top of page
  • fountainpennetwork.com

ปากกาหมึกซึม ช่วยพัฒนาลายมือเขียนได้อย่างไร

โรงเรียนประถมที่ผมเรียน ไม่ได้กำหนดให้เด็กนักเรียนต้องใช้ปากกาหมึกซึมครับ ผมก็ได้แต่อิจฉาเพื่อนๆโรงเรียนอื่นที่ได้ใช้ปากกาหมึกซึมกัน แต่ตรงกันข้ามครับ เพื่อนๆที่ทางโรงเรียนกำหนดให้ใช้ปากกาหมึกซึมกลับอิจฉาผม ที่ไม่ต้องมายุ่งยากกับปากกาเติมหมึกแบบนี้

ภาพจาก esms.org.uk

ผมสงสัยมานานแล้วว่า ทำไมบางโรงเรียนจึงต้องกำหนดให้นักเรียนชั้นประถมใช้ปากกาหมึกซึม และทำไมบางโรงเรียนไม่ได้กำหนดแบบนั้น แล้วก็ยังสงสัยอีกว่า เจ้าปากกาหมึกซึมนี่ช่วยพัฒนาลายมือเขียนของเราได้ยังไง เพื่อให้คลายข้อสงสัย ผมก็เลยหาข้อมูลดูครับว่า มีประเทศไหนในโลกนี้อีกรึเปล่าที่กำหนดให้นักเรียนประถมใช้ปากกาหมึกซึม และทำไมปากกาหมึกซึมจึงช่วยพัฒนาลายมือเขียนได้

ผมก็ได้ข้อมูลจากฟอรั่ม fountainpennetwork ในหัวข้อ How doses fountain pens improve handwriting ครับ ช่วยตอบข้อสงสัยของผมทั้ง 2 ข้อได้พอดีเลย ความเห็นในฟอรั่มอาจจะไม่ใช่ข้อมูลทางวิชาการนะครับ แต่ก็ให้แง่คิดที่น่าสนใจดี แถมยังอ่านสนุก อ่านไปขำไปอีกด้วยครับ

เราไปดูกันครับว่าฝรั่งเค้าคุยกันว่ายังไงบ้าง แต่ต้องบอกก่อนว่าฟอรั่มนี้เป็นศูนย์รวมของคนรักปากกาหมึกซึมนะครับ ความเห็นทั้งหมดจึงลำเอียงเข้าข้างปากกาหมึกซึมแบบเต็มๆ ไม่มีใครแก้ต่างให้ปากกาลูกลื่นเลยนะครับ

ในบทความนี้จะมีคำว่า Ballpoint กับคำว่า Rollerball ผมใช้คำว่า ปากกาลูกลื่นแทน Ballpoint ส่วน Rollerball นี่ลักษณะหัวปากกาก็เป็นลูกกลมๆเหมือนหัวปากกาลูกลื่นครับ แต่น้ำหมึกจะใสกว่า ออกไปในแนวๆเดียวกับพวกหมึกเจลครับ พวกนี้ผมจะขอทับศัพท์ว่า Rollerball ไปเลยแล้วกันครับ

ในบทความผมจะใช้ตัวหนาสีม่วงสำหรับชื่อ User Name ของผู้ที่ตอบกระทู้ในเว็บบอร์ด ตัวหนาสีฟ้าใช้เน้นข้อความที่ผมคิดว่าน่าสนใจ ส่วนตัวหนาสีเขียว เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ และผมได้ตัดความเห็นบางส่วนในกระทู้ที่ผมคิดว่าไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ออกไปด้วยนะครับ

ภาพจาก telegraph.co.uk

Betty

ฉันได้อ่านมาว่า ปากกาหมึกซึมช่วยพัฒนาลายมือเขียนได้ มันเป็นไปได้ยังไงน่ะ และทำไมนักเรียนชั้นประถมจะได้รับคำแนะนำให้ใช้ปากกาหมึกซึม (เข้าใจว่าจะเป็นในยุโรปนะ เพราะไม่ใช่ในอเมริกาแน่ๆ) ฉันอยากรู้มากๆเลยนะ

