top of page
  • ที่มา www.penaddict.com

5 อันดับสุดยอดปากกาหมึกซึม ของ Pen Addict

ในต่างประเทศมีการจัดอันดับของปากกาหมึกซึมจากหลายสำนัก ผมขอนำมารวบรวมให้ดูกันนะครับเพื่อเป็นแนวทางในการหาปากกามาใช้งานครับ

การจัดอันดับของ Penaddict

Mr. Brad Dowdy เป็นเจ้าของบล็อก www.penaddict.com ครับ ได้จัด 5 อันดับของปากกาชนิดต่างๆไว้ โดยแบ่งออกตามระดับราคา ซึ่งทำออกมาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2015

การจัดอันดับนี่ เป็นการจัดอันดับโดยเจ้าของเว็บคนเดียว ซึ่งผู้จัดทำก็ได้ออกตัวไว้ว่า การจัดอันดับนี่ก็เพื่อให้ผู้อ่านใช้เป็นแนวทางในการเลือกปากกาที่ตนเองต้องการ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะ ‘Perfect’ สำหรับทุกคน จึงอยากให้ผู้ที่สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติม และหากเป็นไปได้ ก็ไปลองเล่นลองใช้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อครับ

จริงๆแล้ว Mr. Dowdy ได้จัดอันดับปากกาหมึกเจล ปากกาลูกลื่น กระดาษ และอี่นๆไว้ด้วยแต่ผมจะขอนำเสนอเฉพาะปากกาหมึกซึมนะครับ

5 อันดับปากกาหมึกซึมที่มีราคาต่ำกว่า 50 USD

Pilot Metropolitan

Mr. Brad Dowdy ยกให้ปากกาจากญี่ปุ่น Pilot Metropolitan เป็นผู้ชนะสำหรับปากกาหมึกซึมในระดับราคาต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐ โดยให้เหตุผลว่า Pilot Metropolitan เป็นปากกาที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น เขายังบอกว่า เดิมแล้วอันดับหนึ่งสำหรับราคาระดับนี้ เขายกให้ Lamy Safari ครับ แต่พอ Pilot ออกปากการุ่นนี้มา ก็กระชากใจเขาไปได้

แม้ว่าเขาจะยังคงรัก Lamy Safari อยู่ แต่หัวปากกาของญี่ปุ่นที่มีเส้นเล็กกว่าปากกาจากทางยุโรป และหัวปากกาขนาดเล็ก (Fine) ของ Pilot เขียนได้อย่างน่าทึ่งมาก

Pilot Metropolitan วางขายในอเมริการาคาราว 15 ไม่เกิน 20 USD ครับ

Pilot Kakuno

ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย สีสันสดใสน่ารัก บวกกับคุณภาพที่ยอดเยี่ยม แถมยังมีราคาที่จับต้องได้ง่าย ทำให้ Kakuno ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักเรียน นักศึกษาในประเทศญี่ปุ่น

สิ่งที่ประทับใจ Mr. Dowdy อย่างมาก สำหรับปากกาจากญี่ปุ่น จนทำให้สามารถครองอันดับ 1 และ 2 ได้ คือ หัวปากกาที่คุณภาพสูง มีเส้นขนาดเล็กคมชัด และเขียนได้ลื่นครับ

Pilot Kakuno วางขายในอเมริกาในราคาที่ราว 15 USD รุ่นนี้ผมเห็นมีขายในบ้านเรา ราคาประมาณไม่เกิน 500 บาทครับ

Lamy Safari

Lamy Safari เป็นปากกาหมึกซึมที่เคยครองแชมป์สำหรับปากกาในระดับราคานี้ (ส่วนตัวผมคิดว่า เหตุที่อันดับลดลงก็เพราะว่า ปากกาจากญี่ปุ่นทั้งสองรุ่นมีราคาที่ถูกกว่าครับ แต่ผมยังคิดว่าดีไซน์ และวัสดุที่ใช้ผลิต Lamy ยังเหนือกว่านิดๆ แถม Lamy ยังทำ Limited Edition ออกมาให้สะสม และปากกา Limited Edition หลายรุ่นก็มีราคาสูงขึ้น ทำให้ Lamy เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากนะครับ)

