top of page
  • ฐณิพัชร์ มายะการ

วิเคราะห์ปากกาจีน


ปากกาจีนที่ขายกันส่วนใหญ่ มักจะใส่ไว้ในถาดกระดาษแบบในรูปครับ

จะบอกว่า ไม่รู้จักเพิ่มมูลค่าให้สินค้าก็ใช่นะครับ แต่ก็ดีเหมือนกัน ทำให้

เรามีโอกาสใช้ของดี ราคาไม่แพงครับ

พ่อเล่าให้ฟังว่า ตอนพ่อเด็กๆ ในบ้านเรามีปากกาหมึกซึมขายเยอะกว่าทุกวันนี้ครับ ปากกาหมึกซึมมาตรฐานของเด็กนักเรียนสมัยนั้นก็เป็นยี่ห้อ Pilot กับ Sailor ของญี่ปุ่น เดี๋ยวนี้ทั้งสองยี่ห้อหาซื้อในบ้านเรายากมาก แถมราคาแพงอีกด้วยนะครับ ทั้ง Pilot และ Sailor มีปากกาหรูราคาเรือนหมื่น เป็นที่ใฝ่ฝันของนักเล่นปากกาทั่วโลกเลย สำหรับปากกาที่หรูขึ้นมาในขณะนั้น ก็เป็น Parker กับ Sheaffer ครับ พ่อเล่าว่า Lamy ก็มีขาย แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่สนใจสำหรับคนไทยเท่าไหร่นัก ส่วน Montblanc, Waterman, Dupont จะมีขายเฉพาะในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆเท่านั้นครับ

Hero 616 ที่ทำเลียนแบบ Parker 51 ปัจจุบันปากการุ่นนี้

ก็ยังมีวางขายอยู่ในราคาไม่ถึงร้อยบาท และยังเป็นที่นิยม

ของผู้ใช้ปากกาในต่างประเทศครับ

สำหรับปากการาคาถูกที่มีขายกันเยอะในตอนนั้น คือ ยี่ห้อ Hero จากประเทศจีนครับ พ่อบอกว่า สมัยนั้นเรียกกันว่า ปากกาจีนแดง รุ่นที่ยอดนิยมก็คือ Hero 616 ที่ทำเลียนแบบ Parker 51 มีคลิปเหน็บกระเป๋าเป็นรูปลูกศรแบบเหมือน Parker เลย สมัยนั้นเรามองปากกาจีนว่า เป็นปากกากิ๊กก๊อก ไม่ทน จะมีดีก็แค่ราคาถูกมาก เหมาะสำหรับให้เด็กๆไปใช้ที่โรงเรียนครับ

ปัจจุบันประเทศจีนยังคงเป็นผู้ผลิตปากกาหมึกซึมรายใหญ่ของโลก โรงงานส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจขนาดใหญ่ และทันสมัยของโลก โดยได้ผลิตปากกาออกมาหลายรุ่น หลายยี่ห้อ มีตั้งแต่ราคาด้ามละไม่กี่สิบบาท ไปจนถึงด้ามละเป็นพันบาทครับ ฝีมือการผลิตก็อยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว การเขียนก็ไม่แพ้ปากการาคาแพงๆ แต่ผมจะติดอยู่บ้างก็ที่การออกแบบครับ ผมว่าปากกาจีนออกแบบมางิ้วๆชอบกล (ถ้าเป็นคนไทย ก็ต้องบอกลิเก 5555) คือ ยังออกแบบไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ครับ และยังมีปากกาที่ทั้งก็อปปี้ปากกาดังๆ และพวกที่ทำเลียนแบบ คือ รูปทรงเหมือนปากกาแพงๆ แต่ใช้ชื่อยี่ห้อตัวเอง ผมว่าการที่จีนทำปากกาก็อป หรือปากกาเลียนแบบนี่แหละ ทำให้เสียเครดิตตัวเองมากกว่า ทั้งๆที่การผลิต และคุณภาพก็อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ไปทำเป็นของก็อปซะงั้น เลยกลายเป็นสินค้าเกรดต่ำครับ

ปากกาจีนมักจะทำเลียนแบบปากการุ่นดังๆของยุโรป

แต่ก็มีที่ออกแบบเอง ผมว่าดูยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่

แต่กลายเป็นว่า นักเล่นปากกาทางตะวันตกชอบกันนะครับ

ปากกาหมึกซึมที่ผลิตจากประเทศจีนในปัจจุบันนี่ดูถูกไม่ได้แล้วนะครับ มีหลายรุ่นที่นักวิจารณ์ของฝรั่งยกนิ้วชม และขนาดยกให้เป็นหนึ่งในปากกาที่ดีที่สุดในระดับราคาถูกด้วยครับ

บทความตอนนี้ ผมเอามาจากกระทู้ที่ชื่อ Impressions From My Recent Shopping Spree จากเว็บ fountainpennetwork.com เป็นกระทู้ของผู้ที่ใช้ Username ว่า katerchen ครับ แต่ผมเพิ่มในส่วนประสบการณ์ของผมลงไปด้วยนะครับ (ส่วนที่เป็นความเห็นของนาย katerchen ผมจะใส่ไว้เป็นสีส้มนะครับ)

