[รีวิวปากกาหมึกซึม] Conklin Duragraph

Conklin Duragraph เป็นปากกาหมึกซึมอีกรุ่นหนึ่งที่อยู่ในความสนใจของผมมากๆครับ เพราะว่าปากการุ่นนี้ตัวปากกาทำจากเรซิน เป็นรูปทรง Flat Top คล้ายๆกับ Parker Duofold แต่มีราคาที่ถูกกว่ามาก คือ ราว 45-50 USD ครับ

บริษัทผู้ผลิตปากกา Conklin ก่อตั้งในรัฐโฮไอโฮ สหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ปี 1898 แล้วครับ ส่วนรุ่น Duragraph นี่ผลิตออกมาครั้งแรกในปี 1923 ครับ แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนรูปโฉมมาเรื่อยๆนะครับ สำหรับ Duragraph รุ่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันเป็นปากกาที่มีขนาด Oversize รูปทรงแบบ Flat Top ตัวปากกาทำด้วยมือจากเรซิน ที่สำคัญปากการุ่นนี้มีรับประกันตลอดชีพด้วยครับ

สำหรับรีวิวของต่างประเทศที่เกี่ยวกับปากกานี้จริงๆก็มีอยู่หลายรีวิวนะครับ แต่จะเป็นวิดีโอซะส่วนใหญ่ ที่เป็นบทความก็มักจะรีวิวหัวปากกาแบบ Stub ผมเลยเลือกแปลรีวิวนี้จากฟอรั่ม fountainpennetwork.com ในกระทู้เรื่อง Conklin Duragraph In Amber ของผู้ที่ใช้ User name ว่า Garden Man ครับ

รีวิวใน fountainpennetwork.com นี่ดีตรงที่แบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆ ทำให้เข้าใจง่ายดีครับ รีวิวในปากการุ่นต่างๆนี่จะเป็นความเห็นจากผู้ใช้โดยตรง ไม่ใช่นักรีวิวที่บางทีอาจมีความเกรงใจในบริษัทหรือร้านค้าที่เป็นสปอนเซอร์ครับ แต่รีวิวจากผู้ใช้นี้ก็มักจะมีแนวโน้มที่เข้าข้างสินค้าที่ตัวเองทำรีวิวนะครับ ก็แบบว่าเสียตังค์ซื้อมาแล้ว ยังไงก็ต้องชอบน่ะ 5555

รีวิวของ fountainpennetwork.com ยังมีระบบการให้คะแนนด้วย แต่ผมไม่ค่อยจะศรัทธาเรื่องการให้คะแนนสักเท่าไหร่นะครับ เพราะผู้ทำรีวิวบางคนก็ให้คะแนนด้วยอคติ และผมไม่ค่อยเห็นด้วยที่คะแนนรวมของความสวยงาม วัสดุที่ใช้ผลิต อะไรพวกนี้ รวมๆแล้วเท่ากับ หรือมากกว่าคะแนนด้านการเขียน และความถนัดในการใช้งานครับ คือ สำหรับผมแล้ว ถ้าปากกาเขียนไม่ดี ต่อให้สวยแค่ไหนก็ไม่มีทางซื้อครับ หรือเขียนดี แต่เขียนนานๆแล้วเมื่อย ยังงี้ผมก็ไม่เอาเหมือนกัน

ผู้ทำรีวิวขึ้นมาก่อนเลยว่า รีวิวของแกเป็นความเห็นส่วนบุคคล อาจมีคนเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยก็ช่าง แกประกาศเลยว่า แกชอบปากการุ่นนี้ รวมถึงหัวปากกานี้ด้วยเอาซะมากๆเลย ถึงใครบางคนจะไม่ชอบก็ตามครับ

กล่องของ Conklin Duragraph ดูหรูดีนะครับ

ความประทับใจครั้งแรก

ผู้ทำรีวิวประทับใจตั้งแต่กล่องใส่ปากกาเลยครับ ปากกาที่เขาสั่งมาเป็นสีส้ม (สีที่ผมอยากได้ซะด้วยสิ 5555) ซึ่งเขาบอกว่า เป็นสีส๊มส้ม สวยมากครับ สำหรับความประทับใจเมื่อแรกเจอนี้ ผู้ทำรีวิวบอกได้คำเดียวว่า เจ๋งมาก