Lamy Safari ปากกายอดนิยมจากเยอรมนี เป็นปากกาที่มีสีสันสวยงามหลากหลาย และยังมีแข็งแรง ทนทานอีกด้วย Lamy มีหัวปากกาให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด ตั้งแต่เส้นเล็กสุด (Extra Fine) ไป จนถึงหัวปากกาปากตัดครับ Lamy ยังเป็นปากกาที่เขียนได้ลื่นมากๆ ขนาดที่ Mr. Dowdy บอกว่า จะไม่สามารถหาประสบการณ์การเขียนที่ลื่นไปกว่านี้ได้อีก

Lamy Safari วางขายในอเมริกาที่ประมาณ 30 USD ปากการุ่นนี้มีขายในบ้านเราที่ราว 800 กว่าบาทด้วยนะครับ แต่หากเป็นรุ่นเก่าๆที่หายากแล้ว ราคาอาจขึ้นไปถึง 2-3 พันบาทเลยทีเดียว

Kaweco Sport

Kaweco ปากกาจากเยอรมนีอีกยี่ห้อหนึ่ง จุดเด่นของ Kaweco Sport อยู่ที่ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาง่าย แข็งแรงทนทาน และเขียนได้ลื่นอีกด้วยครับ Kaweco Sport ยังมีหัวปากกาให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ EF, F, M, B และ BB

Kaweco Sport วางขายในอเมริการาว 25 USD แต่ถ้าเป็นรุ่นที่มีลวดลายสวยงามก็จะมีราคาสูงขึ้นไป จนบางด้ามมีราคาสูงเกิน 100 USD เชียวครับ

Platinum Preppy

Platinum ปากกาหมึกซึมจากประเทศญี่ปุ่น Preppy เป็นปากกาคุณภาพสูง ที่มีราคาต่ำกว่า 5 USD

Platinum Preppy มีหัวปากกาหลายขนาดเหมือนกัน เริ่มจาก เล็กสุดๆ (Extra Fine – EF) ที่มีความหนาของเส้นเพียง 0.2 มม. ขนาดเล็ก (Fine – F) 0.3 มม. และขนาดกลาง (Medium – M) 0.5 มม. ผมไม่รู้ว่ามีหัวปากกาขนาดใหญ่กว่านี้อีกรึเปล่านะครับ

ตัวปากกา Preppy ทำจากพลาสติกใสๆ ที่หัวปลอกปากกา ที่เหน็บ และหัวปากกาจะมีหลากสีสันให้เลือก โดยหมึกหลอดที่แถมมากับปากกา ก็จะมีสีตามนั้นด้วยครับ คือ เป็นปากกาหมึกซึมที่มีหมึกหลายสีให้เลือกใช้

ราคาของปากกา Platinum Preppy ในอเมริกาอยู่ต่ำกว่า 5 USD ส่วนในบ้านเรามีวางขายอยู่ในราคาตั้งแต่ไม่ถึง 100 บาท ไปจนถึงแพงสุดเท่าที่ผมเห็นมาก็ 150 บาทครับ

ที่สุด 5 อันดับ ของปากกาหมึกซึมราคาต่ำกว่า 50 USD (จริงๆแล้วทั้งหมดต่ำกว่า 30 USD

หรือไม่ถึงพันบาทครับ) เป็นปากกาจากญี่ปุ่นซะ 3 ด้าม จากเยอรมนีอีก 2 และยังดีที่ยัง

สามารถหาซื้อปากกาดีๆพวกนี้ได้ในบ้านเรา อย่างน้อยก็ 3 รุ่นจาก 5 รุ่นครับ

ใครสนใจ สามารถอ่านรีวิวเป็นภาษาไทยได้ที่บล็อก http://www.bbblogr.com/ ครับ

พี่ปอนด์ เจ้าของเว็บทำรีวิวไว้ถึง 4 จาก 5 รุ่น คือ Pilot Kakuno, Lamy Safari, Kaweco Sport, และ Platinum Preppy

5 อันดับปากกาหมึกซึมที่มีราคา 50-100 USD

ในความเห็นของผม ยังมีปากกาที่น่าสนใจในระดับราคานี้มีอีกมากมายหลายยี่ห้อ อย่าง Waterman, Parker, Sheaffer, Aurora และอีกเพียบ

การจัดอันดับนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของ Mr. Brad Dowdy เจ้าของบล็อก www.penaddict.com คนเดียวนะครับ

TWSBI Diamond 580

อันดับ 1 เป็นปากกาสัญชาติจีนครับ (ไต้หวัน) ครับ ยี่ห้อ TWSBI ฝรั่งอ่านว่า ‘ทวิสบิ’ นะครับ