บทความเรื่องนี้ออกจะยาวสักหน่อย เขียนเสร็จแล้วยังตกใจเองเลย แต่ผมว่าก็มีประโยชน์ดีเหมือนกัน โดยเฉพาะสำหรับคนที่กำลังมองหาปากกาหมึกซึมราคาไม่แพง โดยเราจะได้รู้จักกับปากกาหลายๆรุ่นว่าดี หรือมีปัญหาอย่างไร ซึ่งปากกาที่นาย katerchen เอามาเขียนวิเคราะห์มีทั้งปากการาคาถูกๆ และปากกาที่แพงเวอร์ (สำหรับปากกาจีน) เผื่อใครกำลังสนใจรุ่นไหนอยู่ จะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจ ไม่ต้องลองผิดลองถูกให้เสียตังค์เปล่าครับ

นาย katerchen ออกตัวไว้ก่อนที่จะวิจารณ์ปากกาจีนว่า การควบคุมคุณภาพการผลิตของปากกาจีนยังไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นปากกาที่คุณซื้อมา อาจจะมีคุณภาพต่างจากที่วิจารณ์ไว้ได้

ผมเคยซื้อปากกาจีนรุ่นนึงมาพร้อมกันทีเดียวสิบกว่าด้าม (เพื่อนๆฝากสั่งซื้อมาครับ) เอามาใช้จดงานที่โรงเรีบน ทุกด้ามทำงานได้ดีเหมือนๆกันหมด ตรวจสอบแล้วไม่มีด้ามไหนที่มีตำหนิจากการผลิตเลยครับ อาจจะเป็นเพราะว่าเครื่องจักรสมัยใหม่ มีเปอร์เซ็นต์ความคลาดเคลื่อนต่ำ ทำให้คุณภาพงานมีความเสถียรมากขึ้น ผมเดาว่า ปากกาจีนคงไม่ได้ใช้แรงงานคนนั่งเจียรหัวปากกาทีละหัวแบบปากกาแพงๆของฝรั่งครับ เพราะสังเกตว่า ปากการุ่นหนึ่งมักจะมีหัวปากกาขนาดเดียว ไม่มีขนาดให้เลือกสักเท่าไหร่ครับ

มาดูความเห็นของ นาย katerchen ต่อครับ

ปากกายี่ห้อ Jinhao มีความเสมอต้นเสมอปลายดีที่สุดในบรรดาปากกาจีน ตามมาด้วยยี่ห้อ Hero

ผมมีปากกายี่ห้อ Jinhao อยู่หลายรุ่น (ไปถามคนจีน เค้าบอกอ่านว่า 'เจิ้นห่าว' แปลว่า ดีเยี่ยม) ทุกด้ามงานประณีต เขียนดีหมดครับ มีอยู่ด้ามเดียวตอนที่ได้มา ที่ตรงด้ามปากกามีรอยบุบ ไม่รู้ว่าเกิดจากการ QC ไม่ดีพอ หรือเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งนะครับ แต่ผู้ขายก็ส่งด้ามใหม่มาให้อีกด้ามนึง (กลายเป็นว่า ได้ของมีตำหนิมาใช้ฟรีอีกด้าม อิอิอิ) และปากกาที่ผมสั่งมาพร้อมกันสิบกว่าด้าม ก็เป็นยี่ห้อ Jinhao นี่แหละครับ แต่ก็เจอที่ QC ผิดพลาดอยู่ด้ามนึง คือ ใส่ที่สูบหมึกมาแตกต่างจากเพื่อนในรุ่นเดียวกันครับ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาในการใช้งาน

Jinhao 159 ที่ทำรูปทรงคล้าย Montblanc 149 เป็นหนึ่ง

ในปากกายอดนิยมของ Jinhao

เรื่องปากกามีตำหนินี่ ผมเคยสั่งซื้อปากกาของอเมริกามาด้ามนึง ปรากฎว่ามีตำหนิที่ด้ามเหมือนกัน ผมก็ติดต่อไปที่บริษัทผู้ผลิต (เพราะปกติการเคลมสินค้าในบ้านเราต้องติดต่อกับทางบริษัทครับ) ทางเจ้าของยี่ห้อบอกว่า ผมต้องติดต่อกับผู้ขายเอง ก็เลยต้องไปคุยกับผู้ขายว่า ทำไมยูส่งสินค้ามีตำหนิมาให้ไอ คุยกันนาน ในที่สุดก็ได้คำตอบว่า ให้ผมส่งปากกาที่มีตำหนิกลับไป และต้องออกค่าใช้จ่ายในการส่งด้ามใหม่เอง เอ้ย มันไม่ใช่ความผิดตูนิหว่า ค่าขนส่งไม่ใช่ถูกๆนะ ส่งกลับไปกลับมา ซื้อปากกาด้ามใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ ในที่สุดก็ผมก็ยังคงใช้ปากกาด้ามที่มีตำหนิอยู่ครับ ต่างจากปากการาคาไม่กี่ร้อยจากจีน พอถ่ายรูปส่งไปให้ดูว่าสินค้ามีตำหนิ คุยกันไม่กี่ที ก็ส่งด้ามใหม่มาให้เลย