KendallJ

การเขียนด้วยปากกาหมึกซึมไม่ต้องออกแรงกดมาเท่ากับพวกปากกาลูกลื่น ทำให้สามารถจับปากกาได้โดยไม่ต้องเกร็ง ทั้งยังต้องใส่ใจกับตำแหน่งของหัวปากกาด้วย ก็เลยทำให้มีพื้นฐานในการเขียนหนังสือดีกว่า

แต่สำหรับผู้ใหญ่แล้ว ฉันคิดว่าการเปลี่ยนมาใช้ปากกาหมึกซึมเนี่ยมีเหตุผลอื่นๆประกอบมากกว่าที่จะมุ่งพัฒนาลายมือนะ

Ray

ใช่ๆๆๆ เด็กๆในยุโรปที่เรียนเกี่ยวกับการเขียน จะได้รับคำแนะนำให้ใช้ปากกาหมึกซึม และบางโรงเรียนก็บังคับอีกด้วยล่ะ (สรุปบ้านเราบางโรงเรียนเอาต้นแบบของเรื่องนี้มาจากยุโรป แต่บางโรงเรียนก็ตามอย่างอย่างอเมริกานะครับ)

อีกมุมมองหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ เมื่อคุณเขียนหนังสือด้วยปากกาลูกลื่น คุณมักจะจับปากกาจนเกือบจะตั้งตรง เพื่อให้หัวปากกาลูกลื่นสัมผัสกระดาษ แต่เมื่อเขียนด้วยปากกาหมึกซึมจะจับปากกาเอียงกว่า ทำให้มองเห็นตัวหนังสือที่กำลังเขียนได้ชัดเจนกว่า

(พออ่านความเห็นของคุณ Ray ผมก็ลองจับปากกาลูกลื่นมาเขียนเปรียบเทียบกับปากกาหมึกซึมเลย จริงอย่างที่เขาบอกด้วยแฮะ ไม่เคยสังเกตมาก่อนเลย)

Oso

ประเด็นของฉัน อาจจะไม่สามารถนำไปใช้กับพวกเด็กนักเรียนได้นะ เพราะพวกเด็กๆจะต้องใช้แค่น้ำหมึกสีเดียว และต้องใช้หัวปากกาแบบมาตรฐานเท่านั้น ทั้งยังเน้นที่การเขียนหนังสือในบทเรียนเป็นหลักด้วย แต่สำหรับฉันแล้ว ความสนุกที่ได้ใช้ปากกาหมึกซึม ทำให้ฉันต้องการที่ฝึกฝนการใช้ปากกาให้ดียิ่งๆขึ้นไป แม้กระทั่งลองเขียนด้วยมือที่ไม่ถนัดด้วย (อันนี้เป็นเอามากนะครับ 55555)

มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจและสนุกสนานมากที่ได้ฝึกและดูแลการเขียนหนังสือของตัวเองอยู่เสมอๆ ฉันคิดว่าการพัฒนาที่มากที่สุดมาจากการฝึกเขียนรูปทรงของตัวหนังสืออย่างสม่ำเสมอ การเขียนด้วยปากกาลูกลื่นมันไม่สนุก และก็ลายเส้นไม่ค่อยสวยด้วย

ลูกชายอายุ 9 ขวบของฉัน ทำการบ้านด้วยปากกา Pelikano เดี๋ยวนี้นะเขาพยายามที่จะไม่เขียนให้ผิด เพื่อที่จะไม่ต้องลบเลย ถ้าไม่ยังงั้นเขาก็จะเขียนด้วยดินสอไปซะเลย

Bear

จากประสบการณ์ของฉันซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะ ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมปากกาหมึกซึมจึงช่วยพัฒนาลายมือเขียนได้ แต่ทั้งหมดที่ฉันรู้ คือ ลายมือเขียนของฉันแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อฉันกลับไปใช้ปากกาลูกลื่น หรือพวกปากกาหมึกเจล