เรื่องรักแรกพบนี่แกให้คะแนนเต็ม 5/5 ไปเลยครับ

ภาพ Conklin Duragraph ทั้งสวมปลอกปากกา ถอดปลอกปากกาออก

และนำปลอกปากกาไปเสียบไว้ท้ายด้าม ภาพจาก Goulet Pens

การออกแบบ

ผู้ทำรีวิวบอกว่า นี่เป็นส่วนที่สำคัญเป็นอันดับที่สองของปากกาหมึกซึม และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เรายอมเสียเงินซื้อปากกาด้ามนั้นมาด้วย โดยเฉพาะเวลาที่สั่งซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต เรายังไม่รู้เลยว่ามันเขียนเป็นยังไง รู้แต่ว่ามันสวยแค่ไหนเท่านั้น

อีกนั่นแหล ผู้รีวิวยังยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่า ปากการุ่นนี้สวยเฟ่อร์ ตัวปากกาทำจากเรซิน เป็นสีส้มอำพัน ส่วนอีกสองสีที่มีให้เลือกเป็นสี Cracked Ice คือ สีขาวสลับดำ โดยใช้เศษเรซินมาหล่อเข้าด้วยกัน เหมือนรอยแตกบนน้ำแข็ง กับสี Forest Green หรือสีเขียวเข้มครับ

ส่วนปลายทั้งสองข้าง คือ ส่วนบนของปลอกปากกา และที่ส่วนท้ายของด้ามปากกา ทำจากเรซินสีดำ รวมถึงบริเวณที่จับปากกา (Section) ก็ทำจากเรซินสีดำเหมือนกัน บนตัวปากกาขลิบ (Trim) ด้วยสีเงิน คลิปของปากการุ่นนี้ค่อนข้างจะแข็งไปสักหน่อย

จุดเด่นของ Conklin Duragraph อยู่ที่ตัวปากกาที่ทำจากเรซิน ซึ่งผู้ทำรีวิวบอกว่า แต่ผิวได้เรียบ และเป็นเงาสวยมาก แถมยังมีคุณสมบัติโปร่งแสง ทำให้สามารถมองเห็นหัวปากกา และที่สูบหมึกแบบรางๆ ผ่านปลอกและด้ามปากกาได้ด้วย ผู้ทำรีวิวให้ความเห็นว่า ปากการุ่นนี้มีรูปทรงที่ออกไปในแนววินเทจสักหน่อยครับ

ตรงนี้ผู้ทำรีวิวให้คะแนน 10 เต็ม 10 ครับ

ระบบเติมหมึกเป็นแบบ Piston Converter

สามารถใช้กับหมึกหลอดมาตรฐานได้ด้วยครับ

คุณสมบัติของปากกา

Conklin Duragraph ใช้ที่สูบหมึก หรือหมึกหลอดมาตรฐาน โดยเมื่อซื้อปากกาจะได้รับที่สูบหมึกแบบ Piston Converter แถมมาด้วย

ตัวปากกาหนัก 26 กรัม จัดเป็นปากกาที่มีขนาดกลางๆ ไม่หนักเกินไปสำหรับคนที่มีมือขนาดเล็ก แต่ก็ไม่ใช่ปากกาที่จะเบาเกินไปสำหรับคนตัวใหญ่ๆครับ ความยาวรวมเมื่อปิดปลอกปากกา 14 ซม. ความยาวจากปลายหัวปากกาถึงท้ายด้าม (ถอดปลอกปากกาออก) 12.5 ซม. และความยาวเมื่อเสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้าม 17.5 ซม. ตรงนี้ผู้ทำรีวิวบอกว่า หากเสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้ามแล้วจะรู้สึกหนักท้ายไปสักหน่อยครับ ตรงนี้ผมดูจากรีวิวของเจ้าอื่นๆก็บอกเหมือนกันครับ หากใครที่ชอบเขียนโดยเสียบปลอกปากกาไว้ท้ายด้าม มองข้ามปากการุ่นนี้ไปได้เลย ปลอกปากกาของ Conklin Duragraph เป็นแบบหมุนเกลียวครับ