ปากกายี่ห้อ Jinhao นี่ เป็นปากกาหมึกซึมที่นักวิจารณ์ของฝรั่งกล่าวถึงมากที่สุดในปัจจุบัน และมีร้านขายปากกาออนไลน์ในต่างประเทศหลายร้าน ที่สั่งไปขายด้วยครับ

Hero ผลิตปากกาตั้งแต่ราคาถูก ด้ามละสามสิบสี่สิบบาท ไปจนถึงราคาหลายร้อย

ไปจนถึงพันกว่าบาท ในภาพเป็นรุ่น Hero 955 ด้ามและปลอกปากกาทำจากเซรามิค

รุ่นนี้ขายกันที่ราวเจ็ดร้อยถึงแปดร้อยบาท บางเจ้าก็ขายเป็นพันบาทครับ

ส่วนยี่ห้อ Hero เป็นผู้ผลิตปากกาหมึกซึมที่เก่าแก่ และใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ผลิตปากกาออกมาหลายรุ่นหลายแบบ มีตั้งแต่ราคาสามสิบสี่สิบบาท ไปจนถึงราคาหลายร้อย จึงถึงพันกว่าบาท จากประสบการณ์ของผมกับยี่ห้อนี้ ปากกา Hero ที่ผมมีส่วนใหญ่จะเป็นหัวขนาดเล็ก (F) ซึ่งเทียบเท่ากับหัวขนาดเล็กพิเศษ (EF) ของปากกาทางฝั่งตะวันตก เท่าที่ลองเขียนดู ผมว่าปากกาหัวขนาดเล็กมากของ Hero นี่เขียนได้ลื่นกว่าปากกาหัวขนาดเดียวกันของทางยุโรปนะครับ แต่สำหรับรุ่นราคาถูกมากๆ (สามสิบสี่สิบบาท) เวลาเขียนอาจจะมีความรู้สึกขูดกระดาษนิดๆ แต่ไม่ถึงกับกัดกระดาษนะครับ ถ้าเป็นฝรั่งเค้าจะบอกว่า มี Feedback แต่ไม่ถึงกับ scratchy ครับ โดยทั่วไปผมสังเกตว่า ปากกา Hero ใช้วัสดุในการผลิตด้อยกว่า Jinhao และบางยี่ห้อครับ คือ ใช้วัตถุดิบที่เป็นพลาสติกค่อนข้างมาก ขณะที่ Jinhao นี่จะเป็นโลหะแทบทั้งด้ามเลย

Duke ปากการ่วมทุนระหว่างเยอรมัน และจีน ในภาพเป็นรุ่น 209

เขียนดีมาก ในราคาที่ยังไม่แพงเกินไป

ปากกาจีนอีกยี่ห้อ ที่ผมประทับใจมากๆ คือ Duke ครับ แต่นาย katerchen ไม่ได้พูดถึงยี่ห้อนี้เท่าไหร่นัก เท่าที่หาข้อมูลเจอในเน็ท ปากกายี่ห้อนี้บริษัท Duke จากเยอรมันไปซื้อกิจการโรงงานปากกาที่เซี่ยงไฮ้ แล้วก็ผลิตมาเป็นยี่ห้อนี้ แต่ผมก็ไม่เห็นปากกายี่ห้อนี้ขายในเยอรมันหรือยุโรปนะครับ จะมีขายก็เฉพาะในจีนเท่านั้น

สำหรับยี่ห้อ Duke นี่ผมมีอยู่แค่ 2 รุ่นครับ เพราะปากกายี่ห้อนี้จะแพงกว่า Jinhao และ Hero พอสมควร จะมีก็แต่รุ่น 209 ที่ยังมีราคาไม่แพงนัก ขนาดของหัวปากกาหมึกซึม Duke เมื่อเทียบกับทางยุโรปแล้ว น่าจะเป็นขนาด F/M หรือ Fine Medium คือ ขนาดลายเส้นจะใหญ่กว่า Fine นิดนึง แต่ยังไม่เท่ากับ Medium ครับ หัวปากกายี่ห้อนี้เขียนลื่นเวอร์จริงๆ ลื่นกว่าปากกาจากยุโรป และอเมริกาทุกรุ่นที่ผมมีเลยครับ (ผมอาจจะยังมีปากกาไม่มากพอนะครับ) ขนาดที่นักวิจารณ์ฝรั่งบางคน พูดถึงหัวปากการุ่นนี้ว่า Extreme Smooth วัสดุที่ใช้ในการผลิตของ Duke ก็ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน การออกแบบก็สวยงาม ไม่ได้เลียนแบบปากกายี่ห้อดังๆเหมือน Jinhao ครับ

Picasso เป็นปากกาที่ออกแบบสวยครับ แต่ราคาจะค่อนข้างแพง

เมื่อเทียบกับปากกาจีนยี่ห้ออื่นๆ

Baoer และ Picasso มีทั้งดีเลวปนๆกันไป (แต่ออกจะไปในทางน่าผิดหวังซะมากกว่า)

