เหตุผล 8 ประการ ที่ควรเป็นเจ้าของปากกาหมึกซึมราคาแพง

บทความนี้ผมไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อชักจูงใจให้ใครต่อใครไปเสียเงินกับปากกาหมึกซึมราคาแพงนะครับ แต่มันเป็นคำถามในใจผมมานานแล้วว่า จำเป็นอย่างไรที่จะต้องซื้อปากการาคาแพงครับ พอดีไปเจอบทความนี้ ก็เลยเรียบเรียงมาให้อ่านกันขำๆครับ

บทความนี้ผมเรียบเรียงมาจากเรื่อง 8 Reasons to Own an Expensive Fountain Pen ครับ

Montblanc Pablo Picasso เป็นปากกาที่ผมชอบมากๆๆๆๆๆเลยครับ

แต่ชาตินี้น่าจะได้แต่ดูรูปเท่านั้น คงไม่มีโอกาสได้เห็นตัวเป็นๆแน่เลย

Montblanc Pablo Picasso Artisan Edition ผลิตออกจำหน่ายในปี 2012

ปัจจุบันนี้ ถ้าโชคดีพอก็อาจจะยังหาที่ราคาต่ำกว่าสองล้านได้สักเล็กน้อยครับ

ในยุคของปากกาลูกลื่นแบบใช้แล้วโยนทิ้งราคาไม่กี่สิบบาท และยุคแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลนี้ ยังมีคำถามว่า จะมีใครที่ยอมจ่ายเงินเป็นหมื่นบาทหรือมากกว่านั้น สำหรับสิ่งที่ในความรู้สึกของใครบางคนแล้ว มันเป็นเพียงแค่เครื่องเขียนชิ้นนึงเท่านั้น – ปากกาหมึกซึม

นี่คือเหตุผลเล็กๆน้อยๆที่ยังคงชื่นชอบในปากกาหมึกซึมชั้นดี

1. หัวปากกาที่ทำด้วยทองคำ (Gold Nib)

ผู้ที่คลั่งไคล้ในปากกาหมึกซึมที่หัวปากกาทำด้วยทองคำ จะสามารถบอกคุณได้ถึงประสบการณ์การเขียนที่นุ่มนวลกว่า เขียนลื่นกว่า และน่าพึงพอใจกว่าการใช้ปากกาที่มีหัวทำจากสแตนเลส นี่ไม่ใช่จะบอกว่า หัวปากกาที่ทำจากสแตนเลสจะเขียนลื่นไม่ได้นะ แต่วัสดุที่แตกต่างกัน ก็จะมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันตามไปด้วย และนักเขียนบางคนก็บอกว่า ความอ่อนของทองคำใช้ทำหัวปากกาได้ดีที่สุด แน่นอนล่ะ ราคาของทองคำย่อมแพงกว่าราคาของสแตนเลส

อืม ข้อนี้ไม่มีความเห็นครับ ผมยังไม่เคยลองเขียนปากกาที่มีหัวปากกาทำจากทองคำเลย

2. คุณภาพ

มีคำกล่าวว่า ‘คุณได้ ในสิ่งที่คุณจ่าย’ เมื่อคุณจ่ายเงินเพิ่มขึ้น สำหรับปากกาหมึกซึมราคาแพง ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต และงานฝีมือจะต้องเยี่ยมยอดอยู่แล้ว (อย่างน้อยก็จะต้องดีขึ้นในระดับหนึ่งล่ะ) ก็เหมือนกับการซื้อเครื่องประดับ ที่ทำจากทองคำแท้และอัญมณีชั้นดี เมื่อเทียบกับเครื่องประดับราคาถูกนั่นแหละ

ข้อนี้ก็ออกความเห็นไม่ได้อีกเหมือนกัน ผมยังไม่มีเครื่องประดับสักชิ้น นอกจากสร้อยพระสแตนเลสเส้นเดียวครับ 5555

3. เป็นของสะสม

ปากกาหมึกซึมที่เป็น Limited Edition เป็นที่ต้องการของบรรดานักสะสม และบ่อยครั้งที่จะมีราคาสูงขึ้นกว่าปากกาหมึกซึมปกติ

อันนี้ก็จริงอยู่ครับ แต่ผมขอแค่ Lamy Safari Special Edition ก็พอนะครับ ไปไม่มีปัญญาไปหา Montblanc Plabo Picasso มาเก็บไว้เก็งราคาหรอกครับ

4. ระบบเติมหมึก (Filling System)

นักเขียนหลายๆคนชื่นชอบระบบเติมหมึกแบบ Piston Filler มากกว่าที่จะใช้หมึกหลอด หรือที่สูบหมึก ซึ่ง Piston Filler เป็นระบบเติมหมึกที่นิยมใช้กันทั่วไปในบรรดาปากการาคาแพง