สำหรับหัวข้อนี้ ผู้ทำรีวิวให้คะแนน 4 เต็ม 5 หักที่เสียบปลอกท้ายด้ามแล้วสมดุลไม่ดีไปซะ 1 คะแนน

หัวปากกาทำจากสแตนเลส สีทูโทน เงิน-ทอง

รูอากาศที่กลางหัวปากกาเป็นวงรีสวยแปลกตาดีครับ

รูอากาศใหญ่ขนาดนี้ไม่น่าแปลกใจเลยที่น้ำหมึก Flow ดี ทำให้เขียนเปียกมาก

ขนาดของหัวปากกาจะเขียนอยู่ที่ด้านข้างของหัวปากกานะครับ

หัวปากกา

ผู้ทำรีวิวบอกว่า นี่คือ ส่วนที่สำคัญที่สุดของปากกาหมึกซึม แกให้เหตุผลเหมือนที่ผมบอกไปแล้วว่า ต่อให้ปากกาสวยแค่ไหน แต่ถ้าเขียนไม่ดีก็ไร้ค่าครับ ผู้ทำรีวิวบอกว่า ชื่นชอบหัวปากกาของ Conklin Duragraph มากครับ เพราะหัวปากการุ่นนี้มีคุณลักษณะ 2 ประการที่โดนใจแก คือ เปียก และมี Feedback น้อยๆ ตรงนี้แกบอกว่า อาจจะมีหลายๆคนที่ไม่เห็นด้วยกับแกนะครับ แต่แกบอกว่า แกไม่ชอบปากกาที่เขียนลื่นปรู๊ดปร๊าด แกบอกว่า ไม่ชอบการเขียนที่เหมือนกับปากกาล่องลอยผ่านหน้ากระดาษไป แต่แกชอบความรู้สึกของการเขียนลงบนกระดาษ รู้สึกถึงการที่หัวปากกาสัมผัสกับเนื้อกระดาษ แต่ตรงนี้ไม่ได้หมายความว่าแกชอบปากกาที่กัดกระดาษนะครับ

ตรงนี้แกอธิบายไว้ดีเลยว่า ปากกาที่กัดกระดาษ (Scratchy pens) คือ หัวปากกาที่ผิดปกติ แต่ปากกาที่มี Feedback หรือแกเรียกว่า Toothy Nibs คือ หัวปากกาที่ไม่ได้ขัดส่วนปลายจนเรียบเกินไป ซึ่งแกชอบหัวปากกาในลักษณะนี้มากครับ

ผมเองก็ชอบหัวปากกาแบบ Toothy Nibs เหมือนกันครับ แต่หลังจากที่ทดสอบเขียนมาหลายๆด้าม เรื่องนี้กลายเป็นสิ่งที่บอกยากมากเลยครับ อย่างหัวปากกาของ Pelikan นี่ก็ไม่ใช่ Toothy Nibs นะครับ แต่ก็ไม่ใช่ Extreme Smooth อีกเหมือนกัน แต่ผมก็ชอบครับ ขณะที่หัวปากกาของ Sailor หรือ Platinum จะมีลักษณะ Toothy อย่างเห็นได้ชัดเลย แต่ก็เป็นปากกาที่เขียนสนุกมาก ขณะที่ปากกาบางยี่ห้อเป็น Toothy น้อยกว่า แต่กลับเขียนไม่สนุกเท่า ตรงนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยมในการเขียนของแต่ละคนจริงๆเลยนะครับ

Conklin Duragraph มีหัวปากกาที่เปียกมากโดยเฉพาะสำหรับหัวปากกาขนาด Fine ผู้ทำรีวิวนำไปเปรียบเทียบกับหัวขนาด Medium ของ Waterman Expert พบว่า หัวปากกาของ Duragraph ยังเปียกกว่าด้วยซ้ำ และหัวปากกาก็ยังมีขนาดเล็กมากด้วย เขาบอกว่าเล็กกว่าหัวปากกาจีนบางรุ่นด้วยซ้ำ การเขียนลงบนกระดาษให้ความรู้สึกที่ดีมากสำหรับผู้ทำรีวิว แกยังเน้นอีกว่า แกชอบหัวปากกาของ Conklin Duragraph มากๆครับ