ผมยังมีปากกายี่ห้อ Picasso จึงไม่สามารถออกความเห็นได้ครับ ที่ไม่ได้ซื้อปากกายี่ห้อนี้ไว้เลย เพราะราคาจะแพงกว่าทุกยี่ห้อที่พูดมาแล้วทั้งหมดครับ ยิ่งรุ่นที่ออกแบบสวยๆ ราคาปาเข้าไปเฉียดๆ Kaweco Sport หรือ Lamy Safari กันเลยทีเดียว ผมเลยไม่มีความคิดที่จะซื้อมาลองใช้ครับ ราคาขนาดนี้ผมไปซื้อปากกาญี่ปุ่น หรือเพิ่มเงินไปซื้อ Kaweco Sport หรือไม่ก็ Lamy Safari ดีกว่าครับ

ฺBaoer 3035 ปากกาที่สวย และงานเนี๊ยบมากๆ แต่ยังไม่เคยมีใคร

วิจารณ์ปากการุ่นนี้ในแง่ดีเลย

ส่วน Baoer นี่ผมมีอยู่รุ่นเดียวเลยครับ คือ Baoer 051 ครับ ปากกายี่ห้อ Baoer นี่ผลิตด้วยวัสดุที่ดี การผลิตประณีตมากครับ คือ สวยมากๆๆๆๆเลยล่ะ แต่ข้อเสียอยู่ที่หัวปากกาเขียนไม่ดีเลยครับ ส่วนใหญ่จะเขียนฝืดมาก ไปจนถึงกัดกระดาษเลย แถมหัวปากกาก็บางมากด้วย มีบางรุ่นที่ฝรั่งทำรีวิวมาบอกว่า การป้อนหมึก (Feed) ไม่ดีครับ เขียนได้สัก 2-3 หน้ากระดาษ ก็จะเขียนไม่ออก แก้ปัญหาด้วยวิธีต่างๆก็ไม่หาย ผมเคยพบปัญหานี้กับปากกาจากปากีสถานครับ สุดท้ายก็ต้องส่งไปนอนยาวในกล่อง

ด้วยจุดเด่นของ Baoer อยู่ที่สวยมาก และที่สำคัญ ซึ่งผมชอบมาก คือ ปากกายี่ห้อนี้จะไม่มีชื่อยี่ห้อตัวเองบนปากกาเลยครับ จะมีก็แต่เฉพาะที่หัวปากกาอย่างเดียว พ่อผมก็เลยสั่งปากกายี่ห้อนี้มา แล้วไปสั่งหัวปากกาจากอินเดีย ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด รวมถึง Flex และ Stub ด้วย แล้วเอามาเปลี่ยนกับหัวปากกา Baoer ครับ เท่านี้ก็ได้ปากกาที่หรูหรา เขียนดี ในราคาไม่แพงอีกด้ามแล้ว 5555

นาย katerchen บอกต่อไปว่า เค้าไม่ใส่ใจกับที่สูบหมึกคุณภาพต่ำของปากกาจีน แต่จะซื้อที่สูบหมึกดีๆมาเปลี่ยนแทน เพราะในเว็บฝรั่งมีหลายคนที่มาบอกว่า ที่สูบหมึกของจีนกิ๊กก๊อกมา ใช้ไม่นานก็พัง นาย katerchen บอกว่า เค้าจะไม่เอาแค่เรื่องที่สูบหมึกอย่างเดียว มาติปากกาทั้งด้ามหรอก

เห็นด้วยกับเรื่องที่สูบหมึกคุณภาพต่ำครับ แต่ผมคิดแตกต่างจากนาย katerchen หน่อยนึง คือ แทนที่จะไปซื้อที่สูบหมึกดีๆ ซึ่งมีราคาพอๆกับปากกาอีกด้าม ถ้ารวมค่าขนส่งแล้ว ราคาอาจจะพอๆกับปากกา 2-3 ด้ามเลยทีเดียว ผมเลยสั่งซื้อที่สูบหมึกจีนนั่นแหละมาเก็บไว้อีกโหลนึง พังก็เปลี่ยนใหม่แค่นั้น แต่เท่าที่ใช้ปากกามา ผมยังไม่เจอปัญหาที่สูบหมึกพังเลยนะครับ จะมีแต่ถ้าถอดใส่บ่อยๆ ก็จะหลวมได้ แค่ไม่ใส่เข้าถอดออกบ่อยๆ ก็หมดปัญหาแล้วครับ

จากนั้นนาย katerchen ก็พูดถึงปากกาแต่ละรุ่น ดังนี้ครับ

Kaigelu 316 ปากกาจีน ราคาค่อนข้างแพง รุ่นยอดนิยมของผู้ใช้ปากกาฝั่งตะวันตก

ตัวปากกาทำจากเซลลูลอยด์ งานสวยมากครับ

ยอดเยี่ยม

Kaigelu 316 ปากการุ่นนี้ทำมารูปร่างเหมือน Parker Duofold Centennial มีคุณภาพการผลิตที่ดีเลิศ แม้ว่าปากกาจะค่อนข้างหนัก แต่ก็เขียนดี แถมยังใช้หัวปากกามาตรฐาน เบอร์ 6 ทำให้สามารถหาหัวปากกาดีๆมาเปลี่ยนได้ตามต้องการ

นาย katerchen ซื้อปากกาด้ามนี้มาราคา $20 ซึ่งเค้าบอกว่า ไม่น่าเชื่อว่า ด้วยราคาแค่นี้ จะได้ปากกาที่คุณภาพเยี่ยมขนาดนี้