TWSBI Diamond 580 มีที่สูบหมึกแบบ Piston Filler คือ มีปุ่มหมุนที่ส่วนปลายของด้าม เพื่อสูบหมึกเข้าไปเก็บไว้ในตัวด้ามเลย ซึ่ง Mr. Dowdy บอกว่า จะพบก็แต่ในปากกาที่มีราคาสูงกว่า TWSBI 580 ราวสองเท่าครับ (อันที่จริงปากกาของ Noodler's ก็เป็น Piston Filler ที่ราคาไม่แพงครับ)

TWSBI Diamond 580 เป็นปากกาพลาสติกใส แต่ก็มีรุ่นที่ปลอกปากกา มือจับ และปุ่มหมุน เพื่อสูบหมึกทำเป็นสีอื่นๆให้เลือกด้วย ส่วนหัวปากกาก็มีให้เลือกตั้งแต่ EF, F, M และ B

จุดเด่นของ TWSBI Diamond 580 นอกจากระบบสูบหมึกแบบ Piston แล้ว ยังมีการออกแบบด้ามปากกาให้มีด้านที่แบนเรียบ เพื่อป้องกันปากกากลิ้งตกจากโต๊ะ การที่สามารถถอดหัวปากกาออกเปลี่ยนได้ง่าย และสามารถถอดประกอบปากกาทั้งด้ามออกมาทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย

หัวปากกาขนาดเล็ก (Fine) ของ TWSBI เหมือนกับปากกาอื่นๆที่ผลิตในเอเชีย คือ จะมีขนาดเล็กกว่าหัวแบบ Fine ของปากกาจากยุโรป ทำให้เขียนได้เส้นเล็ก และคมกว่าปากกาจากยุโรป หัวปากกาของ TWSBI ก็เขียนได้ลื่นดีกมาด้วยครับ

TWSBI มีราคาตั้งอยู่ที่ 50 USD พอดีเป๊ะๆครับ

Kaweco AL Sport

Kaweco AL Sport ก็หน้าตาเหมือนกับ Kaweco Sport ปากกายอดเยี่ยมอันดับที่ 4 ในรุ่นปากการาคาต่ำกว่า $50 ครับ แต่ตัวปากกาทำมาจากอลูมิเนียม แทนที่จะเป็นพลาสติก (AL ก็ย่อมาจาก Aluminum ธาตุเคมีที่มีเลขอะตอมเท่ากับ 13 ครับ 5555)

ในเว็บของ Kaweco บอกว่า ปากการุ่นนี้ผลิตจากอลูมิเนียมแท่งตันๆ แล้วเอามาเจาะ มากลึงด้วยเครื่อง CNC ไม่ใช่ทำจากท่ออลูมิเนียมเหมือนปากการาคาถูกๆนะครับ ทำให้ปากกามีความแข็งแรงทนทานมาก

ปากการุ่นนี้มีให้เลือกแค่ 4 สี คือ ดำ น้ำเงิน เทา และสีเงิน ไม่มีรุ่นที่ทำสีแฟนซีนะครับ ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ก็เหมือนกับ Kaweco Sport ซึ่ง Mr. Dowdy บอกว่า หากใครที่ลองเขียน Kaweco Sport แล้วไม่ชอบ ก็คงจะไม่ชอบ Kaweco AL Sport เหมือนกัน

ปากการุ่นนี้อันที่ Mr. Dowdy ซื้อมา มีปัญหาเรื่องเขียนแล้วเส้นขาดๆหายๆ เจ้าตัวต้องปรับแต่งเล็กน้อย ทำให้เขียนลื่นเหมือนก้นเด็ก (Mr. Dowdy บอกยังงั้นจริงๆครับ) รายละเอียดการปรับแต่ง อยู่ที่นี่ครับ ถ้าสนใจก็ลองไปอ่านดูครับ

Kaweco AL Sport วางขายในอเมริกาในราคาราว 70-80 USD ครับ

Lamy Studio

Lamy Studio เป็นปากการุ่นหรูจากค่าย Lamy เยอรมนีครับ ตัวปากกาทำมาจากสแตนเลส ด้ามปากกาค่อนข้างอ้วน คนมือใหญ่ๆก็เขียนได้ถนัด

ปากการุ่นนี้มีหัวปากกาให้เลือก 2 แบบ คือ หัวปากกาทำจากสแตนเลส และหัวปากกาทำจากทองคำ 14 กระรัตครับ โดยรุ่นที่ทำจากสแตนเลสจะมีสีให้เลือก 4 สี คือ เคลือบแลคเกอร์สีดำ น้ำเงิน และแดง และทำผิวแบบ Brush คือ ปัดผิวให้เป็นลักษณะคล้ายลายผ้า หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ทำผิวแบบ Satin สีผิวจะออกด้านๆสักหน่อยครับ