ในรีวิวนี้แกไม่ได้บอกว่า แกใช้หัวปากกาขนาดอะไรนะครับ แต่ผมก็เดาว่าน่าจะเป็นหัวขนาด Fine เกี่ยวกับหัวปากกาของ Conklin Duragraph นี่ ผมดูในวิดีโอของ Goulet Pens ก็บอกว่า หัวปากการุ่นนี้มี Feedback เล็กน้อย โดยที่หัวขนาด M จะมี Feedback มากกว่าขนาด F อีกหน่อยนึงครับ

ผู้ทำรีวิวบอกว่า สิ่งเดียวที่เขาไม่ชอบเกี่ยวกับหัวปากกา คือ การที่ทำให้โลโก้ของ Conklin เป็นสีทองบนหัวปากกาสีเงินน่ะครับ ซึ่งมันก็ไม่ใช่สาระอะไร

สำหรับเรื่องหัวปากกานี่ ผู้ทำรีวิวกำหนดคะแนนเต็มไว้สูงถึง 15 คะแนน และแกให้ 14/15 คะแนนครับ

มูลค่าของปากกา

ปากการุ่นนี้ขายที่ Goulet Pens ในราคา 44 USD ซึ่งก็ไม่แพงเท่าไหร่นัก แกยังบอกว่า เป็นราคาที่น่าประหลาดใจเลยด้วยซ้ำ

ตรงนี้แกให้คะแนน 5 เต็มครับ

สรุป และคะแนนรวม

ผู้ทำรีวิวยังย้ำอีกว่า แกชอบปากการุ่นนี้มากๆ ถึงขนาดที่เอาปากการุ่นนี้มาใช้เขียนในประจำวันแทน Kaweco Sport ตัวโปรดตัวเดิมที่แกใช้งานทุกวันมาเกือบ 3 ปีแล้วครับ

คะแนนรวมของ Conklin Duragraph แกให้ 38 เต็ม 40 คะแนน คิดเป็น 95% ถือว่าได้เกรด A สำหรับแกครับ

ผมชอบวิธีการให้คะแนนของ Mr Garden Man นี่อยู่บ้างนะครับ ตรงที่แกให้คะแนนแต่ละหัวข้อไม่เท่ากัน ตามลำดับความสำคัญในใจแก คือ ให้คะแนนหัวปากกา ที่แกบอกว่าสำคัญที่สุดเต็ม 15 คะแนน และให้คะแนนเรื่องความสวยงาม การออกแบบ วัสดุที่ใช้ เต็ม 10 คะแนน ตรงนี้แกบอกว่าสำคัญรองลงมาครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมเห็นด้วยกับการลำดับความสำคัญของแกนะครับ ส่วนตัวผมให้คะแนนกับหัวปากกา และความถนัดในการใช้งานเท่าๆกันเลยครับ คือ ปากกาที่ดีสำหรับผม นอกจากหัวปากกาจะเขียนดีแล้ว ยังต้องจับได้ถนัด ไม่ลื่น เขียนนานๆไม่เมื่อยมือด้วยครับ ส่วนเรื่องการออกแบบสวย ไม่สวย วัสดุดีหรือไม่ สำหรับผมไม่มีคะแนนครับ คือ ถ้าไม่ชอบก็ไม่คิดจะซื้อแต่แรกอยู่แล้ว 5555

ตอนท้ายนี้ ผมเอาความเห็นบางส่วนของ gourmetpens.com มาเสริมนะครับ เพื่อจะได้สมดุลกับ Mr. Garden Man ที่หลงรักปากการุ่นนี้จนหัวปักหัวปำ

ผู้ทำรีวิวของ gourmetpens.com บอกว่า ปากการุ่นนี้สวยมากครับ แต่ผิวปากกาได้เนียนดี แต่มีข้อเสียเล็กๆตรงปลอกปากกาบริเวณที่ติดกับคลิปเหน็บกระเป๋า จะเจาะเป็นช่องค่อนข้างใหญ่ เพื่อให้คลิปรอดออกมา แกบอกว่าตรงนี้ดูไม่สวยครับ