ปากการุ่นนี้ฝรั่งซื้อไปใช้กันเยอะเลยทีเดียวครับ ตัวปากกาทำจากเซลลูลอยด์ สวยมากๆ ซึ่งก็เป็นปกติของปากกาเซลลูลอยด์ที่มักจะมีราคาแพงกว่านะครับ ส่วนตัวผมยังไม่มี Kaigelu 316 ครับ แม้ว่าเคยคิดจะซื้อหลายรอบแล้ว เพราะชอบปากกาเซลลูลอยด์ครับ (ลูกปิงปองเมื่อก่อนนี้ก็ทำจากเซลลูลอยด์ ใช้ปากกาแล้วคิดถึงลูกปิงปองรุ่นก่อนครับ อิอิอิ) แต่ก็มาติดที่ราคาค่อนข้างแพงนี่แหละครับ หกเจ็ดร้อยบาท ไปซื้อปากกา Pilot หรือ Platinum (บางรุ่น) จากญี่ปุ่น รวมค่าส่งถึงเมืองไทยได้สบายๆเลย หรือจะเพิ่มเงินอีกหน่อย ไปซื้อ Kaweco Sport หรือ Lamy Safari ก็ยังได้ ทำให้ผมยังไม่เคยมีปากการุ่นนี้ครับ

๋Jinhao 699 ปากการาคาไม่แพง มีให้เลือกหลายสี ตัวปากกาทำจากโลหะ

ลายเส้นขนาดเล็กพิเศษ เขียนลื่นดีมาก

Jinhao 699 เป็นปากการาคาถูก นาย katerchen ได้มาในราคา $6 เขารู้สึกแฮปปี้กับปากการุ่นนี้มาก เขาว่า ถ้าคุณชอบปากกา Lamy CP1 คุณก็จะชอบปากการุ่นนี้

Jinhao 699 นี่ ผมได้มาจากร้านเครื่องเขียนในเมืองไทย ด้วยราคาไม่ถึงร้อยบาท หรือร้อยนิดๆนี่แหละครับ เป็นปากกาผอมๆ เรียวๆ ขนาดลายเส้น EF เขียนลื่นดีมาก วัสดุที่ใช้ผลิตก็จัดว่าใช้ได้เลยครับ แต่รุ่นนี้จะไม่สามารถเอาปลอกปากกาไปเสียบไว้ที่ท้ายด้ามได้นะครับ

๋Jinhao Century ปากกาหรูที่ทำจากเซลลูลอยด์ มีอยู่ 2 รุ่น

รุ่นแรกออกตัวปากกาจะใหญ่กว่านิดหน่อย ปัจจุบันมีราคา

ค่อนข้างสูงครับ

ดีมาก

Jinhao Century ปากกาอีกรุ่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Parker Duofold

ปากการุ่นนี้ทำจากเซลลูลอยด์ แต่ที่ผมมีอยู่เป็นสีดำครับ (เพราะราคาถูกกว่า 5555) ขนาดหัวปากกาเส้นเล็กพิเศษ (เพิ่มลูกชิ้น ไม่ใช่! ขนาด EF ครับ) ปากการุ่นนี้เป็นหนึ่งในปากกาที่ผมชอบมากที่สุดเลยครับ เขียนสนุกมาก ลื่น เส้นไม่เคยขาดเลย ราคาของ Jinhao Century นี่ก็แพงไม่ใช่ย่อยครับ ด้ามนึงตกหกเจ็ดร้อยบาทแน่ะครับ บางรุ่นที่ลวดลายสวยๆ ด้ามนึงเป็นพันบาทก็มีครับ

Hero 1000 ปากกาที่เลิกผลิตไปแล้ว ปัจจุบันขายกันพันกว่าบาทครับ

Hero 1000 เป็นปากกาที่ทำออกมาเลียนแบบ Parker 51 อีกรุ่นของ Hero ครับ แต่จะหนักกว่า Parker 51 เพราะวัสดุที่ใช้ทำด้ามปากกา (ก็แปลว่า ด้ามปากกาน่าจะทำจากโลหะนะครับ) เป็นปากกาที่เชื่อถือได้อย่างมาก หัวปากกาทำจากทองคำ 10K หัวปากกาค่อนข้างแข็ง คือ ไม่มี Flex เท่าไหร่นัก แต่เขียนได้ลื่นมาก ปากกาด้ามนี้ราคาสูงถึง $40 แน่ะครับ

ผมไม่มีปากการุ่นนี้นะครับ ราคาขายถูกที่สุดที่หาได้ยังพันสองพันสามร้อยบาทเลยครับ บอกตรงครับ ปากกาจีนราคาเกินครึ่งพันเนี่ย ผมไม่กล้าครับ ปากการุ่นนี้เป็น Hooded Nib คือ ตัวด้ามจับ (Grip Section) จะคลุมส่วนหัวปากกาไว้ เหลือส่วนปลายของหัวปากกาโผล่พ้นออกมานิดเดียว ผมมีปากกาของ Hero ที่เป็น Hooded Nib อยู่ 3 รุ่น ก็ขอเล่าให้ฟังแล้วกัน แต่คงจะเทียบกับ Hero 1000 ที่หัวปากกาทำจากทองคำ 10K ไม่ได้แน่ๆครับ

