top of page
  • bestfountainpen.com

[รีวิวปากกาหมึกซึม] Nemosine Singularity

จริงๆแล้วครั้งแรกที่ผมเห็นปากกาหมึกซึมยี่ห้อ Nemosine นี่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นักครับ ในเว็บของบริษัทก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรไว้เลย ข้อมูลที่หาเจอในเว็บไซท์ต่างๆบอกว่า ตัวปากกาของ Nemosine ผลิตในประเทศไต้หวัน หัวปากกาทำในเยอรมนี ตรวจสอบคุณภาพและบรรจุหีบห่อในสหรัฐอเมริกา นี่ยิ่งทำให้ผมสงสัยเข้าไปใหญ่ว่า จริงๆแล้วปากกายี่ห้อนี้คืออะไรกันแน่ครับ เพราะมีสินค้าบางประเภทที่ผลิตในจีน แล้วไปตั้งบริษัทห้องแถวเพื่อประกอบและบรรจุกล่องและจัดหน่ายในอเมริกา ซึ่งเท่าที่ผมรู้มากฎหมายอเมริกาจะยินยอมให้ใช้คำว่า Made in USA ได้ครับ แต่ตอนหลังนี้รู้สึกว่า WTO จะมีกฎให้สินค้าส่งออกต้องแจ้งประเทศผู้ผลิตให้ชัดเจนน่ะครับ อันที่จริงแล้ว TWSBI ก็เป็นปากกาที่ทำในไต้หวัน หัวปากกาผลิตในเยอรมันเหมือนกันนะครับ แต่ TWSBI กล้าประกาศสัญชาติกันชัดๆไปเลยว่า Made in Taiwan ครับ

เอาเป็นว่า ความที่ไม่ได้แจ้งสัญชาติของบริษัทผู้ผลิตอย่างชัดเจน และในเว็บของบริษัทก็ไม่ได้ให้ข้อมูลไว้เท่าไหร่นัก ทำให้ผมมีอคติกับ Nemosine ไปก่อนแล้ว เลยไม่ได้ใส่ใจหาข้อมูลเกี่ยวกับปากกายี่ห้อนี้ครับ จนเพิ่งมาเร็วๆนี้ เพิ่งจะมาสะดุดกับชื่อยี่ห้อนี้อีกครั้ง ก็เลยลองหารีวิวของฝรั่งดู และก็พบว่า รีวิวเกี่ยวกับปากกายี่ห้อนี้ทั้งหมดเท่าที่ผมอ่านมา เขียนไว้ในเชิงบวกทั้งสิ้นครับ อืม น่าสนแฮะ

Nemosine Singularity เป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุดของยี่ห้อนี้ ที่ผมพอที่จะซื้อไหวครับ ปากการุ่นนี้ตั้งราคาขายในต่างประเทศที่ $25 ครับ ถ้าสั่งซื้อจาก Amazon.com จะราคาแค่ $15 หรือราว 550 บาทเท่านั้นเอง แต่ถ้าสั่งซื้อจาก eBay ก็จะเสียค่าขนส่งมาบ้านเรารวมแล้วก็ราวๆ 800 กว่าบาท

บทความนี้ผมแปลมาจากเรื่อง Nemosine Singularity Fountain Pen Review ของเว็บ www.bestfountainpen.com นะครับ แต่ก็หาข้อมูลอื่นๆมาประกอบด้วย เพื่อให้บทความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ

ชื่อยี่ห้อ Nemosine นี่ สร้างปัญหาให้กับนักรีวิวปากกาต่างประเทศหลายคนทีเดียวครับ คือ อ่านชื่อยี่ห้อไม่ถูก ไม่รู้ควรจะอ่านว่า ‘นี-โม-ซาย’ หรือ ‘นี-โม-ซี-เน่’ กันแน่ครับ

