top of page
  • ที่มา Youtube Channel ของ Goulet Pen Company

7 อันดับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้บริหารรุ่นเยาว์

บทความนี้ผมเรียบเรียงมาจากเรื่อง Top 7 Next Level Pens ของ Brian Goulet ครับ บทความนี้เป็นตอนต่อจากเรื่อง 5 อันดับปากกาหมึกซึม สำหรับมือใหม่ ที่ผมเรียบเรียงไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งปากกาในระดับสำหรับผู้เริ่มต้น Brian Goulet จะแนะนำปากกาที่มีราคาไม่แพงนัก เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาครับ ทีนี้พอสำเร็จการศึกษาแล้ว ก้าวเข้าสู่วัยทำงาน มีรายได้เพิ่มขึ้น มีประสบการณ์ในการใช้ปากกาหมึกซึมมากขึ้น งานเขียนก็แตกต่างจากการจดแลคเชอร์ในห้องเรียน ต้องบันทึกรายงานการประชุม มีการพบปะผู้คนมากขึ้น ต้องเซ็นชื่อมากขึ้น ก็เลยอยากมองหาปากกาที่ดีขึ้นไว้ใช้สักด้าม มาดูกันว่า Brian Goulet จะมีคำแนะนำอย่างไรครับ

สำหรับปากกาหมึกซึมในระดับนี้ Mr. Goulet แนะนำปากกาที่มีราคาตั้งแต่ $40 ไปจนถึง $100 ครับ ซึ่งผมก็เห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษา และเริ่มเข้าทำงานในบริษัทต่างๆ ไปจนถึงผู้ที่กำลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งด้านการบริหารครับ

ปากกาที่ Mr. Goulet แนะนำในบทความนี้ ส่วนใหญ่อาจไม่มีขายในบ้านเรานะครับ แต่ได้รู้จักไว้ก่อนก็ดีนะครับ เผื่อใครมีโอกาสไปเมืองนอกเอง ฝากเพื่อนซื้อ หรือจะสั่งซื้อออนไลน์ ก็จะได้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นครับ

Conklin Duragraph ราคาขายอยู่ที่ราว $44

Mr. Goulet บอกว่า เขาชอบปากการุ่นนี้เอาซะมากๆครับ ตัวปากกาทำจากเรซิน รุ่นที่ Mr. Goulet เอามาเสนอ ตัวปากกาทำจากเศษเรซินมาประกอบกัน เป็นลวดลาย ซึ่งจะการทำบอดี้ปากกาในลักษณะนี้จะพบก็เฉพาะแต่ในปากการาคาแพงมากเท่านั้นครับ Duragraph เป็นปากการูปทรงคลาสิก ปากการุ่นนี้เขียนดีมากๆ มีหัวปากกาให้เลือก 3 ขนาด คือ Fine, Medium และ Stub 1.1 และมีให้เลือก 3 สีครับ

Mr. Goulet บอกว่า ปากการุ่นนี้ตอนออกวางตลาดใหม่ๆมีปัญหาหลายอย่างเลยนะครับ เช่น ไม่สามารถเสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้ามได้ หัวปากกาก็ไม่มีขนาดให้เลือก แต่ในปัจจุบันทางผู้ผลิตได้แก้ไขปัญหาทุกอย่างหมดแล้วนะครับ จนทำให้กลายเป็นปากกาที่งานสวย เขียนดีมากรุ่นหนึ่งเลย ผมว่าที่ Mr. Goulet ต้องมาบอกยังงี้เพราะว่า หากใครไปเจอรีวิวเก่าๆ อาจคิดว่าปากการุ่นนี้ยังมีปัญหาอยู่น่ะครับ

ตัวผมน่ะชอบปากกาหมึกซึมแนววินเทจอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงซิการ์ อย่าง Montblanc หรือพวก Flat Top แบบ Parker Duofold เหมือนเจ้า Duragraph ตัวนี้ พอได้เห็นวิดีโอแนะนำปากการุ่นนี้ ผมก็ไปหาดูรีวิวต่างๆ ทั้งจากนักวิจารณ์ปากกา และผู้ซื้อปากกาต่างก็ให้คะแนนกับ Conklin Duragraph อยู่ในเกณฑ์ที่สูงเลยล่ะครับ ยิ่งตัวปากกาทำจากเรซิน ไม่ใช่พลาสติกหล่อขึ้นรูปด้วยแล้ว ราคา $44 ผมว่าน่าสนใจมากๆเลยนะครับ

Platinum Cool ราคาขายอยู่ที่ราว $42

มีหลายๆคนที่เริ่มต้นใช้ปากกาหมึกซึมมาจาก Platinum Preppry ก็คงจะรู้ดีถึงคุณภาพของปากกายี่ห้อนี้ Platinum Cool เป็นปากการุ่นที่ดีขึ้นของยี่ห้อนี้ครับ Platinum Cool เป็นปากกาที่ทำจากพลาสติกใสๆ แบบ Demonstrator ครับ มีให้เลือก 3 สี ที่เยี่ยมมากๆ คือ นอกจาก Section จะใสด้วยแล้ว ตัว Feed ก็ยังเป็นพลาสติกขาวขุ่น โปร่งแสงด้วย ทำให้มองเห็นเส้นทางเดินของน้ำหมึกได้อย่างชัดเจนครับ หัวปากกาทำจากสแตนเลสมีให้เลือก 2 ขนาด คือ Fine กับ Medium ซึ่งหัวปากกานี่ Mr. Goulet บอกว่า มีลักษณะที่ Flex นิดๆ ทำให้สามารถเขียนลายเส้น ขึ้นเบาลงหนักได้สวยด้วยนะครับ

ผมเป็นอีกคนที่ติดใจคุณภาพของปากกายี่ห้อ Platinum มาจาก Preppy ครับ พอจะหาปากกายี่ห้อนี้ที่คุณภาพดีขึ้นอีกหน่อย ก็เป็นรุ่น Plaisir ที่ราคาราว 500 บาท แต่ก็ไม่มีที่สูบหมึกมาให้ด้วย พอจะซื้อที่สูบหมึกเพิ่มก็ต้องจ่ายอีกสามร้อยกว่าบาท รวมแล้วกลายเป็นแปดร้อยกว่าๆ ไปครับ พอรุ่นสูงขึ้นมาอีกหน่อยก็เป็นเจ้า Cool นี่แหละ ซึ่งผมก็ว่าเจ๋งดี สมชื่อเลยครับ แต่ราคาปากกาก็ปาเข้าไปตั้งพันห้าแล้ว เจอค่าขนส่งอีกสามสี่ร้อยบาท รวมแล้วเกือบสองพัน ไม่ไหวล่ะครับ อันที่จริงบ้านเราก็มีหลายเจ้าเอา Preppy มาขายนะครับ ไม่มีใครที่คิดจะสั่งปากการุ่นอื่นๆของ Platinum มาขายอีกบ้างเหรอครับ เผื่อเราจะได้มีโอกาสใช้ปากกาดีๆในราคาที่ซื้อได้ง่ายขึ้นกันบ้างครับ

Faber-Castell Loom ราคาขายอยู่ที่ราว $40

Faber-Castell Loom เป็นปากกาที่ออกแบบมาสวยทันสมัย ทำจากโลหะทั้งด้ามครับ มีให้เลือก 8 สี มีหัวปากกาให้เลือกครบเลยตั้งแต่ขนาด EF, F, M และ B ครับ ปากการุ่นนี้ไม่มีที่สูบหมึกมาให้ด้วยนะครับ ต้องใช้กับหมึกหลอดแบบ International Standard หรือหากจะซื้อที่สูบหมึกก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก $5 ครับ

ผมอยากเห็นปากการุ่นนี้ตัวเป็นๆมากเลยครับ คือ ผมออกจะชอบปากกาแนววินเทจซะมากกว่า แค่ดูจากรปก็เลยยังไม่ค่อยโดนใจกับเจ้า Loom นี่เท่าไหร่นะครับ แต่ก็เห็นเว็บต่างประเทศชื่นชมปากการุ่นนี้กันมากเหมือนกัน แต่ผมก็เดาว่า ปากกาต้องสวย และก็น่าจะเขียนดีมากๆด้วย จึงได้กล้าตั้งราคาถึง $40 แพงกว่า Lamy Al Star จากสัญชาติเดียวกัน อยู่นิดหน่อยด้วยซ้ำ

TWSBI 580 ราคาขายอยู่ที่ราว $50

จุดเด่นสุดๆของ TWSBI 580 อยู่ที่ระบบเติมหมึกแบบ Piston Filler ครับ แถมกลไกของระบบเติมหมึกยังแข็งแรงทนทานอีกด้วย TWSBI ยังมีหัวปากกาขนาดต่างๆให้เลือกเยอะกว่ารุ่นอื่นๆ คือ มีให้เลือกตั้งแต่ EF, F, M, B, 1.1 Stub และ 1.5 Stub ปากการุ่นนี้ก็เป็นปากกาใสๆ แบบ Demonstrator ทำให้เห็นถึงระบบการทำงานภายในปากกา

ปากกายี่ห้อนี้แหละครับ ที่ทำให้ผมต้องชะงักทุกทีเวลาที่จะซื้อปากกายี่ห้ออื่นๆในระดับราคาเดียวกัน ก็เพราะ TWSBI มีระบบสูบหมึกแบบ Piston Filler ขณะที่ปากกายี่ห้ออื่นๆยังคงใช้ที่สูบหมึก หรือบางรุ่นต้องซื้อที่สูบหมึกเพิ่มอีกต่างหากครับ ยิ่งพอเป็นปากกาแบบ Demonstrator แล้ว ส่วนตัวผมชอบระบบสูบหมึกแบบ Piston Filler นี่มากกว่า เพราะมองเห็นน้ำหมึกในตัวปากกาเยอะๆ สวยดีครับ

Platinum PTL-5000 A ราคาขายอยู่ที่ราว $80

เห็นราคาของปากการุ่นนี้แล้วคงรู้สึกว่าแพงอยู่บ้างนะครับ แต่ Platinum PTL-5000 A เป็นปากกาหมึกซึมที่ใช้หัวปากกาทำด้วยทองคำ 14 กระรัต ที่มีราคาถูกที่สุดในตลาดครับ โดยมีหัวปากกาให้เลือก 3 ขนาด คือ EF, F และ M และหัวปากกายังเป็น Flex เล็กๆอีกด้วย ปากการุ่นนี้จะค่อนข้างผอมนะครับ น้ำหนักเบา ใครที่ไม่ชอบปากกาผอมๆควรมองข้ามไปครับ Mr. Goulet บอกว่าจุดเดียวที่ไม่ชอบของปากการุ่นนี้ คือ แถบตรงบริเวณ Section ที่ติดกับหัวปากกา เป็นสีเงิน มันไม่เข้ากับแถบกลาง หรือหัวปากกา และคลิปที่เป็นสีทองครับ

ผมดูรีวิวปากการุ่นนี้จากนักวิจารณ์คนอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็จะพูดในแง่ที่ว่า เป็นปากกาหมึกซึมที่มีหัวปากกาทำจากทองคำ 14 กระรัต ที่ราคาถูกที่สุดครับ ด้านการเขียนอาจจะไม่ถึงกับลื่นปรู๊ดปร๊าดเหมือนกับ Preppy แต่สามารถทำ Flex ได้มากเลย อีกจุดที่มีนักวิจารณ์พูดติอยู่บ้าง คือ ตัวปากกาที่เป็นพลาสติก ดูเป็นปากการาคาถูกมากไปหน่อย แต่ถ้าเทียบกับการที่ได้หัวปากกาทองคำมาใช้ ก็ถือว่าเรื่องอื่นเป็นเรื่องเล็กไปเลยครับ ใครที่อยากลองประสบการณ์หัวปากกาที่ทำจากทองคำ ในราคาที่ไม่แพงนัก ลองหามาใช้ดูนะครับ

Lamy Studio ราคาขายเริ่มต้นที่ราว $70

ปากการุ่นนี้มี Option ให้เลือกเยอะ ราคาก็จะแตกต่างกันไปตาม Option ที่เลือกครับ หัวปากกาของรุ่นนี้ทำจากสแตนเลส เป็นหัวปากกามาตรฐานที่ใช้กับปากกา Lamy หลายๆรุ่น ทำให้คนที่มีปากกา Lamy หลายๆด้าม สามารถสับเปลี่ยนหัวปากกากันได้ง่ายๆ และก็ยังมีหัวปากกาที่ทำจากทองคำ 14 กระรัตให้เลือกด้วย แต่ก็จะมีราคาแพงขึ้นไปมากนะครับ สิ่งที่ Mr. Goulet ชอบ Lamy Studio อยู่ตรงที่การออกแบบครับ นับตั้งแต่รูปทรงของปากกา คลิปที่มีลักษณะบิดๆดูแปลกตา ปากการุ่นนี้ก็จะมีสีพิเศษออกมาให้ซื้อเก็บเหมือนกับ Lamy อีกหลายๆรุ่นนะครับ ก็ถือเป็นโบนัสของคนซื้อ ที่จะได้ใช้ปากกาที่มีสีสันไม่เหมือนใคร รวมถึงยังเป็นของสะสมได้อีกด้วย จุดหนึ่งที่ Mr. Goulet ไม่ชอบของปากการุ่นนี้ คือ Section ที่เป็นโลหะค่อนข้างลื่นครับ

ผมไม่ค่อยมีความเห็นเกี่ยวกับ Lamy Studio เท่าไหร่นักครับ เพราะยังไม่เคยใช้งานอย่างเป็นจริงเป็นจังครับ ด้านการเขียน ปากการุ่นนี้ใช้ Nib และ Feed รุ่นเดียวกับ Lamy Safari และ Lamy Al Star ซึ่งก็มั่นใจได้ว่าจะเขียนได้ดีแน่ๆครับ แต่ราคาของ Studio ที่สูงกว่า Safari และ Al Star เกินเท่าตัวนี่สิ ที่ทำให้ผมยังไม่ให้ใจกับปากการุ่นนี้ครับ

Monteverde Invincia ราคาขายเริ่มต้นที่ราว $68

รุ่นนี้ก็เหมือนกับ Lamy Studio ครับ คือ มี Option ให้เลือกเยอะ และราคาก็จะแพงขึ้นไปตาม Option ที่เลือกด้วย ปากการุ่นนี้ด้ามทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ แต่สามารถเลือกสีสันของส่วนประกอบให้เป็นเงิน ทอง หรืออะโนไดซ์สีต่างๆ แถมยังสามารถเลือกหัวปากกาเป็นสีดำได้อีกด้วยนะครับ หัวปากกามีให้เลือก 4 ขนาด คือ F, M, B และ 1.1 Stub จุดที่ Mr. Goulet ไม่ชอบของปากการุ่นนี้ คือ Section ที่ทำจากโลหะค่อนข้างลื่นไปหน่อย และปากกามีน้ำหนักค่อนข้างมาก

สำหรับ Monteverde Invincia นี่ผมก็ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆเลยครับ ทำให้ออกความเห็นอะไรไม่ได้เลย แต่ที่วางใจได้อย่างหนึ่งสำหรับปากการุ่นนี้ คือ มีการออกแบบที่สวย ทันสมัยแทบทุกรุ่น และยังผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูงอีกด้วยครับ

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page