โธ่เจ๊ ! ยุคนี้มีปากกา Piston Filler ราคาไม่แพงขายในตลาดหลายรุ่นแล้ว ล่าสุดนี่ก็ TWSBI Eco ไง ไหนยังปากกาจากอินเดียอีกล่ะ ผมนี้มีปากกา Piston Filler ตั้ง 3-4 ด้าม ราคาแต่ละด้ามไม่กี่ร้อยบาทเอง 5555

5. สืบทอดเป็นมรดก

ปากกาหมึกซึมราคาแพงสามารถมีอายุยืนยาว จนสืบทอดเป็นมรดกให้ลูกหลานได้ นักเขียนหลายคนในทุกวันนี้ได้รับปากกาหมึกซึมเป็นมรดกสืบทอดมาจากรุ่นคุณปู่ และปากกาด้ามนั้นก็จะสามารถสืบทอดต่อไปถึงรุ่นลูก รุ่นหลานของเขาได้อีก

หวังว่ารุ่นหลาน รุ่นเหลนจะรู้นะว่าปากกาหมึกซึมด้ามนั้นราคาเท่าไหร่ ไม่ใช่เอาไปแลกบัตรเติมเงินเกมส์ออนไลน์ซะก่อนล่ะ 5555

6. สิ้นเปลืองน้อยกว่า

ปากกหมึกซึมคุณภาพดีๆ จะเขียนได้เป็นปีๆ โดยจะไม่ถูกโยนทิ้งลงถังขยะเมื่อหมึกหมด แต่สามารถกลับมาเติมหมึกสีสันต่างๆตามที่ต้องการได้อีก

ไม่ต้องถึงกับปากการาคาแพงหรอกครับ ปากกาจีนของผม ราคา 40-50 บาท ก็เติมหมึกใช้มาหลายปีแล้วครับ

7. บ่งบอกถึงสถานภาพ

ยอมรับความจริงซะเถอะ ในสถานการณ์ที่สถานะทางสังคมเป็นสิ่งจำเป็น ปากกาหมึกซึมไฮโซจะเป็นเครื่องส่งสารไปยังผู้อื่น ให้เห็นถึงความสำเร็จ และบ่งบอกถึงรสนิยมอันเหลือร้ายของคุณ ได้ดีกว่าพวกปากกาลูกลื่นที่ทำจากพลาสติก

แรงส์จริง !!! อ่านข้อนี้เสร็จแล้ว รู้สึกว่าต้องรีบไปหา St. Dupont มาพกสักด้ามเลย เห็นที่คลองถมมีขายราคาไม่กี่สิบบาท อ้อ ต้องซื้อโรเล็กซ์มาอีกเรือนด้วย เสร็จแล้วไปกินก๋วยเตี๋ยวจับกังต่อ

Jinhao 159 ออกแบบมาคล้ายๆกับ Montblanc Meisterstuck 149

อาจพอทดแทนกันได้ในความรู้สึก สำหรับคนที่งบประมาณน้อย 5555

8. การออกแบบ

นอกเหนือไปจากคุณสมบัติของการเป็นเครื่องเขียนชั้นเลิศแล้ว ปากกาหมึกซึมชั้นดีบางด้ามยังคงเป็นงานศิลป์ชั้นยอดอีกด้วย

ปากกาที่ผมใช้ก็ออกแบบไม่ต่างจากปากกาแพงๆนะ ก็อปมาเหมือนเด๊ะๆเลยล่ะ 5555

คุณเขียนหนังสือด้วยปากกาหมึกซึมชั้นยอดอยู่รึเปล่า ทำไมไม่ลองไปหาสมบัติอันล้ำค่าแห่งเครื่องเขียนมาใช้บ้างล่ะ ?

เอ่อ เจ๊ครับ บ่องตงนะ มะมีตังค์ง่ะ

เรื่องนี้ถือว่าอ่านขำๆก็แล้วกันนะครับ

ที่ว่าอะไรแพง อะไรถูกนี่ เป็นเรื่องส่วนบุคคลนะครับ เท่าที่ผมเห็น ทุกคนก็จะมีเรื่องฟุ่ยเฟือยในชีวิตคนละอย่างสองอย่างกันทั้งนั้น หลายๆคนยอมผ่อนสมาร์ทโฟนราคาแพงมาใช้ บางคนขอกินอาหารหรูสักเดือนละครั้ง

อย่าไปถามเลยครับว่า สิ่งเหล่านั้นจำเป็นหรือไม่ ต่างคนต่างก็มีเหตุผลของตนเองครับ มองในแง่ดี อย่างน้อยสิ่งเหล่านั้นก็มีส่วนทำให้โลกมีการพัฒนาขึ้นนะครับ

เอาเป็นว่าจะทำอะไร ขอเพียงไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อนก็พอนะครับ