[รีวิวปากกาหมึกซึม] Stipula Passaporto
- ที่มา: Pens! Paper! Pencils!
- 12 ก.ค. 2559
- ยาว 2 นาที
ผมมีความรู้สึกชอบรูปลักษณ์ของปากกาที่ผลิตจากประเทศอิตาลีเป็นพิเศษครับ คือ มันดูคลาสิก สวยงาม มีเสน่ห์น่าหลงไหลอย่างบอกไม่ถูก ดีไซน์ของปากกาที่ผลิตจากอิตาลี แม้จะเป็นปากกาที่ดูเรียบง่ายเพียงไร แต่ก็มักจะมี “อะไร” อยู่เสมอ ส่วนปากการาคาแพงๆ ที่เป็นงานแกะสลักทำด้วยมือ ก็ยิ่งใหญ่อลังการ แต่ไม่ “เยอะ” จนเกินงามครับ
Stipula เป็นบริษัทผู้ผลิตปากกาชั้นนำอีกรายของอิตาลี อันที่จริงแล้วบริษัทนี้ก็ไม่ใช่บริษัทเก่าแก่อะไรนะครับ เพราะเพิ่งก่อตั้งในปี 1973 นี่เองครับ บทความนี้ผมแปลมาจากเรื่อง Stipula Passaporto Fountain Pen Review ของบล็อก Pens! Paper! Pencils! ครับ ผมเองกำลังสนใจปากการุ่นนี้อยู่ ก็เลยหารีวิวของต่างประเทศมาอ่าน แล้วก็แปลมาฝากกันครับ

ภาพทั้งหมดจากเว็บ Pens! Paper! Pencils! ครับ
Stipula Passaporto เป็นปากกาหมึกซึมที่มีขนาดเล็กมาก ตัวที่นำมาทำรีวิวนี้เป็นรุ่นที่เรียกว่า Massdrop ซึ่งจะแตกต่างจากรุ่นปกติอยู่เล็กน้อย โดยรุ่นนี้จะมีเกลียวอยู่ที่ท้ายด้าม เวลานำปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามก็จะใช้วิธีหมุนเกลียวนะครับ ผู้ทำรีวิวบอกว่า รุ่นปกติที่ไม่มีเกลียวนี้เวลาเอาปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามจะไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ ปลอกปากกาอาจจะตกหล่นได้ครับ นอกจากนี้เกลียวที่บริเวณ Section ของปากการุ่นนี้ก็จะแข็งแรงกว่ารุ่นปกติด้วย เรื่องที่ว่าเวลาเอาปลอกปากกาไปเสียบไว้ที่ท้ายด้ามของ Stipula Passaporto รุ่น Original แล้วไม่ค่อยแน่นนี่ มีนักรีวิวปากกาอื่นๆอีกหลายคนบ่นเหมือนกันนะครับ

ราคา: ผู้ทำรีวิวซื้อมาที่ราคา 65 USD สำหรับรุ่น Massdrop นี้ แต่ผมเห็นผู้ทำรีวิวรายอื่นบอกว่า ราคาอยู่ที่ราว 100 USD นะครับ
หัวปากกา: มีให้เลือก 3 ขนาด คือ Fine, Medium และปากตัด 0.9 มม. ข้อมูลจากเว็บของ Stipula บอกว่า มีหัวปากกาขนาด F, M, BB, 0.9 และ 1.1 ให้เลือกครับ
ด้ามปากกา: มีให้เลือก 3 สี คือ ฟ้า แดง และแบบใสๆ
ระบบเติมหมึก: ใช้หมึกหลอดมาตรฐานแบบสั้น หรือทำเป็น Eyedropper ผมคิดว่าน่าจะใช้กับที่สูบหมึกแบบบีบ (Squeeze) ของ Kaweco Sport ได้ด้วย แต่อันนี้ยังไม่แน่ใจนะครับ
ขนาด: ปิดปลอกปากกา ยาว 9.2 ซม. ถอดปลอกปากกา ยาว 8.8 ซม. เอาปลอกปากกาไปเสียบท้ายด้าม ยาว 12.5 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. น้ำหนัก 14 กรัม
ปากการุ่นนี้สั้นเอาซะมากๆครับ เมื่อปิดปลอกปากกาจะมีขนาดกระทัดรัด ดูน่ารัก รูปทรงของปากกาจะสั้นๆ อ้วนๆ เหมือนมะขามข้อเดียว 5555 แม้แต่ตอนที่เอาปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามแล้ว ก็ยังไม่ถือว่าเป็นปากกาที่ยาวเลยครับ แต่ก็ยาวพอที่จะเขียนได้อย่างสบายมือละครับ ปากการุ่นนี้ใช้ปลอกปากกาแบบเกลียวนะครับ