ตัว Section ของ Conklin Duragraph ค่อนข้างจะสั้น และไม่ได้ทำจากวัสดุเดียวกับปลอกปากกา กับด้ามปากกา แต่ทำจากพลาสติกสีดำ (ตรงนี้ผมว่าไม่แปลกนะ) เพราะ Section สั้น เวลาจับปากกาบางทีนิ้วมือจึงอาจต้องไปวางบนเกลียวปลอกปากกา แต่ก็ยังดีที่เกลียวไม่คมจึงไม่ทำให้รำคาญครับ แกบอกว่าปากการุ่นนี้จับเขียนได้ถนัดมือดีมากด้วยครับ

gourmentpens.com ยังบอกอีกว่า เมื่อได้ปากการุ่นนี้มาใหม่ๆ จำเป็นที่จะต้องล้างปากกาก่อนที่จะเติมน้ำหมึกนะครับ ซึ่งเขาต้องทำถึง 2 ครั้ง การไหลของน้ำหมึกจึงจะออกมาได้สม่ำเสมอครับ เรื่องการเตรียมปากกา ก่อนการเติมน้ำหมึกครั้งแรก นี่ผมเคยทำเป็นวิดีโอไว้แล้วนะครับ

ผู้ทำรีวิวบอกว่า เขาเกลียดคลิปของปากการุ่นนี้มาก ทั้งเรื่องของรูปทรง และการใช้งาน คือ คลิปแข็งมากจนใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ขนาดที่เสียบกระดาษเข้าไปยังไม่เข้าเลยครับ แต่เรื่องคลิปนี่ Duragraph รุ่นใหม่ปรับปรุงคลิปให้เป็นแบบสปริงโหลดแล้วครับ

การเสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้ามนี่ผู้ทำรีวิวทั้งสองคนมีความเห็นตรงกันว่า ปากกาจะหนักท้ายเอาซะมากๆ จนเขียนไม่ถนัดเอาซะเลย แต่หากเขียนโดยไม่เสียบปลอกปากกาจะเขียนได้ถนัดมากๆครับ

เรื่องขนาดของ Conklin Duragraph นี่จะเท่าๆกับ Lamy Safari เลยนะครับ

โดยรวมแล้วผู้ทำรีวิวจาก gourmentpens.com บอกว่า ปากการุ่นนี้มีราคาที่อยู่ในเกณฑ์รับได้เลย ตัวปากกาสวยมากๆ ขนาดก็กำลังเหมาะมือ หัวปากกาแบบ 1.1 มม. Stub เขียนได้ลื่นมาก เป็นปากกาที่เปียก และยังมี Section Grip ที่จับสบายมืออีกด้วย ส่วนข้อเสียก็อยู่ตรงที่เสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้ามไม่ได้ และเรื่องของคลิปเหน็บกระเป๋าครับ

สำหรับผมแล้ว Conklin Duragraph เป็นปากกาที่สวยมากครับ วัสดุที่ใช้ผลิตก็เหมือนปากการาคาเรือนหมื่นเลย ผมอ่านและดูวิดีโอรีวิวปากการุ่นนี้หลายรีวิวเลยนะครับ ผู้ทำรีวิวทุกคนต่างก็บอกเหมือนกันว่า เป็นปากกาที่คุ้มมากๆ กับราคานี้ และได้ปากกาที่ทำจากวัสดุชั้นดี สวยงามมาก ทั้งยังเขียนดีอีกด้วยครับ

ใครที่สนใจปากการุ่นนี้ สั่งซื้อได้จาก Goulet Pens ครับ เจ้านี้ส่งปากกามาเมืองไทยเกินร้อยด้ามแล้ว ค่าส่งเขาคิดราว 300 บาทนี่แหละครับ ผมอยากให้คนรักปากกาได้ทำความรู้จัก สนิทสนมกันซะจริงๆเลย เพราะจะได้ร่วมกันสั่งด้วยกันทีเดียว 2-3 ด้าม เพื่อแชร์ค่าส่งน่ะครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี