top of page
  • ที่มา: bestfountainpen.com

[รีวิวปากกาหมึกซึม] Montblanc 149 Meisterstück

Montblanc Meisterstück นี่อ่านว่า มงบลังค์ มัย-สเตอร์-สตัค ครับ อันที่จริงก็อ่านลงตัวเลยนะครับ แต่ก็ยังมีฝรั่งบางคนเขียนถามในฟอรั่มว่าอ่านยังไง คำนี้มีความหมายตรงกับคำว่า Master Piece หรือผลงานชิ้นเอกในภาษาอังกฤษครับ

สำหรับผมแล้ว Montblanc ก็เป็นเสมือนกับโรลสลอยด์ของปากกาหมึกซึมน่ะครับ ปากกายี่ห้อนี้เป็นที่ใฝ่ฝันถึงของใครหลายๆคนทีเดียว โดยเฉพาะเจ้า Montblanc 149 ที่ถือว่าเป็นเรือธงของปากกายี่ห้อนี้เลย แต่เมื่ออ่านรีวิวของฝรั่งหลายๆหลายกลับมีเสียงแตกถึงความคุ้มค่าต่อการลงทุนของปากการุ่นนี้ครับ

บทความนี้ผมแปลมาจากเรื่อง Montblanc 149 Meisterstück Review ของ bestfountainpen.com ครับ

ภาพจาก www.montblanc.com

Ms. Jennifer ผู้ทำรีวิวบอกว่า 149 Meisterstück ซึ่งเป็นเรือธงของ Montblanc ออกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1952 (แต่ข้อมูลจากเว็บ Montblanc บอกว่า ออกมาตั้งแต่ปี 1924 นะครับ) และปากการุ่นนี้ก็ยังคงเอกลักษณ์ด้วยความเป็นปากกาแบบ Oversize ตลอดมาอย่างไม่เปลี่ยนแปลง Ms. Jennifer บอกว่า ปากกายี่ห้อนี้เป็นปากกาที่นักนิยมปากกาหมึกซึมแบ่งออกเป็นสองขั้วอย่างสุดๆ คือ กลุ่มหนึ่งก็รักมันมากมาย ขณะที่อีกกลุ่มก็จงเกลียดจงชังซะเหลือเกิน เรามาดูกันครับว่าเป็นยังไง

จุดเด่น จุดด้อย

จุดเด่น

  • มีขนาดใหญ่

  • หัวปากกาขนาดใหญ่ ที่สวยงามมาก

  • จุน้ำหมึกได้มาก

  • หัวปากกา และ Feed ทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม

จุดด้อย

  • เชย

  • ปลอกปากกาแบบหมุนเกลียว

  • เสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้ามไม่ดี

  • แพง

ปากกาหมึกซึม Montblanc 149 นี่มีประวัติอันยาวนานมากครับ เป็นปากกาที่ได้เข้าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ในกรุงนิวยอร์ค และเป็นปากกาที่ประธานาธิบดี John F Kennedy เคยให้นายกรัฐมนตรี Konrad Adenauer แห่งประเทศเยอรมันยืมในการลงนามเซ็นสัญญาร่วมกัน เรื่องนี้นับเป็นเรื่องตลกคลาสิกเลยครับ ประธานาธิบดีอเมริกัน ให้นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ยืมปากกาที่ผลิตในเยอรมันครับ 5555

แล้วเจ้า Montblanc 149 Meisterstück นี่คุ้มค่ากับราคา $900 จริงรึเปล่า เรามาค้นหาด้วยกันครับ

การออกแบบ

หมายเลขที่ Montblanc ใช้กับปากกาในซีรีย์ Meisterstück นี่มีความหมายของมันด้วยนะครับ

Montblanc 149 Meisterstück

เลข 1 เป็นลำดับชั้นของปากกา Montblanc ครับ ปากกาที่ชื่อรุ่นขึ้นต้นด้วยหมายเลข 1 เช่น 149, 163 นี่จะเป็นปากกาที่ดีที่สุดของยี่ห้อนี้ ส่วนที่ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 2 เช่น 220, 254 จะเป็นรุ่นรองลงมา และที่ขึ้นต้นด้วยหมายเลข 3 เช่น 320, 334 ก็จะเป็นลำดับต่ำลงไปอีกชั้นครับ แต่ตอนหลังนี่ Montblanc เอาปากกาที่อยู่ในลำดับที่ 3 นี่ออกจากสายการผลิตไปแล้ว โดยการเปลี่ยนไปใช้ชื่อรุ่นอื่นๆแทนนะครับ

