top of page
  • ที่มา: fpquest.com

[รีวิวปากกาหมึกซึม] Sheaffer 300 (F Nib)

ก่อนหน้านี้ผมเคยทำวิดีโอรีวิว Sheaffer 100 ไปแล้วนะครับ Sheaffer 300 นี่เป็นปากกาในซีรีย์เดียวกัน แต่รุ่นสูงกว่าครับ ปากการุ่นนี้หาซื้อได้ง่ายในบ้านเราครับ ในแผนกปากกาของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆก็มักจะมีขาย หรือจะหาซื้อออนไลน์ก็ไม่ยาก ราคาก็อยู่ราวหนึ่งพันบาทกลางๆครับ

ภาพประกอบทั้งหมด นำมาจาก Guolet Pens ครับ

หัวปากกาของ Sheaffer 300 จะเป็นรุ่นเดียวกับ Sheaffer 100 นะครับ แต่รูปทรงโดยรวมของปากกาดูดี หรูกว่า Sheaffer 100 พอสมควรเลย

บทความนี้ผมแปลมาจากเรื่อง Review: Sheaffer 300 Fountain Pen ของบล็อก www.fpquest.com ของ Mr. Ray Newbery ครับ คุณนิวเบอรี่นี่แกประกาศตัวเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Sheaffer เลยนะครับ ซึ่งปากกา Sheaffer ในคอลเลคชั่นของแกโดยมากจะเป็นรุ่นโบราณ สำหรับเจ้า Sheaffer 300 นี่ นับแล้วเป็นปากกา Sheaffer ด้ามที่ 21 ของแกครับ โดยแกให้เหตุผลที่ซื้อเจ้า Sheaffer 300 นี้มา ก็เพราะว่าราคาไม่แพง (ในต่างประเทศราว $80 ครับ ซื้อในบ้านเรายังถูกกว่าอีก)

Sheaffer จงใจออกแบบปากการุ่นนี้ให้ดูหรูหรา ทันสมัยครับ ซึ่งผมก็เห็นว่าได้อย่างใจของ Sheaffer จริงๆ ตัวปากกาของ Sheaffer 300 ทำจากโลหะ มีให้เลือกหลายสี ราคาก็จะขึ้นอยู่กับสีสันของปากกาด้วย อย่างพวกที่ขลิบสีทองก็จะมีราคาสูงขึ้นไปอีกนิดหน่อยครับ หัวปากกาทำจากสแตนเลส ในบ้านเราจะมีขนาด Medium ขายแค่ขนาดเดียว แต่ปากกาที่นำมาทำรีวิวนี้จะเป็นหัวขนาด Fine นะครับ ซึ่งคุณนิวเบอรี่แกบอกว่า ปากการุ่นนี้ให้แกได้เกือบทุกอย่างที่ต้องการเลย ทั้งในแง่ของความสวยงาม หรูหรา และประสิทธิภาพในการเขียน

ตัวปากกาที่ทำจากโลหะ มีรูปทรงคลาสิก ส่วนกลางของตัวปากกาจะอ้วน และค่อยๆเรียวเล็กลงไปทางหัวปากกา และด้ามปากกา โดยที่ด้ามปากกาจะเรียวเล็กกว่าด้านปลอกปากกาครับ บนตัวปากกาจะมีขลิบด้วยสีเงินเงาวาวขนาดใหญ่ที่ส่วนบนของปลอกปากกา คลิป กลางลำตัวปากกา และที่ท้ายด้าม ดูหรูหรามาก

คลิปของ Sheaffer 300 มีรูปทรงคล้ายกับ Sheaffer PFM รุ่นหรู โดยคลิปจะเป็นสปริงโหลด แต่ตัวคลิปของ Sheaffer 300 จะยาวขึ้นไปถึงส่วนบนของปลอกปากกาด้วยเลย ดูสวยดีครับ ส่วนปลายของคลิปจะเรียวลงเล็กน้อย ทำให้เหน็บกระเป๋าได้สะดวก บนคลิปยังมีจุดสีขาว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของปากกา Sheaffer อีกด้วย

แถบกลางลำตัวปากกา เป็นโลหะที่เงินเงาวาวขนาดใหญ่ ตรงด้านหน้ามีชื่อยี่ห้อ Sheaffer แถบกลางลำตัวปากกานี้ รับกับขลิบสีเงินที่ส่วนบนของปลอกปากกา ทำให้ปากกาดูโดดเด่นมาก

ปลอกปากกาของ Sheaffer 300 เป็นแบบดึงออกได้เลย ไม่ต้องหมุนเกลียว เวลาที่ปิดปลอกปากกาจะมีเสียงคลิกเท่ดี แล้วยังทำให้มั่นใจว่าปลอกปากกาปิดแน่นดีแล้วด้วย คุณนิวเบอรี่บอกว่า เขาใช้ปากกามาเป็นเดือนแล้วก่อนที่จะมาทำรีวิวนี้ เขารู้สึกว่า ปลอกปากกาปิดได้แน่น แถมยังแข็งแรงทนทานดีมากด้วย