เมื่อสัปดาห์ก่อน ฉันได้ไปเข้าร่วมประชุม แล้วดันลืมเติมหมึกให้กับปากกาหมึกซึม พอประชุมไปได้ครึ่งนึงหมึกก็หมดน่ะสิ ฉันก็เลยต้องไปใช้ปากกาลูกลื่นแบบราคาถูกๆที่ทางโรงแรมจัดให้ ความรู้สึกของฉันมันเหมือนกับการที่ขับรถสปอร์ตอยู่ดีๆ แล้วต้องลงไปนั่งรถบรรทุกขยะยังไงยังงั้นเลย (อันนี้ฮามากครับ เหยียดหยามกันแบบเห็นๆ 55555)

แต่ปากกาที่ฉันได้มา มันเป็นปากการาคาถูกๆ ของโรงแรมที่แจกในห้องประชุมนะ ถ้าฉันได้ใช้ปากกา Rollerball ของ Pilot หรือปากกาที่คุณภาพดีกว่านี้ ความแตกต่างของลายมือเขียนอาจจะไม่แย่อย่างนั้นก็ได้ แต่ยังไงมันก็แย่อยู่ดีแหละ (เรียนผู้จัดการโรงแรมทุกท่าน จากความเห็นนี้สรุปได้ว่า ทางโรงแรมควรจะแจกปากการาคาแพงๆในห้องประชุมนะครับ 55555)

ฉันมั่นใจว่า ปัญหาที่โรงเรียนจะต้องประสบเกี่ยวกับปากกาหมึกซึม คือ มันไม่สะดวกเอาซะเลย แต่ฉันรู้ว่า Pilot ได้ผลิตปากกาหมึกซึมแบบที่ใช้หมดแล้วทิ้งออกมาด้วยนิ เอ จะมีของยี่ห้ออื่นอีกมั้ยนะ แต่ฉันก็ไม่คิดว่าโรงเรียนควรจะกลับไปให้เด็กๆใช้พวกปากกาคอแร้ง ที่จุ่มหมึกเขียนหรอกนะ

แต่ฉันก็ไม่คิดว่า ทางโรงเรียนจะแคร์กับผลที่เด็กๆจะได้รับจากปากกาหมึกซึมสักเท่าไหร่นัก เพราะพวกครูจะเชื่อว่า ต่อไปแล้วนักเรียนของพวกเขาจะต้องเขียนงานส่วนใหญ่ หรือทั้งหมดด้วยแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ (อ้าว จบแบบดราม่าซะยังงั้น)

Anne-Sophie

ปากกาลูกลื่นจะต้องการแรงกดอย่างมาก ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์ของการเขียน และปากกาลูกลื่นราคาไม่แพงบางอันยังกัดกระดาษอีกด้วย

ปากกา Rollerball จะเขียนลื่นกว่าปากกาลูกลื่น แต่ Rollerball แบบที่เติมหมึกของปากกาหมึกซึมได้ ยังเขียนได้ลื่นกว่าอีก สำหรับปากกาหมึกซึมนั้นเขียนได้ลื่นมากๆสำหรับหัวปากกาขนาด Medium และ Bold

ต่อไป คุณ Anne-Sophie อธิบายถึงข้อดีของปากกาหมึกซึมซะยืดยาว ว่าการผลิตดีกว่า มีให้เลือกหลายแบบ หลายสี หลากรูปทรง หลายราคา ผมตัดออกไปนะครับ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรา แล้วแกก็สรุปว่า ปากกาหมึกซึมเป็นเครื่องเขียนที่นอกจากจะเขียนดีแล้ว ยังให้ความสนุก และประทับใจอีกด้วย

ภาพจาก pixabay.com

Mary P

ฉันมั่นใจว่า นักเรียนที่เรียนคัดลายมือในยุโรป ต่างก็ได้รับคำแนะนำให้ใช้ปากกาหมึกซึม ซึ่งครั้งหนึ่งในอเมริกาก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ฉันรู้จักโรงเรียนเด็กเล็กหลายแห่งที่แนะนำให้เด็กๆใช้ปากกาหมึกซึม และยังโรงเรียนหนึ่งที่ให้ปากกาหมึกซึมเป็นรางวัล ‘Pens for Kids’ แก่เด็กๆ เพื่อใช้ในห้องเรียน และอีกโรงเรียนก็มีการเปิดสอนการเขียนแบบ Italic Writing ในชั้นเรียนด้วยนะ