หมายเลข 4 หมายถึง Piston Filler ส่วนหมายเลข 9 คือ ขนาดของหัวปากกา ซึ่งขนาด 9 เป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุด

ภาพจาก www.montblanc.com

Montblanc 149 Meisterstück เป็นปากกาขนาด Oversize คือ มีขนาดใหญ่กว่าปากกาปกติมากเลยครับ โดยมีความกว้างของตัวปากกาถึง 15 มม. และความยาวขณะที่สวมปลอกปากกาถึง 144 มม.

ปากการุ่นนี้เป็นรูปทรงซิการ์ ตัวปากกาทำจากเรซิน ที่ส่วนบนของปลอกปากกามีโลโก้รูปดาวสีขาว คลิปเหน็บกระเป๋าเป็นสีทอง ที่คลิปนี้จะมีหมายเลข Serial Number ของปากกาแต่ละด้ามสลักอยู่ด้วย ปลอกปากกาเป็นแบบเกลียว หมุน 3 รอบ แถบกลางตัวปากกาเป็นวงแหวนสีทอง 3 วง วงกลางมีขนาดใหญ่สุด มีแกะสลักคำว่า Montblanc Meisterstück No. 149 Pix ปากการุ่นนี้ใช้ระบบเติมหมึกแบบ Piston Filler ครับ

เมื่อถอดปลอกปากกาออกจะเห็นช่องมองปริมาณน้ำหมึกอยู่บริเวณเหนือ Section หัวปากกาทำจากทองคำ 18 กระรัต แทรกด้วยแพลตินั่มเป็นสีทูโทน หัวปากกาเป็นขนาดเบอร์ 9 ซึ่งเป็นหัวปากกาขนาดที่ใหญ่ที่สุดของ Montblanc หัวปากกามีรายละเอียดที่สวยงามมาก หัวปากกามีให้เลือกมากถึง 8 ขนาด คือ EF, F, M, OM, OBB, OB, B และ BB

ภาพจาก www.montblanc.com

การเขียน

Ms. Jennifer ได้ทำความสะอาดปากกาก่อนการเติมหมึกครั้งแรก จากนั้นเอาส่วนปลายของหัวปากกาตั้งไว้บนผ้าขนหนูนานเป็นชั่วโมง เพื่อให้น้ำใน Feed แห้งสนิท ถึงขนาดนั้นปากกาด้ามนี้ก็ยังเขียนเส้นขาดๆหายๆอยู่บ้าง เธอจึงตัดสินใจที่ล้างปากกาอีกครั้ง ซึ่งหลังจากการล้างครั้งที่สองแล้ว ปากกาไม่มีอาการเส้นขาด หรืออาการ Hard Start อีกเลย เธอบอกว่า ปากการุ่นนี้ Wrote like a champ ทีเดียวครับ

หัวปากกาของ Montblanc 149 มี Sweet-Spot ที่ไม่แคบ เหมือนกับหัวปากกาในรุ่น Starwalker หัวปากการุ่นนี้เขียนได้ในเกือบจะทุกตำแหน่งเลยครับ แต่เธอก็ยังย้ำว่าปากการุ่นนี้จะเขียนแล้วลายเส้นขาดๆอยู่บ้าง จนใช้หมึกหมดไปแล้วรอบนึงนะครับ จากนั้นก็จะเขียนได้ลื่นมากทีเดียว

Ms. Jennifer บอกว่า เธอไม่มีอะไรจะบ่นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ Montblanc 149 Meisterstück สำหรับตัว Section ของปากการุ่นนี้มีความกว้างถึง 11 มม. เรียกว่า Section อ้วนกว่าปากกาปกติแทบทั้งหมดเลยครับ ส่วนตัวผมแล้ว ผมชอบปากกาที่ Section อ้วนๆมากเลยครับ ส่วนเรื่องความจุของหมึก สำหรับปากกาอ้วนๆใหญ่ๆ และเติมหมึกแบบ Piston Filler ยังงี้ หายห่วงไปเลยครับ เรียกว่าเขียนกันจนลืมเติมหมึกได้เลย