ส่วนรุ่นที่หัวปากกาทำจากทองคำ 14 กระรัต จะมีการเคลือบผิวปากกาให้เลือก 2 แบบ คือ เคลือบ Palladium ซึ่งเป็นธาตุที่หายาก อยู่ในกลุ่มเดียวกับแพลทติครับ และอีกรุ่นจะเคลือบผิวด้วย Platinum แบบนี้สีผิวจะเงาวาวเลยครับ แต่รุ่นที่หัวปากกาทำจากทองคำนี่ จะราคาแพงกว่าเกือบเท่าตัว จึงไม่ได้จัดอยู่ในปากการะดับราคานี้นะครับ

จุดเด่นในดีไซน์ของ Lamy Studio น่าจะเป็นที่คลิปเหน็บปากกาครับ Lamy ออกแบบคลิปบิดๆสวยดีครับ (อันที่จริงแล้ว ปากกาของ Lamy ทุกรุ่น ต่างก็มีคลิปที่เป็นเอกลักษณ์นะครับ)

ด้านการเขียนยังไงก็ไม่เสียชื่อ Lamy ครับ เอาเป็นว่าลื่นไหลเหมือนสายน้ำละกัน 5555

ราคาของ Lamy Studio รุ่นที่หัวปากกาทำจากสแตนเลส ขายที่อเมริกาอยู่ที่ไม่เกิน 90 USD ที่บ้านเราก็มีขายอยู่ที่สามพันกว่าบาทครับ

TWSBI Diamond Mini

เจ้า Diamond Mini นี่ เหมือนกับ Diamond 580 ครับ แต่มีขนาดเล็กกว่า แถมราคาก็ยังเท่ากันอีกด้วย (ไม่รู้นะ ผมว่าถ้ามันเหมือนกัน ก็น่าจะให้ติดอันดับแค่รุ่นเดียวเนอะ)

Diamond Mini มีขนาดสั้นกว่า Diamond 580 ราว 1 นิ้ว หรือขนาดพอๆกับความสูงของ iPhone ครับ Mr. Dowdy ชอบที่ปากการุ่นนี้มีขนาดกระทัดรัด แต่เขียนได้อย่างสะดวกสบาย

และหัวปากกาก็เขียนได้ลื่นดีมาก ที่สูบหมึกก็เป็นแบบ Piston เหมือน 580 ครับ

Diamond Mini ขายที่อเมริการาว 50 USD ครับ

Kaweco Liliput

ถ้าคุณคิดว่า Kaweco Sport มีขนาดเล็กแล้ว Liliput มีขนาดเส้นผ้าศูนย์กลางเล็กกว่าอีกเกือบครึ่ง

Kaweco Liliput ทำจากอลูมิเนียม แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็ใช้หัวปากกาขนาดมาตรฐาน ที่เขียนได้ลื่นมาก Mr. Dowdy ให้ข้อสังเกตว่า หากจะหาปากกาสำหรับใช้งานจริงๆแล้ว ควรจะมองข้ามปากการุ่นนี้ไป แต่หากมองหาปากกาที่พกพาง่าย กระทัดรัด สำหรับจดโน๊ตเล็กๆน้อยๆ Kaweco Liliput เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งครับ (ถ้าการใช้งานจำกัดขนาดนี้ ก็ไม่น่าติดอันดับเนอะ)

ส่วนตัวผมมองว่า การจัดอันดับในรุ่นปากกาต่ำกว่า $50 ดูจะแฟร์กว่านะครับ พอในปากการะดับ $50-100 นี่ ผมมองว่าแปลกๆชอบกล และ Mr. Dowdy ยังยอมรับว่า Kaweco กับ TWSBI เป็นสปอนเซอร์ให้แกอีกด้วยครับ อย่างไรก็ตาม TWSBI เป็นปากกาที่เว็บอื่นๆในต่างประเทศก็ชื่นชมไว้เยอะนะครับ

ปากกา TWSBI นี่มีขายในเมืองไทยด้วยนะครับ The Pips Café’ ในราคาด้ามละ 1,700 บาท เรียกว่าราคาเท่ากับที่ขายในต่างประเทศเลยครับ หากสนใจสามารถอ่านรีวิวเป็นภาษาไทยได้ที่เว็บ bbblogr.com ครับ แต่รีวิวนี้เจ้าของบล็อกเตือนไว้ว่า อาจใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมกับเยาวชน ผมเลยยังไม่ได้อ่านครับ