ปากกาหมึกซึมแบบ Hooded Nib นี่ จะมีข้อดีตรงที่ตัวที่จับคลุมหัวปากกาส่วนใหญ่ไว้ ทำให้หมึกบนหัวปากกาไม่แห้งง่ายๆครับ เหมาะที่จะเอาไปใช้เวลาเอาไปจดแลคเชอร์ หรือบันทึกการประชุม แบบที่ต้องเปิดปลอกปากกาไว้นานๆ เพื่อนั่งฟัง พอมีอะไรสำคัญก็จดสักทีครับ

ปากกาแบบนี้ที่ผมมีทั้งหมดเป็นเส้นขนาด EF ครับ (ปากกาลักษณะนี้ของจีน ผมเห็นมีแต่หัวขนาด EF เท่านั้นนะครับ) ลายเส้นเล็ก คมมาก น้ำหนักก็เบา ใช้จดงานทั้งวันสบายๆครับ ผมต้องชมหัว EF ของจีนจริงๆครับ เขียนได้ลื่นดีมาก แม้ว่าจะสู้ปากกาญี่ปุ่นไม่ได้ แต่ถ้าวัดระหว่างหัว EF ของจีน กับปากกาจากทางยุโรปแล้ว อยากบอกว่ายังดีกว่าปากกายุโรปชื่อดังบางยี่ห้อด้วยซ้ำครับ

Hero 7009 เป็นปากกาที่คลาดกับผมมาหลายที จนในที่สุดก็ยังไม่ได้เป็นเจ้าของครับ

Hero 7009 ปากการุ่นนี้มีหัวขนาดเล็ก และหัวแบบ Fude ให้เลือก นาย katerchen ได้มาในราคา $10 แต่เขาบอกว่าไม่ค่อยได้ใช้ปากการุ่นนี้มาเท่าไหร่ เลยให้ความเห็นไม่ค่อยได้มาก

ปากการุ่นนี้ผมก็ไม่มีครับ ดูเหมือนว่า Hero จะเลิกผลิตไปแล้ว เจ้าที่ยังเหลืออยู่ก็ตั้งราคาซะเวอร์ ไปจนถึงเจ็ดแปดร้อยบาทก็มี ก็เลยถอยดีฝ่า ม่ายอาวววว ดีฝ่า

Jinhao X750 ปากกาจีนยอดนิยมของชาวตะวันตก หาดูรีวิว

จากยูทูปได้หลายรายเลยครับ

Jinhao X750 สำหรับรุ่นนี้นาย katerchen ยกให้เป็น The Gold Standard สำหรับปากกาจีนที่คุณภาพดี ราคาไม่แพงเลยครับ เป็นปากกาที่เขียนลื่นไม่มีสะดุด ซึ่งเค้าบอกว่า สำหรับชื่อเสียงของปากการุ่นนี้ ทุกคนก็รู้กันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดมากละกัน (อ้าว แล้วคนที่ยังไม่รู้จะทำไงดีล่ะ)

Jinhao X750 นี่แหละ เป็นปากกาที่ผมสั่งมาสิบกว่าด้ามครับ เรียกว่า ใช้กันทั้งแกงค์เลยล่ะ และยังมีแนวโน้มจะสั่งมาเพิ่มอีกด้วยครับ ปากการุ่นนี้ทำจากโลหะทั้งด้าม การผลิตดีมาก เขียนลื่นไม่มีสะดุดจริงๆครับ

อันนี้นอกเรื่องจากปากกาจีนนิดครับ ปากกาที่ผมได้มาใหม่ทุกด้าม ผมจะแยกชิ้นส่วน ถอด Nib และ Feed ออก แล้วล้างด้วยสารละลายอ่อนๆ เพื่อให้ขจัดสิ่งสกปรก และคราบน้ำมันจากการผลิตให้หมด ก่อนที่จะนำไปเติมหมึกใช้งานนะครับ ไม่เฉพาะปากกาจีนเท่านั้น ปากกาเยอรมันที่ผมได้มาใหม่ๆ แล้วเติมหมึกใช้เลย ตอนแรกก็มีเขียนติดๆขัดๆ ต้องใช้ไปสักระยะจึงจะเริ่มเขียนได้ดี แต่หากล้างให้สะอาดก่อนปัญหาเหล่านี้จะหมดไปครับ สำหรับปากกาจีนอาจต้องมีปรับแต่ง Nib นิดหน่อยครับ เพราะการประกอบของจีน บางทีก็ประกอบไม่ดี เท่านี้ปากกาก็ใช้ได้ดีแล้วครับ เว้นแต่บางรุ่นที่หัวปากกามีปัญหาจริงๆ ก็ต้องลงมือซ่อมหัวปากกากันครับ

Baoer 051 ปากกายี่ห้อนี้การผลิตดี ออกแบบสวย แต่หัวปากกา

ไม่ดีเอาซะเลย จะมีบางรุ่นเท่านั้น ที่คุณภาพหัวปากกาพอใช้ได้ครับ

ดี

Baoer 051 ปากการุ่นนี้ทำออกมาหน้าตาเหมือนกับ Monteverde Impressa ปากกาของอเมริกาครับ นาย katerchen บอกว่า รุ่นนี้เป็นข้อยกเว้นของ Baoer ที่เขียนได้ดี คุณภาพการผลิตก็ดีมาก (ปกติปากกายี่ห้อนี้เขียนไม่ดี แต่งานสวยครับ)

ในเว็บฝรั่ง มีบางคนบอกว่า Monteverde จ้างให้ Baoer ผลิตตัวปากการุ่น Impressa ให้ แล้ว Baoer ก็เลยทำปากกาหน้าตาคล้ายกันออกมา แต่สัดส่วนไม่ได้เท่ากันเป๊ะๆนะครับ ปากการุ่นนี้งานสวยมากจริงๆครับ เลยทำให้ผมตัดสินใจซื้อมา โดยไม่สนว่าจะเขียนดีรึเปล่า โดยกะว่าค่อยเอาไปเปลี่ยนหัวปากกาทีหลังครับ แต่ด้ามที่ผมได้มาก็เขียนได้ดีพอสมควรนะครับ ไม่ถึงลื่นปรู๊ดปร๊าด และมี Feedback เวลาเขียนอยู่บ้าง แต่ใช้เขียนภาษาไทยแทบจะไม่รู้สึกถึง Feedback เลยครับ คือ ภาษาไทยเราจะเขียนตัวอักษรทีละตัว ไม่ได้เขียนต่อเนื่องยาวๆแบบภาษาอังกฤษครับ ถ้าใช้เขียนภาษาอังกฤษแบบตัวเขียน (Cursive) จะรู้สึกถึง Feedback มากกว่าครับ

อย่างไรก็ตามสำหรับปากกายี่ห้อ Baoer นี่ นาย katerchen ถึงกับออกปากว่า จะไม่ยอมเสียเงินให้ปากกายี่ห้อนี้อีกเป็นอันขาดครับ

Duke 116 เป็นปากกาเซลลูลอยด์ครับ ผมค่อนข้างเชื่อมั่นยี่ห้อนี้

แต่ไม่เคยใช้รุ่น 116 ครับ

Duke 116 ด้ามที่นาย katerchen ซื้อมาด้ามทำจากไม้ชิงชันครับ นาย katerchen บอกว่าปากการุ่นนี้เวลาเขียนหมึกจะค่อนข้างแห้ง ทำให้มีปัญหาเวลาเริ่มเขียนใหม่ๆทุกครั้ง ทำให้ต้องเขย่าปากกาก่อนเขียนครับ

Duke 116 นี่ผมไม่มีนะครับ เพราะปากกาเริ่มมีราคาแพงแล้ว รุ่นนี้นอกจากแบบที่ด้ามทำจากไม้แล้ว ยังมีแบบที่ด้ามเป็นเซลลูลอยด์ด้วยครับ เรื่องที่ปากกาออกไปทางแห้งสักหน่อยนี่ จริงๆถ้าปรับแต่ง Nib นิดเดียว ก็แก้ปัญหาได้ไม่ยากนะครับ

Hero 1023 ปากกาจีนอีกรุ่น ที่ราคาเกินพันบาทครับ

Hero 1023 เป็นปากกาที่ใส่มาในกล่องหรู นาย katerchen บอกแค่ว่า เป็นปากกาที่เขียนดีครับ

ผมคิดว่าปากการุ่นนี้เป็นปากกาที่เลิกผลิตไปแล้ว ราคาเท่าที่หาได้เกินพันบาทไปแล้ว ผมไม่มีปากการุ่นนี้นะครับ ด้ามปากกาเป็นเซลลูลอยด์ ประดับด้วยลายฉลุสีเงินสวยดีครับ

Picasso 902 นาย katerchen บอกแค่ว่า เป็นปากกาที่ค่อนข้างผอม เขียนดี ด้ามที่เขาซื้อมาเป็นสีแดงตัดกับสีทอง สวย

ปากการุ่นนี้ยี่ห้อนี้รุ่นที่สวยๆจะแพงเวอร์เลยครับ อย่างรุ่นนี้ราคาจะหกเจ็ดร้อยขึ้นครับ (ที่บอกว่าแพงเวอร์ คือ เวอร์สำหรับปากกาจีนนะครับ ในราคาเท่านี้หาปากกาจากญี่ปุ่น หรือปากกาจากตะวันตก ที่คุณภาพไว้ใจได้มากกว่า มาใช้งานได้สบายๆเลยครับ)

Jinhao 950 ตัวปากกาทำจากกระเบื้องเคลือบ

พอใช้ได้

Jinhao 950 เป็นปากกาที่ด้ามและปลอกปากกาทำจากกระเบื้องเคลือบ มีลายมังกรสีน้ำเงินแบบเครื่องลายครามครับ ปากการุ่นนี้ไม่ค่อยเหมาะกับนำไปงานจริง เพราะนอกจากจะหนักแล้ว ตัวปากกายังอ้วนมากๆด้วย ปากการุ่นนี้ตอนที่เติมหมึกใหม่ๆจะเขียนดีมาก แต่พอทิ้งไว้สักวัน หัวปากกาจะแห้งมาก แม้ว่าจะปิดปลอกปากกาไว้ก็ตาม ด้วยเหตุนี้นาย katerchen จึงให้ปากการุ่นนี้อยู่แค่ในระดับพอใช้