เมื่อนำปลอกปากกามาเสียบที่ท้ายด้าม ก็ติดได้แน่นหนาดี โดยที่ท้ายด้ามของปากกาที่เป็นสีเงินเงาวาวนั้น นอกจากจะเพื่อความสวยแล้ว ยังมีตัวสำหรับล็อกปลอกปากกาให้ติดแน่นอีกด้วย ผู้ทำรีวิวไม่ค่อยชอบเขียนโดยเสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้ามครับ แต่แกก็บอกว่า พอเอาปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามแล้วก็ไม่รู้สึกว่าปากกาหนักจนเกินไป

ผมจำได้ว่าตอนที่ผมทดสอบ Sheaffer 300 เวลาเอาปลอกปากกาไปเสียบไว้ที่ท้ายด้าม จะลงไปได้ไม่ลึกเท่าไหร่ แถมปลอกปากกาที่ทำจากโลหะ ก็มีน้ำหนักพอสมควร พอเอาปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ายด้ามแล้ว จะรู้สึกว่าปากกาหนักที่ส่วนบนไปสักหน่อยนะครับ ตรงนี้อาจจะขึ้นอยู่กับความรู้สึก และขนาดมือของแต่ละคนด้วย ยังไงก็ลองกันก่อนซื้อสักหน่อยนะครับ แต่สำหรับคนที่เวลาเขียนแล้วไม่ชอบเอาเสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้าม ก็สบายไปครับ

ปากกาของ Sheaffer จะใช้ได้เฉพาะกับหมึกหลอด หรือที่สูบหมึกของ Sheaffer เองเท่านั้นนะครับ แต่สำหรับปากกาที่ซื้อในบ้านเราจะมีที่สูบหมึกแถมมาให้อยู่แล้ว เรื่องนี้ก็เลยไม่เป็นปัญหาครับ ที่สูบหมึกของ Sheaffer จะเป็นแบบ Piston Converter แข็งแรงทนทานดีด้วยครับ

คุณนิวเบอรี่ ผู้ทำรีวิวบอกว่า หัวปากกาของ Sheaffer 300 ดูสั้นๆ มู่ทู่ชอบกล ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนกับหัวปากกาของ Sheaffer รุ่นคลาสิกสักเท่าไหร่นัก แต่ยังไงมันก็ดูดีนะ

ด้านการเขียน คุณนิวเบอรี่แกบอกว่า แกรีบร้อนอยากจะเขียนปากการุ่นนี้มากเกินไป จนลืมที่จะล้างปากกาครั้งแรกก่อนเติมหมึกไป พอได้ปากกามา แกก็ใสหมึกหลอดสีดำที่แถมมากับปากกา แล้วลองเขียนเลย น้ำหมึกไหลลงสู่หัวปากกาค่อนข้างเร็ว เวลาจับเขียนแล้วจะรู้สึกว่า ตัวปากกามีขนาดใหญ่กว่าที่เห็น จับได้ถนัดมือมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นปากกาขนาดใหญ่โตเทอะทะนะครับ

Section ของปากกามีขนาดกำลังเหมาะ Section ของปากการุ่นนี้ทำจากพลาสติกนะครับ ไม่เหมือนกับ Sheaffer 100 ที่ Section ทำจากโลหะสีเงาวาว ทำให้จับปากกา Sheaffer 300 ได้ถนัดมือกว่า และยังไม่ลื่นด้วยครับ

หัวปากกาเขียนได้ลื่นดี แต่มีแรงเสียดทานกับกระดาษเล็กน้อย แค่พอให้รู้สึกว่าหัวปากกาสัมผัสกับกระดาษ แต่คุณนิวเบอรี่ก็ยังไม่ฟันธงให้หัวปากกาของ Sheaffer 300 เป็นปากกาที่ลื่นปรี๊ดนะครับ จากที่ผมเคยทดสอบ Sheaffer 300 และใช้งาน Sheaffer 100 มา ต้องยอมรับเลยว่า หัวปากการุ่นนี้เขียนได้ลื่นมากครับ ไม่มี Feedback เลยแม้แต่น้อย หากเทียบกับปากกาที่มีหัวปากกาทำจากสแตนเลสด้วยกันแล้ว หัวปากกาของ Sheaffer รุ่นนี้ไม่น้อยหน้าใครแน่ๆครับ แต่ด้ามที่ผมใช้งาน และทดสอบมาเป็นหัวปากกาขนาด Medium นะครับ

พอเอาปลอกปากกามาเสียบที่ท้ายด้าม ตรงนี้คุณนิวเบอรี่บอกว่า รู้สึกว่าปากกาค่อนข้างหนักจนเขียนไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ครับ เขียนโดยไม่เอาปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามสบายกว่าเยอะ