5 อันดับปากกาหมึกซึมที่มีราคา 100-200 USD

ปากกาในระดับตั้งแต่ 100-200 เหรียญสหรัฐนี่ สำหรับผมคงได้แต่ยืนดูหน้าตู้ล่ะครับ ปากกาในระดับนี้จะเน้นที่ความหรูหรา มีรสนิยม เพิ่มเติมขึ้นจากคุณภาพการใช้งานครับ คงจะเหมาะกับผู้บริหารซะมากกว่านักเรียน นักศึกษาอย่างเรา

การจัดอันดับนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของ Mr. Brad Dowdy เจ้าของบล็อก www.penaddict.com คนเดียวนะครับ

Lamy 2000

จากรสนิยมของ Mr. Dowdy เห็นว่า Lamy 2000 เป็นหนึ่งในปากกาหมึกซึมที่อออกแบบได้สวยที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยครับ Mr. Dowdy บอกว่า ตัวเขาหลงไหลในปากการุ่นนี้เอาซะมากๆครับ Lamy 2000 ผลิตจากไฟเบอร์กลาสที่เรียกว่า Makrolon ผมลองค้นดูคุณสมบัติของวัสดุชนิดนี้ พบว่า มีจุดเด่นที่น้ำหนักเบา แข็งแรง และทนรอยขีดข่วนครับ หัวปากกาเป็นแบบ Hooded Nib คือ หัวปากกาส่วนใหญ่จะซ่อนอยู่ในส่วนที่จับปากกา โผล่ออกมาเฉพาะส่วนปลายของหัวปากกาสำหรับเขียน หัวปากกาของ Lamy 2000 ทำจากทอง 14K

แต่ Mr. Dowdy เล่าว่า Lamy 2000 ของเขา พอลองเขียนดู ปรากฏว่า หัวปากกากัดกระดาษมาก และเส้นขาดๆหายๆด้วย แม้ว่าจะไม่ได้เป็นมากมายอะไร จนถึงกับใช้ไม่ได้ แต่มันก็ทำให้เสียความรู้สึกพอสมควร เมื่อเขาค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตพบว่า ปากการุ่นนี้มีชื่อเสียด้านคุณภาพที่ไม่สม่ำเสมอ จนทำให้เขาต้องส่งปากกาของเขาไปซ่อมหัวปากกาครับ (งงว่า เจอปัญหายังงี้แล้ว ทำไมจึงยังเลือกให้ Lamy 2000 ขึ้นอันดับ 1 อีกหว่า)

Lamy 2000 วางขายในอเมริกาที่ราคาเกือบๆ 200 เหรียญครับ แต่ผมเห็นใน Ebay ขายอยู่ที่ราว 160 เหรียญ และที่ Amazon มีขายที่ราว 130 เหรียญด้วย (ตอนที่ผมเขียน Amazon กำลังลดราคาอยู่นะครับ) ที่เมืองไทยมีขายอยู่เกือบๆ 5,000 บาทครับ

Pilot Custom 74

หัวปากกาของ Pilot Custom 74 ทำจากทอง ซึ่ง Mr. Dowdy บอกว่า เป็นปากกาหมึกซึมที่ดีที่สุดในช่วงราคานี้ และใครที่ได้ครอบครองปากการุ่นนี้ ก็ถือว่าได้ครอบครองปากกาที่เป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง (แล้วไหงไม่จัดให้เป็นอันดับ 1 ซะเลยเนอะ)

Pilot Custom 74 เป็นปากกาแบบ Demonstrator หรือเป็นพลาสติกใสๆ สามารถมองเห็นส่วนประกอบภายในของปากกาได้ มีให้เลือกหลายสี และมีหัวปากกาให้เลือก หลายขนาดด้วย ซึ่ง Mr. Dowdy เลือกหัวปากกาขนาด M ซึ่งหัวปากกาขนาด M ของญี่ปุ่น จะมีขนาดพอๆกับหัวแบบ F ของปากกาทางยุโรปนะครับ

Mr. Dowdy ให้ความเห็นว่า หัวปากกาขนาดนี้เหมาะกับการใช้งานทั่วๆไปได้อย่างดี และเส้นจากปากกา Pilot Custom 74 คมชัดดีมาก ในขณะที่การป้อนหมึกก็ลื่นไหลดีด้วย