ปัญหาที่ว่าหัวปากกาแห้งเมื่อทิ้งไว้ข้ามวัน ผมเดาว่า เป็นเพราะปลอกปากกาที่ทำจากดินเผานั่นเองครับ เพราะกระเบื้องเคลือบนี่จะเคลือบแค่ด้านเดียว แต่ด้านหลังจะเป็นดินเผาที่มีรูพรุนๆ และด้วยความแห้งสนิทของดินเผา ทำให้ดูดความชื้นได้ดีนั่นเอง ถ้าใครสนใจปากกาที่ด้ามทำจากกระเบื้องเคลือบ ลองหาดูรุ่นอื่นที่ปลอกปากกาทำจากโลหะ น่าจะแก้ปัญหานี้ได้ แต่ผมก็ยังไม่เคยทดลองนะครับ

Baoer รุ่นม้า 8 ตัว ฝรั่งชอบลวดลายของปากการุ่นนี้กันนะครับ

แต่ผมว่ามันดูเยอะไปหน่อยน่ะครับ

Baoer 507 ปากการุ่นนี้ฝรั่งเรียกกันว่ารุ่น ม้า 8 ตัว เพราะที่ด้ามทำลายนูนสูงรูปม้า 8 ตัวครับ นาย katerchen บอกว่า จริงๆแล้วรุ่นนี้ก็เป็นปากกาที่ไม่เลว ลายนูนสูงก็ไม่ได้ทำให้รำคาญเวลาเขียน แต่ปัญหาอยู่ที่หัวปากกาซึ่งทำจากโลหะที่บางมากของ Baoer

Baoer 801 เป็นปากกาที่เล็กและผอมมาก ซึ่งไม่เหมือนกับที่ดูจากรูปเวลาจะซื้อเลย และก็ยังคงใช้หัวปากกาที่ทำจากโลหะบางๆเหมือนเดิม

เรื่องหัวปากกาของบางมากของ Baoer นี่จะเป็นปัญหามากสำหรับการเขียนตัวเขียนในภาษาอังกฤษครับ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมว่าหัวปากกาของ Baoer ยังอยู่เกณฑ์ไม่น่าใช้ครับ

Baoer 388 เป็นปากกาที่ออกมาหลายสี หลายลาย แฟนซีมากครับ

แต่ผมว่าสีสแตนเลสธรรมดาๆ นี่สวยที่สุด

ไม่น่าสนใจ

Baoer 388 เป็นปากกาที่ทำเลียนแบบ Parker Sonnet นาย katerchen สั่งปากการุ่นนี้มาหลายด้าม ปรากฎว่าทุกด้ามมีปัญหาเหมือนกัน คือ ปลายหัวปากกาที่มีรอยผ่าแบ่งครึ่งทั้งสองด้านไม่ตรงกัน (Misaligned tines) เป็นผลให้ทั้งการไหลของน้ำหมึก และลายเส้นวุ่นวายไปหมด

อันที่จริงแล้วปัญหา Misaligned tines นี่แค่เกิดขึ้นนิดหน่อย แบบที่มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น ยังมีผลทำให้หัวปากกากัดกระดาษแล้ว แต่นี่ขนาดเขียนออกเป็นสองเส้น ยังงี้รับไม่ได้จริงๆครับ แถมเจ้าตัวยังบอกว่าเป็นทุกด้ามอีกด้วย

Wing Sung 322 เป็นปากการาคาถูก ที่ปลอกเป็นอลูมิเนียมซึ่งฝืดมากๆ

Wing Sung นี่เคยเป็นโรงงานผลิตปากกาหมึกซึมที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจีน รองจาก Hero ครับ แต่ได้ปิดกิจการไปแล้วในปี 1999 ปากกายี่ห้อนี้พ่อบอกว่าเคยมีวางขายในบ้านเราในราคาไม่แพงครับ ผมมีปากกายี่ห้อนี้ แต่ไม่ใช่รุ่น 322 จึงออกความเห็นอะไรไม่ได้มากนัก แต่ผมชอบ Wing Sung ที่ผมมีอยู่มากๆซะด้วยครับ

Picasso 907 เป็นปากกาที่สวยรุ่นหนึ่งครับ แต่นาย katerchen บอกว่า ทำให้เขาผิดหวังเอามากๆ หัวปากกาแห้งเร็วมาก แถมยังมีปัญหา Misaligned tines ทำให้เขียนกัดกระดาษเอามากๆ

Picasso 916 ปัญหาเหมือนกับรุ่น 907 ครับ

ผมออกความเห็นเกี่ยวกับปากกายี่ห้อ Picasso ไม่ได้ เพราะยังไม่มีสักด้ามครับ

ผมมองว่า ยังมีปากกาจีนอีกหลายรุ่นที่ นาย katerchen ไม่ได้พูดถึง และเป็นปากกาคุณภาพดีซะด้วย ไว้มีโอกาสเราจะมาคุยกันถึงรุ่นอื่นๆอีกทีนะครับ

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page