ตัวปากกาของ Nemosine Singularity ทำจากเรซิน มีสีสันต่างๆให้เลือกมากถึง 14 สีครับ (ผมดูในเว็บเห็นมี 17 สีนะครับ) และยังมีหัวปากกาขนาดต่างๆให้เลือกตั้งแต่ Extra Fine, Fine, Medium, Broad และยังมีหัวปากกาแบบ Stub ให้เลือกอีก 2 ขนาด คือ 0.6 และ 0.8 มม. ด้วยครับ น่าจะเรียกได้ว่าเป็นปากการาคาไม่แพงที่มีหัวปากกาขนาดต่างๆให้เลือกมากที่สุดได้เลยนะครับ

ข้อดี

  • มีสีสันต่างๆให้เลือกมากมาย

  • ตัวปากกาขนาดใหญ่ จับถนัดมือ

  • น้ำหนักเบา

  • ปลอกปากกาเสียบท้ายด้ามมั่นคงดี

  • หัวปากกายอดเยี่ยมมาก

ข้อเสีย

  • ชื่อยี่ห้อที่สลักบนปลอกปากกาดูตุ่นๆชอบกล

วิดีโอรีวิวสั้นๆ ของ Ms. Jennifer ผู้ทำรีวิวครับ

Ms. Jennifer ผู้ทำรีวิวบอกว่า Nemosine Singularity นี่เป็นปากกาใช้งานที่ดูหรูหราใช้ได้เลยครับ และยังบอกอีกว่า Singularity นี่ เป็นหนึ่งในปากกาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในระดับราคาเดียวกันเลย Ms. Jennifer รักปากการุ่นนี้มาก และเป็นแรงบันดาลใจให้เธอจัดอันดับปากกาที่ดีที่สุดในระดับไม่เกิน $25 ขึ้นมาด้วย ยิ่งหากเทียบกับราคาที่หาซื้อได้ในราว $15 แล้ว ต้องบอกว่า หาปากการุ่นไหนมาเปรียบกับ Nemosine Singularity ได้ยากทีเดียว

ปากกาที่ Ms. Jennifer ใช้ทำรีวิวเป็นสีดำ หัวปากกาขนาด Fine ที่หัวปากกาแกะสลักลวดลายสวยงาม ขณะที่ซื้อมาจะแถมหมึกหลอดมาตรฐานแบบสั้นมาให้ 6 หลอด และยังมีที่สูบหมึกให้มาอีก 1 อันด้วย ตรงนี้นับว่าเจ๋งฝุดๆนะครับ เพราะปากกาในระดับราคาเดียวกันมักจะแถมหมึกหลอดมาให้แค่หลอดเดียว หากอยากได้ที่สูบหมึกก็ต้องเสียเงินซื้อต่างหากอีก

ประสิทธิภาพของหัวปากกา

หัวปากกาของ Nemosine Singularity ทำจากสแตนเลส ค่อนข้างแข็ง มีแกะสลักลวดลายสวยงาม หัวปากกามีขนาดใหญ่ (เดาว่าเป็นหัวปากกาเบอร์ 6 นะครับ เพราะผู้รีวิวไม่ได้บอกไว้ครับ) เขียนได้ลื่นมากๆ เริ่มเขียนครั้งแรกได้อย่างไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

สำหรับหัวปากกาขนาด Fine มีลายเส้นที่ค่อนข้างจะใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย แต่เขียนได้ยอดเยี่ยมมาก เรื่องความลื่นในการเขียนของ Nemosine Singularity นี่ Ms. Jennifer ถึงกับหลงรักเป็นอย่างมากเลยครับ บรรยายไว้ซะหยดย้อยว่า เปรียบเสมือนหัวปากกาหลอมละลายไปกับเนื้อกระดาษยังไงยังงั้นเลย และเธอก็ย้ำอีกว่า นี่คือหนึ่งในปากกาหมึกซึมที่ดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเขียนมา ในช่วงราคาต่ำกว่า $25