ผมสังเกตว่า Mr. Dowdy จะชอบปากกาเส้นเล็กๆนะครับ ปากกาจากฝั่งเอเชียจึงติดอันดับปากกายอดเยี่ยมของแก ในทุกระดับราคาครับ

Pilot Custom 74 ขายในอเมริกาที่ราว 135 USD ครับ

Edison Beaumont

Edison Beamount เป็นปากกา Made in USA ที่มีความสวยงาม คลาสสิก Mr. Dowdy บอกว่า ขอเพียงคุณได้ลองจับปากกานี้สักครั้ง คุณจะติดใจ

Mr. Dowdy ชื่นชมการทำสีของปากกา Beaumont มากครับ บอกว่า เวลาโดนแสงสว่างแล้วสีจะสดใสสวยงามมาก เป็นปากกาที่คุณภาพการผลิตยอดเยี่ยม ตัวปากกามีน้ำหนักเบา เหมาะกับงานเขียนนานๆ

Edison Beaumont เป็นปากกาที่มีขนาดปานกลาง คือ ไม่ใช่ขนาดพกพา และไม่ใช่ Full Size ด้วย ด้านการเขียนก็ดีอย่างไม่มีที่ติครับ ทั้งนี้เพราะ Mr. Brian Gray เจ้าของปากกายี่ห้อนี้จะตรวจสอบ และปรับแต่งปากกาทุกด้ามด้วยตนเอง ก่อนที่จะนำออกมาวางขาย

Mr. Dowdy ไม่ได้พูดถึงระบบสูบหมึกของ Edison Beaumont แต่ผมลองไปดูในเว็บของ Edison pen เห็นว่า ปากการุ่นนี้มีระบบสูบหมึกแบบปั๊มลม น่าสนใจดีครับ การเติมหมึกแบบนี้ยังทำให้ปากกาสั้นลงกว่าปากกาปกติได้นิดหน่อยด้วยครับ

ปากการุ่นนี้วางขายอยู่ที่ 150 USD ครับ

Pilot Vanishing Point

จากความเห็นของ Mr. Dowdy ปากการุ่นนี้เป็นการออกแบบที่น่าทึ่ง ชวนหลงไหลทั้งในแง่ของรูปร่าง และการเขียน แม้จะเป็นหัวปากกาขนาด Extra Fine ซึ่งจะมีเส้นเล็กสุดๆ (เล็กกว่าหัว Extra Fine ของทางยุโรปนะครับ) ก็ยังสามารถเขียนได้ลื่น และสม่ำเสมออย่างน่าประหลาดใจ

เจ้า Vanishing Point นี่ออกแบบมาให้สามารถเก็บหัวปากกาได้ครับ โดยจะมีปุ่มกดที่ส่วนท้ายของด้าม เหมือนปากกาลูกลื่น กดให้หัวปากกาโผล่ออกมา พอเขียนเสร็จก็กดอีกที เพื่อเก็บหัวปากกาครับ คลิปปากกาจะอยู่ตรงส่วนหัวปากกานะครับ ไม่ได้อยู่ตรงด้ามเหมือนกับปากกาลูกลื่น เพราะปากกาหมึกซึมเวลาเก็บควรเก็บหัวปากกาชี้ขึ้น ไม่งั้นหมึกอาจจะไหลออกมาเลอะเทอะได้ครับ

ปากการุ่นนี้ขายในอเมริกาอยู่ที่ราว 130 USD ครับ

Pilot Falcon Elabo

ปากการุ่นนี้มีหัวปากกาแบบ Flexible Nib หรือที่มักจะเรียกสั้นๆกันว่า Flex Nib ครับ หัวปากกาแบบนี้เวลาเขียนโดยไม่ออกแรงกด จะเขียนได้เส้นเล็กมาก แต่ถ้าเพิ่มแรงกดขนาดเส้นจะใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่า สามารถสร้างขนาดเส้นได้ตั้งแต่ EF ไปจนถึง BB เลยครับ Flex Nib นี่จะเหมาะสำหรับการเขียนอักษรวิจิตร (Calligraphy) แต่ก็สามารถใช้งานทั่วไปได้ด้วยครับ

รูปทรงของหัวปากการุ่นนี้แปลกดีครับ ดูเหมือนปากเหยี่ยว จึงเป็นที่มาของชื่อ Falcon ครับ

ปากการุ่นนี้ขายในอเมริกาที่ราว 150 USD ครับ

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page