Stipula Passaporto นี่ไม่มีคลิปเหน็บกระเป๋าครับ ซึ่งผู้ทำรีวิวบอกว่า สำหรับปากกาที่มีขนาดกระทัดรัดแบบนี้ เขาชอบให้มีคลิปมากกว่า แต่ส่วนตัวผมเห็นว่า ปากกาเล็กๆแบบนี้ไม่มีคลิป และปลอกปากกาแบบเกลียวนี่เหมาะดีแล้วครับ เอาใส่กระเป๋ากางเกง โยนใส่ในเป้หลังสะดวกดีครับ ไม่ต้องมีคลิปมาเกาะเกี่ยวอะไร ที่ปลอกปากกาจะมีแถบโลหะขนาดใหญ่ มีโลโก้รูปใบไม้ของ Stipula อยู่ โลโก้นี่ผู้ทำรีวิวบอกว่า ทำหน้าที่เป็นตัวหยุด ป้องกันปากกากลิ้งไหลตกโต๊ะได้ด้วยครับ

ผู้ทำรีวิวเติมน้ำหมึกโดยทำเป็น Eyedropper ครับ แม้ว่าปากการุ่นนี้จะมีแหวนยาง หรือโอริงมาอยู่แล้ว แต่ผู้ทำรีวิวก็ยังทาซิลิโคนเจลที่เกลียวของปากกาอีกที เพื่อความมั่นใจว่าน้ำหมึกจะไม่ซึมออกมา ตรงนี้ผู้ทำรีวิวบอกว่า Silicon Gel นะครับ แต่อันที่จริงน่าจะเป็น Silicon Grease หรือจาระบีขาวมากกว่านะครับ ผู้ทำรีวิวบอกว่า เขาสนุกมากที่ได้เห็นน้ำหมึกไหลไปๆมาๆอยู่ในด้ามปากกา แต่เขากลับรู้สึกว่า พลาสติกที่ใช้ทำปากกาดูเป็นพลาสติกราคาถูกๆชอบกล และเขายังไม่ชอบที่ Stipula Passaporto ทำผิวปากกาแบบพ่นทรายให้เป็นสีขาวขุ่นๆอีกด้วยครับ

เรื่องวัสดุทำปากกานี่ผมไปอ่านจากรีวิวอื่นๆ พบว่า ปากการุ่นนี้ทำจากเรซินนะครับ ก็มีความเป็นไปได้ที่ปากกาดูขุ่นๆไม่ใสแจ๋วเหมือนปากกาที่ทำพลาสติก โดยเฉพาะปากกาที่ราคาไม่แพงครับ อย่างปากกาเรซินใสๆที่ผลิตในอินเดียนี่บางรุ่นดูไม่สวยเอาซะจริงๆเลยนะครับ แต่ตรงนี้ผมยังไม่แน่ใจอยู่เหมือนกันว่า ปากกาอิตาลียังไงก็น่าจะควบคุมคุณภาพมาพอสมควรนะครับ และผมดูจากรีวิวอื่นๆ ก็ยังไม่เห็นว่ามีใครบ่นเรื่องวัสดุที่ใช้ทำปากกา เลยอาจเป็นไปได้ว่า เรื่องนี้เป็นความชอบส่วนตัวของผู้ทำรีวิวเองนะครับ

Stipula Passaporto ที่นำมาทำรีวิวนี้ใช้หัวปากกาแบบปากตัด ขนาด 0.9 มม. หรือ 0.9 mm. italic nib ครับ หัวปากกาของ Stipula Passaporto จะไม่มีตัวอักษรบอกขนาดของลายเส้นนะครับ ผู้ทำรีวิวบอกว่า หัวปากกาเขียนได้ลื่นดี แต่ว่าแห้งมากๆ ผู้ทำรีวิวได้ทดลองเปลี่ยนไปใช้น้ำหมึกแบบอื่นๆอีก 2-3 ชนิด ก็ยังไม่ช่วยแก้ปัญหาการเขียนที่แห้งมากๆนี้ เขาบอกว่า การป้อนหมึกแห้งเกินกว่าที่จะเขียนได้สนุก แต่เขาคิดว่าหัวปากกาขนาดอื่นอาจจะเขียนได้ดีกว่านี้ เพราะเขาพบว่า มีบางคนที่ชื่นชอบปากการุ่นนี้เอาซะมากๆเลย
เรื่องการป้อนหมึกที่แห้งเกินไปนี่ ผมพบในรีวิวของ Stephen Brown และ Gourmet Pens เหมือนกันครับ ทั้งสองคนทำรีวิวหัวปากกาขนาด Double Broad ต่างก็บอกว่า การป้อนหมึกแห้ง เขียนแล้วเส้นขาดๆหายๆด้วย ผมเลยลองหาข้อมูลต่อ ไปเจอรีวิวของ Ms. Shang Ching นักรีวิวปากกาจากสิงคโปร์ ที่ทำรีวิวหัวปากกาที่เธอคิดว่าเป็นขนาด European Fine เธอชื่นชอบการเขียนของปากการุ่นนี้มากนะครับ บอกว่า เขียนดีตั้งแต่แกะออกจากกล่องเลย เขียนได้ลื่นมากๆ แต่หัวปากกาค่อนข้างแข็ง ทำ Line Variation ไม่ได้เลย ตรงนี้ผมเลยเดาว่า เป็นเพราะหัวปากกาขนาด BB และ Italic ต้องการการป้อนน้ำหมึกที่มากกว่า เลยทำเขียนแล้วแห้งกว่าครับ แต่ตรงนี้ผมยังหาข้อมูลมายืนยันเพิ่มเติมไม่ได้นะครับ

ผู้ทำรีวิวของ Pens! Paper! Pencils! บอกว่า ผิดหวังกับปากการุ่นนี้มาก เพราะดูเหมือนปากการาคาถูก และการเสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้ามก็ทำได้ไม่ดีนัก ทั้งๆที่การเสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้ามเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับปากการุ่นนี้ มิหนำซ้ำปากกายังเขียนแห้งเกินไปอีกด้วย ผู้เขียนยังเตือนว่า หากใครที่คิดจะซื้อ ควรพิจารณาให้ดีซะก่อนครับ
เสียดายที่นักเล่นปากกาในบ้านเราไม่มีโอกาสได้ลองจับ ลองใช้ปากการุ่นนี้ก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ เพราะถ้าใครอยากได้ก็ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาเท่านั้น ทำให้ไม่มีโอกาสรู้เลยว่า ปากการุ่นนี้จะ “ใช่” สำหรับเรารึเปล่า ส่วนตัวผมชอบรูปทรงของเจ้า Stipula Passaporto นี่มากนะครับ แต่ปากการุ่นนี้ค่อนข้างจะหาซื้อยาก บางทีก็ต้องสู้ราคาสักหน่อยด้วย แต่กลับยังมีข้อสงสัยในเรื่องคุณภาพการใช้งานอยู่ ก็เลยทำให้ผมยังลังเลอยู่ครับ
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน
แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี
ความคิดเห็น