Ms. Jennifer บอกว่าด้วยราคาที่ไม่แพงนี้ ทำให้คุณสามารถซื้อ Singularity มาใช้พร้อมๆกัน 3 ด้าม เพื่อใส่น้ำหมึกที่คุณชื่นชอบ 3 สีได้อย่างสบายๆ ทั้งยังสามารถเลือกสีปากกาให้เข้ากับสีของน้ำหมึก เลือกหัวปากกาแบบต่างๆได้ตามใจชอบอีกด้วย ถึงตอนนี้ Ms. Jennifer บอกว่า เธอสนุกกับการใช้หัวปากกาแบบต่างๆตามแต่งานและอารมณ์ของเธอไว้อย่างน่าสนใจครับ คือ เธอชอบใช้หัวขนาด Fine สำหรับการจดบันทึกเร็วๆ จดบันทึกความจำต่างๆ หัวปากกาขนาด Medium ใช้สำหรับการจดข้อความยาวๆ เขียนหนังสือจำนวนมากๆ หัวปากกาขนาด Broad, Italic หรือหัวปากกาสำหรับเขียนอักษรวิจิตร ใช้สำหรับเขียนจดหมายถึงเพื่อน เขียนหัวข้อต่างๆ รวมถึงเขียนบันทึกที่ต้องการความสวยงาม เธอบอกว่า นี่คือสิ่งที่ปากกาลูกลื่นไม่สามารถที่จะทำได้ครับ

การเขียนของ Nemosine Singularity ไม่เปียกและไม่แห้งจนเกินไป ไม่มีอาการกัดกระดาษ หรือน้ำหมึกกระเซ็นเลอะเทอะกระดาษให้เห็นเลย แต่เมื่อเขียนลงบนกระดาษที่เนื้อไม่ดีนัก จะมีการซึมทะลุไปด้านหลังพอสมควร แต่ก็ยังไม่เปียกขนาดที่จะซึมไปเลอะอีกหน้าหนึ่ง

Ms. Jennifer ทดลองใช้ Nemosine Singularity เขียนบนกระดาษเนื้อหยาบมากๆ และเธอก็บอกว่า ปากการุ่นนี้ยังคงทำงานได้ดีกว่าปากกาในระดับราคาเดียวกันมาก เธอว่าตามปกติแล้วปากกาหัวขนาด Fine ที่ราคาไม่แพงอื่นๆเมื่อเขียนลงบนกระดาษเนื้อหยาบมักจะสะดุด และเส้นขาดๆหายๆครับ ซึ่งเธอได้ชมว่า ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะการออกแบบ Feed และการประกอบหัวปากกาที่ดีเยี่ยมของ Singularity รวมถึงเป็นเพราะหัวปากกาขนาด Fine ของ Singularity มีขนาดลายเส้นใหญ่กว่าหัวขนาด Fine ตามปกติอยู่เล็กน้อยด้วย

ปลอกปากกา

ความสมดุลของ Singularity จัดว่าค่อนข้างดี และจะดีเยี่ยมเลยหากไม่เสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้าม พอเสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้ามแล้ว จะค่อนข้างหนักปลายไปหน่อย ซึ่งน่าจะมาจากน้ำหนักของคลิปเหน็บกระเป๋าที่มีขนาดใหญ่ อันนี้บอกได้เลยครับว่า ถ้าลอง Ms. Jennifer บนว่า เสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้ามแล้วค่อนข้างหนักยังงี้ แปลว่าต้องหนักเอาซะมากๆเลยนะครับ เพราะปากการุ่นอื่นๆที่ใครว่าสมดุลไม่ดี Ms. แกยังเขียนได้สบายๆไม่เคยบ่นเลยครับ