Section ของปากกาที่ทำจากพลาสติก เรียบเนียนดี แต่แกบอกว่าวันที่อากาศร้อนๆ (มีเหงื่อที่มือ) ก็อาจจะทำให้รู้สึกว่าลื่นนิดหน่อยได้เหมือนกัน แต่ก็ยังดีกว่าพวกปากกาที่ Section เป็นโลหะ ส่วนตัวผมแล้วเวลาเลือกซื้อปากกานี่ ผมให้ความสำคัญกับ Section ค่อนข้างมากครับ ผมจะชอบปากกาที่มี Section อวบๆ และทำจากพลาสติกมากกว่าครับ แต่จากที่ผมทดสอบ Sheaffer 300 ผมคิดว่า Section ของปากการุ่นนี้จัดว่าดี ไม่มีปัญหาอะไรเลยนะครับ หรือว่าแกจะเป็นคนที่เหงื่อเยอะ อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ

แม้ว่าด้านการเขียน จะขึ้นอยู่กับน้ำหมึกที่ใช้ด้วย แต่ปากการุ่นนี้ก็ต้องนับว่าเป็นปากกาที่เปียกดีมาก และพร้อมที่จะเขียนเสมอ แม้ว่าจะเปิดปลอกปากกาทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้งานนานนับสิบนาที พอหยิบมาเขียนก็เขียนได้ทันทีอย่างไม่มีปัญหา ผู้ทำรีวิวบอกว่า เขายังไม่เคยทิ้งปากการุ่นนี้ไว้โดยไม่ใช้งานนานเกิน 5 วัน จึงบอกไม่ได้ว่า หากทิ้งไว้นานๆแล้วนำมาใช้จะเป็นยังไง แต่เท่าที่เขาใช้งานมาปากการุ่นนี้ยังไม่เคยมีปัญหาเรื่อง Hard Start หรือทิ้งไว้นานๆแล้วเขียนไม่ออกเลย

จากประสบการณ์ของผมที่ใช้ Sheaffer 100 นะครับ ผมใช้น้ำหมึกราคาถูกๆของ Pilot ปากกาก็ยังเปียกมาก แต่หากใช้หมึกของ Sheaffer เองจะเปียกมากกว่าอีกครับ ผมเคยเก็บปากกาโดยใส่หมึกไว้ แต่ไม่ได้ใช้งานนานเกินครึ่งเดือน พอหยิบมาใช้งานก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ เขียนได้ออกทันที แม้ว่าตอนแรกจะมีเส้นขาดนิดหน่อย แต่เขียนออกเลยทันทีนะครับ พอเขียนไปไป 2-3 ตัวอักษร ก็เขียนได้คล่อง ไม่ต้องเขย่าปากกาเลยครับ

คุณนิวเบอรี่บอกว่า Sheaffer 300 เป็นปากกาที่เขียนได้สบายมากๆ แม้จะเขียนติดต่อกันนานๆก็ตาม เขาใช้ปากการุ่นนี้ในประจำวัน ซึ่งจะต้องใช้จดงานนานเป็นชั่วโมงๆ ซึ่งเขาบอกว่าปากการุ่นนี้เหมาะที่จะนำไปใช้งานในประจำวันมาก เพราะพกสะดวก หยิบใช้ง่าย พอหยิบมาเขียนก็เขียนออกทันที ไม่มีปัญหาครับ

เขาลองใช้ปากกาเขียนหลายๆแบบ ทั้งเขียนเร็วๆ จดบันทึก Sheaffer 300 ก็ทำงานได้ดีมาก ไม่เคยมีเส้นขาดหาย หัวปากกาก็ยังมี Sweet Spot กว้าง หยิบเขียนเร็วๆก็เขียนออกทันที ไม่ว่าจะวางหัวปากกามุมไหนก็ตาม แต่หัวปากการุ่นนี้ค่อนข้างแข็ง ไม่มีความ Flex เลย เขียนขึ้นเบาลงหนักไม่ดีนะครับ

ความเห็นส่วนตัวของผม Sheaffer 300 เป็นปากกาที่ดูหรูเลยล่ะครับ ยังดูดีกว่า Sheaffer 100 ที่ผมทำรีวิวไปแล้วอีก แถมยังเป็นปากกาที่เขียนดี ไม่เคยสร้างปัญหาในการเขียนให้หน้าแตกเลยสักครั้ง ผมว่าเหมาะสำหรับผู้บริหารรุ่นเยาว์นะครับ จะใช้จดบันทึกเร็วๆก็ทำได้ดี ใช้เขียนสรุปในห้องประชุมนานๆก็ยังได้ หรือจะใช้เซ็นชื่อ ปากกาที่เปียกๆยังงี้ไล่สีน้ำหมึกได้สวยเลยล่ะครับ จะหยิบมาเขียนอวยพร หรือลงทะเบียนหน้างาน ก็ดูหรูหราสมฐานะครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page