สำหรับหัวปากกาขนาด Medium เขียนได้ลื่นมาก การไหลของน้ำหมึกทำได้ดี แม้ว่าเธอจะเขียนเร็วๆ หรือลากเส้นหวัดๆสักแค่ไหนก็ตาม หากกดหัวปากกาจะมี Line Variation ให้เห็นพอสังเกตได้ ซึ่งเป็นคุณลักษณะของหัวปากกาที่ทำจากทองคำที่มีความยืดหยุ่นสูง และความนุ่มนวลในการเขียนด้วยหัวปากกาที่ทำจากทองคำนี้คุณจะรู้สึกได้ทันทีที่ลงมือเขียน Ms. Jennifer ยังบอกอีกว่า หัวปากกาของ Montblanc 149 ให้ขนาดลายเส้นที่กำลังเหมาะ และแทบจะไม่มีการซึมทะลุของน้ำหมึกไปด้านหลังกระดาษเลย แม้ว่าจะเขียนลงบนกระดาษสมุดบันทึกทั่วไปก็ตาม ทั้งนี้เป็นผลมาจากการปล่อยน้ำหมึกที่กำลังเหมาะของปากกา

เสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้าม

Montblanc 149 ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับให้เสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้าม ปลอกปากกาจะไม่ติดกับด้ามปากกาอย่างมั่นคงพอ อีกทั้งปลอกปากกายังมีน้ำหนักมาก ทำให้ปากกาเสียสมดุลในขณะที่เขียนด้วย

เปรียบเทียบ Montblanc 149 กับ Sailor 1911L

Ms. Jennifer บอกก่อนเลยว่า สำหรับปากการาคาสูงถึง $900 ยังงี้ คนที่จะบอกได้ว่าคุ้มหรือไม่ ก็คือคุณเท่านั้น เธอบอกชัดเจนเลยว่า มันจะคุ้มหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณคือใคร และคุณกำลังมองหาอะไร อืม หากคุณคนนั้นคือผม และกำลังมองหาปากกาสำหรับจดงานในห้องเรียน ก็คงจะไม่ใช่ซะล่ะ 5555

เธอยอมรับว่า ดีไซน์ของ Montblanc 149 ออกจะดูน่าเบื่อไปสักหน่อยสำหรับเธอ มันเป็นปากกาที่ออกแบบมาสำหรับคุณย่าอะไรทำนองนั้นครับ แต่ตรงนี้ผมออกจะเห็นขัดแย้งกับผู้ทำรีวิวนะครับ หากปากกาออกแบบมาหวือหวา ทันสมัย ก็คงขายได้ไม่เกิน 6-7000 บาทมั้งครับ และคงอยู่ในตลาดได้ไม่นานก็จะเริ่มเบื่อ ต่างกับปากกาทรงคลาสิกแบบนี้ ที่มีอายุ 60-70 ปีแล้ว ก็ยังคงสวยงามดูดีครับ

Sailor 1911 Large ภาพจาก penchalet.com

Ms. Jennifer บอกต่อว่า หากคุณกำลังมองหาปากกาชั้นยอดมาเก็บไว้ในคอลเลคชั่นของคุณ ก็ไม่ควรพลาด Montblanc 149 ซึ่งก็เป็นปากกาที่เขียนดีมาก ที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอีกด้วย แต่หากคุณกำลังมองหาปากกาที่เขียนดีที่สุดในโลก โดยไม่คำนึงถึงยี่ห้อ และคุณก็ชอบปากกาสไตล์เดียวกับ Montblanc 149 ล่ะก็ ลองดู Sailor 1911L สิ เพราะดีไซน์ของ Sailor 1911L ต้องได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Montblanc 149 อย่างมากๆเลยล่ะ (แต่จะมีขนาดเล็กกว่า 149 นิดหน่อยนะครับ) และเธอยังเห็นว่า Sailor 1911L จะเขียนดีกว่าอยู่นิดหน่อยด้วยซ้ำ ในขณะที่มีราคาเพียง 1 ใน 3 ของ Montblanc 149 เท่านั้น

ส่วนตัวผมคิดว่า คนที่เลือก Montblanc เป็นปากกาคู่ใจ เขาต้องมีเหตุผลมากกว่าเพียงแค่การเลือกเครื่องเขียนชิ้นนึงนะครับ อาจจะเอาความเห็นของนักเขียน หรือคนเล่นปากกามาตัดสินไม่ได้นะครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝันครับ

แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page