top of page
  • ที่มา: www.bestfountainpen.com

[รีวิวปากกาหมึกซึม] Montegrappa Fortuna


Montegrappa เป็นบริษัทผู้ผลิตปากกาหมึกซึมรายแรกจากประเทศอิตาลี ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1912 ครับ ขึ้นชื่อว่าอิตาลีนี่คงไม่ต้องห่วงเรื่องความสวยงาม หรูหรา ประณีตล่ะนะครับ บริษัทนี้นอกจากจะผลิตปากกาหมึกซึมแล้ว ยังเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในหมู่นักเล่นนาฬิกาหรูอีกด้วยนะครับ แน่นอนว่า ราคาของปากกายี่ห้อนี้ต้องไม่ธรรมดาครับ ปากกาหมึกซึมรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดในปัจจุบันของยี่ห้อนี้ ราคายังปาเข้าไปตั้ง $200 แน่ะครับ

Fortuna เป็นปากการุ่นยอดนิยมรุ่นหนึ่งของ Montegrappa ครับ ราคาขายในต่างประเทศจะอยู่ที่ตั้งแต่ $250 ขึ้นไป แต่ถ้าหาจากในอีเบย์ ก็พอจะหาได้ในราคาราวแปดพันกว่าบาท รวมค่าส่งมาถึงบ้านเราครับ

บทความนี้ผมแปลมาจากเรื่อง Montegrappa Fortuna Fountain Pen Review จากบล็อก Best Fountain Pen ของ Ms. Jennifer นะครับ

Montegrappa Fortuna ที่ Ms. Jennifer นำมาทำรีวิวเป็นสีดำ ขลิบด้วยพาราเดียมครับ ตัวปากกาทำจากเรซิน ปลอกปากกาจะป่องๆออกมา กลางตัวปากกามีแถบสีเงินขนาดใหญ่ ที่คลิปจะมีล้อ ช่วยให้เหน็บกระเป๋าได้ง่ายขึ้น โดยรวมแล้วเป็นปากกาที่ดูเรียบๆ แต่สวยงาม และหรูหรามาก

ลักษณะของปากกา

Ms. Jennifer เน้นมากว่า ปากการุ่นนี้ดูเรียบ แต่หรูมากครับ ตัวปากกาทำจากเรซินสีดำ ส่วนปลายของด้ามปากกาเรียวลงเล็กน้อย บนด้ามปากกาไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย ไม่มีแถบแหวน ส่วนหัวของปลอกปากกามีป้ายโลหะติดอยู่ บอกว่าปากกายี่ห้อนี้เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 1912

ส่วนกลางของคลิปเหน็บกระเป๋าของ Montegrappa Fortuna จะนูนขึ้นเล็กน้อย ดูเป็นรูปตัว Y ส่วนปลายของคลิปจะมีล้อเล็กๆ ช่วยให้เหน็บกระเป๋าได้ง่ายยิ่งขึ้น ตัวคลิปค่อนข้างแข็ง จนไม่สามารถเสียบปากกาลงในกระเป๋าได้ด้วยมือข้างเดียว

แถบบนปลอกปากกามีขนาดค่อนข้างกว้าง สลักคำว่า Montegrappa ไว้ ดูสวยงาม หรูหรามาก ปลอกปากกาเป็นแบบเกลียว แต่ผู้ทำรีวิวไม่บอกว่าหมุนเปิดกี่รอบนะครับ บอกแค่ว่าหมุนเพียงไม่กี่รอบก็เปิดปลอกปากกาได้

เมื่อเปิดปลอกปากกาออก ก็จะได้พบกับหัวปากกาที่สวยงามมากๆ โดยจะแกะสลักลวดลายแปดเหลี่ยมซ้อนทับกันทั่วหัวปากกา และมีชื่อยี่ห้อ Montegrappa อยู่ตรงกลาง พร้อมกับตัวอักษรบอกขนาดลายเส้นที่ด้านล่างของหัวปากกา

ระบบเติมหมึก

Montegrappa Fortuna เป็นปากกาที่สวยงามมากๆ ทำให้ Ms. Jennifer อยากรู้มากๆว่า การเขียนของปากการุ่นนี้จะเป็นยังไง ก่อนที่เธอจะนำปากกามาใช้งาน ก็ได้ล้างปากกาให้สะอาด แล้วใช้กับหมึกหลอดของ Waterman

หมึกหลอดของ Waterman เป็น International Standard Cartridge นะครับ เท่าที่ผมดูจากรีวิวอื่นๆ เห็นว่าตอนซื้อปากการุ่นนี้มาจะมีหมึกหลอดมาตรฐานแบบสั้นแถมมาให้ 2 หลอดด้วย ก็แปลว่าน่าจะใช้กับหมึกหลอดมาตรฐานอื่นๆได้ และยังมีที่สูบหมึกให้มาอีก 1 อัน ซึ่งที่สูบหมึกของ Montegrappa ก็เป็นแบบ International Standard แต่ Montegrappa ออกแบบที่สูบหมึกของตัวเอง ให้มีเกลียวหมุนติดกับที่ด้านในของ Section ผมจึงไม่แน่ใจว่าจะสามารถใช้กับที่สูบหมึกมาตรฐานอื่นๆได้รึเปล่านะครับ ในรีวิวนี้ก็ไม่ได้บอกไว้ด้วยครับ

ประสิทธิภาพในการเขียน

ด้านประสิทธิภาพในการเขียน Ms. Jennifer บอกเธอต้องยอมรับว่า เธอไม่ค่อยชอบหัวปากกาที่มีความแข็งมากนัก แม้ว่าหัวปากกาของ Montegrappa Fortuna จะเป็นหัวปากกาที่ดูสวยงามมาก แต่มันก็ทำจากสแตนเลสซึ่งย่อมไม่สามารถให้ความนุ่มนวลในการเขียนได้เหมือนกับหัวปากกาที่ทำจากทองคำ อย่างไรก็ตาม หัวปากกาของ Montegrappa Fortuna เขียนได้ดีมากๆ แต่ก็มีปัญหาเรื่องเส้นขาดๆหายๆอยู่บ้าง และยังมีปัญหาเรื่อง Hard Start คือ เมื่อเก็บปากกาไว้นานๆ พอหยิบออกมาแล้วจะเขียนไม่ค่อยออกครับ แต่ปัญหานี้เธอบอกว่า เกิดขึ้นเฉพาะตอนที่เขียนในหน้าแรกของสมุดบันทึกเท่านั้น พอขึ้นหน้าที่สองก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

Ms. Jennifer ย้ำว่า หัวปากกาของ Montegrappa Fortuna แข็งมาก ไม่ได้เขียนเหมือนฝัน เหมือนอย่าง Sailor 1911 และไม่ได้เขียนลื่นอย่าง Parker Sonnet การเปรียบเทียบตรงนี้อาจจะไม่แฟร์เท่าไหร่ เพราะ Parker Sonnet ของ Ms. Jennifer ใช้หัวปากกาที่ทำจากทองคำ 18K ยิ่ง Sailor 1911 Large ที่เธอชื่นชอบด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ครับ เพราะใช้หัวปากกาที่ทำจากทองคำ 21K เลย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่พอๆกันแล้ว ก็ต้องทำให้เธอคาดหวังว่าจะได้อะไรที่ใกล้เคียงกันบ้างนะครับ เสียดายที่ตรงนี้ Ms. Jennifer ไม่ได้เปรียบเทียบกับหัวปากกาสแตนเลสของ Pelikan M200 ว่าใครเขียนดีกว่ากัน อาจจะเป็นเพราะว่า M200 มีราคาถูกกว่าเกินครึ่งน่ะครับ

อย่างไรก็ตาม Ms. Jennifer ก็ต้องยอมรับว่า ปากการุ่นนี้ดูสวยงามหรูหรามาก เป็นที่ต้องตาของผู้พบเห็นเอาซะมากๆครับ

ความยาว และน้ำหนัก

น้ำหนักของ Montegrappa Fortuna ไม่หนักไม่เบาเกินไป แต่เมื่อเอาปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามจะรู้สึกหนักที่ส่วนปลายนิดหน่อย เพราะปลอกปากกามีรูปทรงอ้วนใหญ่ ปากการุ่นนี้ใช้งานแบบไม่เสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้ามจะเขียนได้สบายกว่าครับ ซึ่งตรงนี้เธอก็ตำหนิว่า บนตัวปากกาของ Montegrappa Fortuna ไม่มีอะไรที่สวยสะดุดตาเลย จุดเด่นส่วนใหญ่ของปากกาอยู่ที่ปลอกปากกา ถ้าสามารถเขียนโดยเอาปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามได้น่าจะดีกว่านี้ไม่น้อยเลย

ลายเส้นของหัวปากกาขนาด Medium ของ Montegrappa Fortuna ให้เล็กที่ค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับปากกาจากยุโรปอื่นๆ การเขียนออกไปในทางแห้งสักหน่อย แต่ไม่กัดกระดาษนะครับ และเพราะว่าเป็นปากกาที่เขียนค่อนข้างแห้งนี่เอง ทำให้น้ำหมึกไม่ซึมทะลุไปด้านหลังของกระดาษครับ

ผมยังข้องใจเรื่องการเขียนของ Montegrappa Fortuna อยู่ ก็เลยไปดูวิดีโอรีวิวจาก Pen Habit ของ Mr. Matt Armstrong ก็เลยจับใจความมาให้พิจารณาประกอบนะครับ

Mr. Armstrong ชอบปากการุ่นนี้ค่อนข้างมาก เพราะว่าสวย และผลิตได้ประณีตมากๆครับ เรื่องขนาดของปากกาก็ใหญ่เต็มไม้เต็มมือดี ที่บอกว่าเอาปลอกปากกาไปเสียบไว้ท้ายด้ามแล้วเขียนไม่ถนัด ตรงนี้ Mr. Armstrong มีความเห็นแตกต่าง เขาบอกว่าเมื่อเสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้ามแล้วจะหนักนิดหน่อย แต่ปากกาก็ยังสมดุลดี ไม่ได้หนักส่วนปลายนะครับ ดูจากวิดีโอของ Mr. Armstrong แล้วก็เห็นว่าปากกายังสมดุลได้ดีจริงๆ แต่อาจเป็นเพราะ Ms. Jennifer เป็นผู้หญิง เลยไม่คุ้นกับปากกาที่มีน้ำหนักมากก็ได้ครับ

ด้านการเขียน Mr. Armstrong บอกว่า ค่อนข้างประทับใจกับ Montegrappa Fortuna แม้ว่าปากกาจะเขียนออกไปในทางแห้ง และให้ลายเส้นที่เล็กกว่าหัวปากกาขนาดเดียวกันตามมาตรฐานยุโรปก็ตาม Mr. Armstrong บอกว่า การเขียนของปากการุ่นนี้จะมี Feedback นิดหน่อย แต่เป็น Feedback ที่ดีนะครับ ปากกาเขียนได้ลื่นมาก แต่หัวปากกาจะมีอยู่มุมหนึ่งที่เจียรมาค่อนข้างคมไปสักหน่อย ดูจากรีวิวของทั้งสองแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า Montegrappa Fortuna ยังไม่ใช่ปากกาที่เขียนแล้วทำให้รู้สึกว้าว อะไรทำนองนั้นครับ

กลับมาที่รีวิวของ Ms. Jennifer ต่อนะครับ

คุณค่าโดยรวม

Montegrappa Fortuna เป็นปากกาที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ออกจะทำให้ Ms. Jennifer ผิดหวังนิดหน่อย เรื่องที่หัวปากกาค่อนข้างแข็ง แต่เธอก็บอกว่า ยังมีคนอีกมากนะที่ชอบหัวปากกาแข็งๆ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคนก็แล้วกัน เธอบอกว่า ถ้าปากการุ่นนี้เปลี่ยนไปใช้หัวปากกาที่ทำจากทองคำ 14K ล่ะก็ จะต้องเป็นหนึ่งในปากกาที่เธอชื่นชอบมากที่สุดแน่ๆ แต่หากใครที่ชื่อชอบหัวปากกาที่ทำจากสแตนเลส ก็น่าจะชอบปากการุ่นนี้ครับ

ไม่รู้ว่าผู้อ่านคิดยังไงกับ Montegrappa Fortuna นะครับ ส่วนตัวผมว่า รูปลักษณ์ของปากกาขัดกับบุคลิกของตัวเองไปสักนะหน่อยครับ คือ Fortuna เป็นปากกาหรู มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักมาก ปลอกปากกาอวบอ้วน เอาปลอกไปเสียบท้ายด้ามแล้วอาจจะเขียนไม่สบายมือนัก ลักษณะแบบนี้เหมาะสำหรับเป็นปากกาของผู้บริหาร ใส่ในกระเป๋าเสื้อสูทแล้วดูโดดเด่นมาก แต่ไม่ได้ใช้เขียนหรือจดงานนานๆครับ แค่หยิบออกมาเซ็นชื่อ หรือเขียนโน๊ตสั้นๆ ซึ่งปากกาลักษณะนี้ควรจะมีลายเส้นขนาดใหญ่ น้ำหมึกเปียกๆ เขียนได้ฉ่ำมากๆครับ แต่การเขียนของ Fortuna กลับมีขนาดลายเส้นที่เล็กกว่าปกติ แถมยังมี Feedback นิดหน่อย และออกไปในทางค่อนข้างแห้งด้วย ซึ่งเป็นลักษณะการเขียนที่เหมาะกับการจดงานมากกว่า ที่สำคัญยังมีราคาที่ค่อนข้างแพงมากอีกด้วย ตรงนี้ผมเลยไม่แน่ใจว่า Montegrappa Fortuna จะเหมาะกับใครกันแน่นะครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝันครับ

แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page