับ

ส่วนตัวผมชอบระบบเติมหมึกแบบนี้อยู่แล้ว เพราะวันหนึ่งๆผมเขียนหนังสือมากครับ ระบบเติมหมึกแบบ Piston Filler ช่วยให้ผมใช้ปากกาได้เป็นสัปดาห์โดยไม่ต้องห่วงว่าหมึกจะหมดในระหว่างการใช้งานเลย และผมก็เหมือนกับ Ms. Jennifer ตรงที่ไม่ชอบเปลี่ยนสีหมึกในปากกาบ่อยๆด้วยครับ

ด้านการเขียน Ms. Jennifer ไม่ได้บอกอะไรไว้ในรีวิวของเธอมากนักครับ บอกแค่ว่า Aurora 88 เป็นปากกาที่เขียนได้ลื่นมากๆ เรียกว่า เป็นหนึ่งในปากกาที่เขียนลื่นที่สุดเท่าที่เธอเคยเขียนมาเลยทีเดียว และบอกว่า หัวปากกาขนาด Fine ของ Aurora 88 ให้ขนาดลายเส้นที่ใหญ่เกือบจะพอๆกับลายเส้นขนาด Medium ของปากกายี่ห้ออื่นๆเลยครับ

คุณค่าโดยรวมของ Aurora 88

ผู้ทำรีวิวขึ้นต้นประโยคด้วยคำถามว่า “ฉันคิดว่า Aurora 88 เป็นปากกาที่คุ้มค่าหรือไม่ ?”

ปากการุ่นนี้เป็นปากกาที่มีราคาแพงกว่า $400 แต่ก็เป็นหนึ่งในปากกาที่เขียนได้ลื่นที่สุดเท่าที่เธอเคยเขียนมาทีเดียว Ms. Jennifer รู้สึกว่า การเขียนของปากการุ่นนี้คล้ายกับ Aurora Optima แต่ว่าดูคลาสิกกว่า

สำหรับ Aurora 88 กับ Aurora Optima นี่ ถ้าเป็นรุ่นที่ออฟชั่นเหมือนๆกัน ราคาก็จะเท่ากันนะครับ คือ ปากกาทั้งสองรุ่นจะผลิตจากวัสดุชนิดเดียวกัน ใช้หัวปากการุ่นเดียวกัน และใช้ระบบเติมหมึกแบบ Piston Filler เหมือนกันด้วย จะต่างกันแค่รูปทรงที่ Aurora 88 เป็นปากกาทรงซิการ์ ขณะที่ Aurora Optima เป็นทรงหัวตัดท้ายตัด (Flat Top) ครับ ตรงนี้ผมว่าก็มีความสวยคลาสิกไปคนละแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนนะครับ ตัวผมจะชอบรูปทรงซิการ์ของ Aurora 88 มากกว่า แต่พ่อของผมกลับชอบรูปทรงของ Optima ครับ

Ms. Jennifer บอกต่อไปว่า ปากการุ่นนี้อาจจะเรียกได้ว่ามีรูสทรงแบบอนุรักษ์นิยม และเธอเองก็ไม่ค่อยจะเป็นนักอนุรักษ์นิยมเท่าไรนักด้วย แต่ปากการุ่นนี้ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา สง่างามเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้เธอชื่นชอบเอาซะมากๆเลย และมันยังทำให้เธอมีความสุขกับการเขียนอย่างมากๆๆๆๆ แบบที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้อีกด้วยครับ

Ms. Jennifer บอกว่า เธอจะต้องเป็นเจ้าของ Aurora 88 ให้จงได้อย่างแน่นอน ซึ่งสำหรับคนที่ตามอ่านรีวิวของ Ms. Jennifer อยู่ จะรู้ว่า เธอเคยบอกว่า จะหยุดซื้อปากกาหมึกซึมแพงๆไว้ก่อน จนกว่าเธอจะทำรีวิวปากกาครบ 100 รีวิว และเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะซื้อปากกาหมึกซึมที่เธอชื่นชอบที่สุด (อย่างน้อย) 3 ด้าม และเจ้า Aurora 88 นี่นับว่าใกล้เคียงกับคำว่า “ชื่นชอบที่สุด” ของเธอครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝันนะครับ

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี