[รีวิวปากกาหมึกซึม] Waterman Kultur

ตัวผมเองอยากที่จะมีปากกาหมึกซึมของ Waterman มาไว้ในครอบครองสักด้ามมานานแล้วครับ เพราะ Waterman เป็นตำนานในหลายๆเรื่องของปากกาหมึกซึม นับตั้งแต่การนำตัวป้อนหมึก (Feed) มาใช้กับปากกาหมึกซึมเป็นรายแรกของโลก ผู้คิดค้นหมึกหลอดรายแรกของโลก และอื่นๆอีกมากมายครับ

แต่สำหรับยี่ห้อนี้แล้ว ก็คงจะมีแต่ ‘คุณเธอ’ (Kultur) นี่เท่านั้นครับ ที่ผมพอจะซื้อไหวในตอนนี้ครับ Waterman Kultur นี่ขายในต่างประเทศอยู่ราว $25 ครับ ก็ตกราว 800-900 บาท คือ ราคาพอๆกับ Lamy Safari และ Kaweco Sport ครับ แต่จะหาซื้อยากกว่าสองยี่ห้อนั้นอยู่บ้าง ต้องหาๆจากใน eBay ดูครับ แต่ก่อนที่จะสั่งซื้อผมมักจะทำการบ้านก่อน โดยค้นหาข้อมูล และอ่านรีวิวต่างๆจากอินเทอร์เน็ต แบบว่า ‘เผื่อเหนียว’ ครับ เกิดสั่งสุ่มสี่สุ่มห้ามาแล้วไม่ชอบใจ จะเสียเงินฟรีน่ะครับ

บทความนี้ผมแปลมาจากเรื่อง Waterman Kultur Fountain Pen Review ของเว็บ Best Fountain Pen ครับ แต่อันที่จริงผมก็อ่านรีวิวจาก Fountain Pen Network ประกอบด้วย เห็นว่ารีวิวออกมาในแนวทางใกล้เคียงกัน ก็เลยแปลมาแบ่งปันกันครับ

​Waterman Kultur ผลิตในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งก็เหมือนกับปากกาหมึกซึมทุกรุ่นของ Waterman ที่ผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพสูง แม้ว่าปากการุ่นนี้จะเป็นปากกาหมึกซึมระดับเริ่มต้นของ Waterman โดยมีราคาอยู่ในระดับกลางๆ (สำหรับบางรีวิวจะจัดเป็นปากกาในระดับราคาไม่แพงนะครับ) แต่ Waterman ก็ยังคงให้การรับประกันถึง 3 ปี ในกรณีที่ปากกามีข้อบกพร่องใดๆก็ตาม ซึ่งนับว่าเจ๋งมากสำหรับปากกาในระดับราคานี้

Writing Experience

Kultur มีน้ำหนักเบา และถือได้สบายมือมาก การเขียนทำได้ดีมาก แม้จะเขียนไปเป็นหน้าๆกระดาษ ก็ไม่พบปัญหาการป้อนน้ำหมึกไม่สม่ำเสมอเลย แม้ว่าจะมีรีวิวบางแห่งบอกว่า ปากการุ่นนี้กัดกระดาษ แต่ผู้เขียนไม่พบปัญหาดังกล่าวเลย (ผมอ่านจากหลายรีวิว รวมถึงดูวิดีโอของ Stephen Brown ก็บอกว่า ไม่พบปัญหาว่าปากการุ่นนี้กัดกระดาษนะครับ แต่กลับหารีวิวที่บอกว่าปากการุ่นนี้กัดกระดาษไม่เจอครับ) ซึ่งผู้เขียนคาดว่า อาจเป็นปัญหาที่เกิดจากผู้ใช้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการใช้ปากกาหมึกซึม หรือคนที่เขียนกดมากจนเกินไป จึงทำให้รู้สึกว่ากัดกระดาษครับ

ปากการุ่นนี้ Waterman ได้ออกแบบระบบป้อนหมึก (Feeding System) พิเศษขึ้นมา ซึ่งจะทำให้พบได้ว่า การไหลของน้ำหมึกมีความสม่ำเสมอดีมาก และไม่มีปัญหาเรื่องการป้อนน้ำหมึกตอนเริ่มเขียนด้วย

The Nib

ข้อด้อยเพียงอย่างเดียวของ Waterman Kultur คือ มีหัวปากกาขนาด Fine เพียงขนาดเดียว (แต่ผมชอบ 5555) แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบหัวปากกาขนาด Medium ขอให้ลองใช้ปากการุ่นนี้ก่อนครับ รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง แต่กลับจะทำให้คุณรักหัวปากกาขนาด Fine ได้ หัวปากกาขนาด Fine ของ Waterman ปล่อยน้ำหมึกออกมาเปียกกว่าหัวปากกาขนาดเดียวกันของยี่ห้ออื่นๆ จึงทำให้ลายเส้นมีขนาดอยู่ตรงกลางระหว่าง Fine กับ Medium และสีของน้ำหมึกบนกระดาษจะอิ่มกว่าด้วย นับเป็นหัวปากกาที่มีความสมดุลในการป้อนน้ำหมึกดีมากจริงๆ

ในรีวิวของ Stephen Brown ยังบอกว่า การที่ป้อนน้ำหมึกออกมามากนี่เอง ทำให้การเขียนทำได้ลื่น และไม่รู้สึกว่ากัดกระดาษเลยครับ

หัวปากกาของ Waterman Kultur ทำจากสแตนเลสที่มีความยืดหยุ่น ส่วนปลายของหัวปากกาเป็นทรงกลม ทำให้เขียนได้ลื่นดีมาก

Style

Waterman Kultur เป็นปากกาที่โดยรวมแล้วดูดีมากๆ ตัวปากกาทำจากพลาสติก ABS เป็นแบบ Demonstrator หรือแบบใสๆ มีให้เลือกหลายสี เช่น ส้ม แดง ม่วงอ่อน ใสคริสตัล และสีเขียว ซึ่งก็สวยทุกสีเลย ปัญหาเพียงอย่างเดียวที่จะเกิดขึ้น คือ คุณจะตัดสินใจยากว่าจะเลือกซื้อสีอะไรดี และปากการุ่นนี้ก็ราคาไม่แพงซะด้วย ซึ่งอาจจะทำให้คุณต้องเสียเงินเพิ่มขึ้น ซื้อมากกว่าหนึ่งด้ามได้ (แต่ในปัจจุบันบางสีจะหายาก และมีราคาแพงกว่านะครับ)

บนตัวปากกาจะมีแถบสีเงินวาว รับกับคลิปเหน็บกระเป๋า ดูสวยงามมีสไตล์

Cartridge

ปากการุ่นนี้ให้มาพร้อมกับหมึกหลอดของ Waterman ไม่ได้ให้ที่สูบหมึกให้มาด้วยนะครับ แต่ก็สามารถใช้กับที่สูบหมึกของ Waterman ได้ ที่ดีมากๆ คือ สามารถใช้กับที่หมึกหลอดมาตรฐาน และสูบหมึกมาตรฐานทั่วไปได้ครับ

​หลังจากอ่านหลายๆรีวิว เกี่ยวกับ ‘คุณเธอ’ ผมชักหลงรักซะแล้วครับ ตั้งใจไว้ว่า ปากกาด้ามต่อไปของผม คงจะเป็นรุ่นนี้แน่ๆ หากผมได้มาแล้วจะทำรีวิวตามความเห็นส่วนตัวให้ชมกันอีกทีนะครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน

แล้วพบกันใหม่ครับ