ที่ส่วนบนของปลอกปากกา ออกแบบเป็นทรงปิรามิดค่อนข้างแหลม ขณะที่ส่วนท้ายของด้ามก็เป็นรูปทรงเดียวกันแต่ทื่อกว่า การถอดและใส่ปลอกปากกาเป็นแบบหมุนเกลียว 2 รอบ โดยเกลียวตัวผู้ที่รับปลอกปากกาจะอยู่บน Section ไม่ได้อยู่บนด้ามปากกา ทำให้เวลาถอดปลอกปากกาออกต้องระวังสักหน่อย ไม่ยังงั้นจะกลายเป็นว่าคุณหมุนเกลียวถอดด้ามปากกาออก แทนที่จะเป็นการถอดปลอกปากกาครับ

การถอดด้ามปากกาออกจาก Section จะหมุนเกลียว 6 รอบ ซึ่ง Ms. Jennifer ไม่พบว่า การถอดปลอกปากกาจะเป็นปัญหาแต่อย่างใดครับ ตรงนี้ถ้าดูในวิดีโอของ Stephen Brown จะพบว่าเป็นเรื่องที่ Mr. Brown ค่อนข้างหงุดหงิดพอสมควรครับ

ส่วนเกลียวที่อยู่บน Section ก็ไม่คมจนทำให้รำคาญมือเวลาเขียนอีกด้วย

คลิปเหน็บกระเป๋าของ Nemosine Singularity มีสปริงดีมาก ทั้งยังมีขนาดยาวด้วย ทำให้สามารถหนีบกับกระเป๋าได้เป็นอย่างดี

การรับประกัน

อีกเรื่องหนึ่งที่ผมประทับใจกับปากกายี่ห้อนี้มากเลย คือ การรับประกันสินค้าครับ Nemosine รับประกันปากกาทุกรุ่น ทุกด้ามนานถึง 3 ปี โดยบอกว่า ทางบริษัทมั่นใจฝุดๆว่า เจ้าของปากกา Nemosine ทุกคนจะต้องรักปากกายี่ห้อนี้เป็นแน่แท้ เพื่อให้ปากกายี่ห้อสามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและต่อเนื่องให้คุณได้ยาวนาน ทางบริษัทจึงได้รับประกันปากกาทุกด้ามนานถึง 3 ปี โดยไม่จำกัดเงื่อนไขใดๆ (หล่อมากกกก) โดยเงื่อนไขนี้จะครอบคลุมถึงระบบการไหลของน้ำหมึก (Feed นั่นแหละ) ที่สูบหมึก และหัวปากกา แม้ว่าข้อผิดพลาดจะเกิดขึ้นจากการใช้งานก็ตาม (เท่ระเบิด) ซึ่งหากเกิดปัญหาใดๆกับ Nemosine ของคุณ ที่เกี่ยวข้องกับการไหลของน้ำหมึกภายในระยะเวลา 3 ปี ให้ส่งปากกากลับมาที่บริษัท พร้อมกับเงินอีก $5 เพื่อเป็นค่าแรง ค่าทดสอบ และค่าส่งไปรษณีย์กลับคืน ทางบริษัทรับประกันว่าจะแก้ไขปากกาให้สามารถใช้งานได้ดีเหมือนใหม่เลยครับ (สังเกตว่า การรับประกันนี้ไม่ครอบคลุมถึงตัวปากกา ปลอกปากกา และคลิปนะครับ แต่แค่นี้ก็ได้ใจไปสุดๆแล้วครับ)

สรุปแล้ว Ms. Jennifer ปลื้มกับ Nemosine Singularity มากๆครับ ผมอ่านรีวิวของเธอแล้วก็เคลิ้มตามเลยล่ะ ติดอยู่ที่ว่ายังเสียดายเงินค่าส่งมาเมืองไทยเกือบสามร้อยบาท คือ ราว 50% ของราคาปากกาเลย หากใครมีญาติพี่น้องอยู่ในอเมริกา ก็น่าฝากซื้อมาใช้เล่นๆเหมือนกันนะครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝันนะครับ

แล้วพบกันใหม่ครับ........ สวัสดี

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page