ผมคิดว่าการสอนให้นักเรียนเขียนอักษรวิจิตรเป็นสิ่งที่น่าสนใจนะครับ โรงเรียนน่าจะแทรกเข้าไปในวิชาศิลปะ เพราะนอกจากจะทำให้นักเรียนใจเย็น มีสมาธิแล้ว ยังช่วยให้รักการเขียนมากขึ้นด้วยครับ

Goodwhiskers

ปากกาหมึกซึมทำให้การเขียนหนังสือของฉันดูชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเขียนเร็วๆ การเขียนโย้เย้ก็ลดลง และมีความประณีตมากขึ้น

การเขียนด้วยปากกาหมึกซึมให้ความรู้สึกที่ดีกับมือ ข้อมือ และท่อนแขนมากกว่าการใช้ปากกาลูกลื่อน (หรือแม้แต่ปากกาหมึกเจล) ซึ่งทำให้เขียนหนังสือได้ประณีตง่ายกว่า

ฉันมีเพื่อนที่เรียนชั้นประถมในไต้หวัน ในช่วงปี 1970 เขาบอกฉันว่า เขาโรงเรียนประถมในไต้หวันก็บังคับให้เด็กๆใช้ปากกาหมึกซึม หากใครทำการบ้านหรือรายงานด้วยปากกาลูกลื่น ครูจะไม่ยอมตรวจเลย ผลจากการบังคับนี้เอง ทำให้เขาไม่เคยชอบปากกาหมึกซึมเลย

ไม่รู้ว่าที่หลายๆคนไม่ชอบใช้ปากกาหมึกซึม จะเป็นผลมาจากการที่โรงเรียนบังคับให้ใช้ในชั้นประถมรึเปล่านะครับ

Kat

เพิ่งจะเร็วๆนี้เอง ในโรงเรียนระดับวิทยาลัย มีครูหลายคนที่ไม่ยอมรับรายงานของเด็กๆที่เขียนด้วยมือ แต่จะให้เด็กพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ และโรงเรียนหลายแห่งก็เริ่มที่จะสอนพิมพ์งานด้วยคอมพิวเตอร์ แทนที่จะสอนคัดลายมือ

ฉันยังจำได้เลย ครูภาษาอังกฤษของฉัน ในโรงเรียนมัธยมปลายบอกฉันเสมอๆว่า เธอจะต้องพิมพ์งานของเธอ และสมัยนั้นบ้านฉันไม่มีคอมพิวเตอร์ซะด้วย และก็ไม่สะดวกที่จะไปใช้ห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนอีก ครูก็ทำท่าเหมือนกับว่า งานของฉันแย่เอาซะมากๆเลย ต่อมาพอฉันซื้อคอมพิวเตอร์ และเริ่มทำรายงานด้วยคอมพิวเตอร์ ครูแสดงอาการชื่นชมอย่างออกนอกหน้า โดยการเขียนในรายงานของฉันว่า “ขอบคุณที่พิมพ์งานนะ” ฉันรู้สึกว่า แค่เรื่องพิมพ์รายงานนี่ ครูทำเหมือนกับว่ากำลังรบกับฉันอยู่ และในที่สุดเธอก็ชนะ แทนที่เธอจะเห็นว่านี่เป็นเรื่องปกติของเด็กที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน

จริงๆแล้วความเห็นของ คุณ Kat ออกจะไม่เกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาลายมือสักเท่าไหร่ครับ แต่ผมเห็นว่าน่าสนใจดี ตรงที่บางทีการแสดงออกในบางเรื่องของผู้ใหญ่ อาจเป็นเรื่องที่ฝังใจเด็กไปจนโตเลยนะครับ และแนวโน้มที่ครูจะให้ทำรายงานด้วยคอมพิวเตอร์ในบ้านก็มีมากขึ้นด้วย ทั้งที่จริงแล้ว การทำรายงานด้วยคอมพิวเตอร์ง่ายกว่าการเขียนด้วยมือเยอะเลยครับ แค่หาข้อมูลในกูเกิ้ล ก็อปปี้ แล้วแปะ เด็กๆไม่ได้รับความรู้จากรายงานที่ทำเลยด้วยซ้ำครับ

garythepenman

การใช้ปากกาหมึกซึม ทำให้ฉันเขียนช้าลง ซึ่งส่งผลให้สามารถจัดรูปทรงของตัวอักษรได้อย่างระมัดระวัง ทำให้ลายมือเขียนของฉันดีขึ้น ฉันยังชอบความรู้สึกของการเขียนด้วยปากกาหมึกซึมมากกว่าปากกาแบบอื่นๆ ตอนที่ฉันยังเรียนอยู่ในสหราชอาณาจักร ยังจำได้ว่า ฉันใช้ปากกาหมึกซึม และยังจำได้เลยว่าครูวิชาภาษาอังกฤษของฉันเขียนชมว่าฉันลายมือสวย

ภาพจาก esms.org.uk

pvdiamon

นักเรียนชั้นมัธยมต้น ในรัฐคาโรไลน่าเหนือคนหนึ่งบอกกับฉันว่า ปากกาหมึกซึมเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะว่ามันสามารถที่ใช้เป็นอาวุธได้ ฉันยังสงสัยว่า ปากกาหมึกซึมนี่จะสร้างบาดแผลได้ฉกรรจ์กว่าปากกาลูกลื่นสักแค่ไหนกันนะ แน่นอน พวกเขายังบอกว่ารถโรงเรียนไม่สามารถที่จะมีเข็มขัดนิรภัยได้ เพราะสามารถเอาไปใช้เป็นอาวุธได้เช่นกัน แล้วเกิดมีนักเรียนใช้คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ฟาดหัวกันล่ะ ต่อไปจะไม่ห้ามใช้คอมพิวเตอร์อีกเหรอ

มีเรื่องยังงี้ในโลกนี้ด้วย... ช่างคิดได้ ???

wimg

ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เด็กประถมทุกคนจะได้รับการสอนให้เขียนหนังสือแบบตัวเขียน (Cursive) โดยใช้ปากกาหมึกซึม และปากกายอดนิยมสำหรับเด็กนักเรียนที่นี่ คือ Lamy และ Waterman แต่ก่อนที่เด็กๆจะได้ใช้ปากกาหมึกซึม โรงเรียนจะสอนให้เขียนด้วยปากกาคอแร้งก่อน พอถึงชั้นประถมตอนปลาย จึงจะอนุญาตให้เด็กๆใช้ปากกาลูกลื่นได้

สำหรับในบ้านเราพ่อบอกผมว่า โรงเรียนบ้านเราก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อนครับ ที่จะให้ใช้ปากกาคอแร้งก่อน แล้วค่อยมาใช้ปากกาหมึกซึม และปากกาลูกลื่น และมีการสอนเขียนภาษาอังกฤษตัวเขียน และคัดลายมือภาษาไทยด้วย แต่ตอนผมเรียนชั้นประถมไม่มีการสอนเขียนภาษาอังกฤษตัวเขียนเลย เด็กๆรุ่นผมแทบจะเขียน Cursive กันไม่เป็นแล้วครับ แถมวิชาคัดไทยในสมัยพ่อ ตอนนี้ก็ไม่มีแล้วเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นเฉพาะบางโรงเรียนรึเปล่านะครับ

woodwindmaster06

ฉันคิดว่าเหตุผลที่แท้จริง ที่ปากกาหมึกซึมช่วยพัฒนาลายมือเขียน คือ ความสุขในการเขียนที่เหนือกว่าใช้เครื่องเขียนชนิดอื่นๆ มันเป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับความคิดเห็นต่างๆในเรื่องนี้ ผมว่าอ่านแล้วทั้งสนุก ทั้งตลก และได้ความรู้ดีด้วยนะครับ คุณใช้ปากกาหมึกซึมแล้ว ลายมือเขียนพัฒนาดีขึ้นบ้างรึเปล่าครับ

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page