top of page
  • ที่มา: www.pencilcaseblog.com

[รีวิวปากกาหมึกซึม] Montblanc Meisterstück 146


เปรียบเทียบขนาด Montblanc 149 กับ Montblanc 146

ก่อนหน้านี้ผมได้แปลรีวิว Montblanc Meisterstück 149 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นเรือธงของปากกายี่ห้อนี้ให้อ่านกันไปแล้วนะครับ ทีนี้ผมจะขอแปลรีวิว Montblanc 146 ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น “พี่รอง” ถัดจากรุ่น 149 ลงมา ซึ่งจะมีราคาถูกกว่า 149 พอสมควรทีเดียวครับ คือ ราคาขายในเมืองนอกของรุ่น 146 นี่จะอยู่ที่ราว 500 GBP ขณะที่รุ่น 149 ราคาจะอยู่ที่กว่า 600 GBP หรือถูกกว่ากันเกิน 100 ปอนด์เชียวครับ ทั้งนี้หากเป็นปากกาสีแปลกๆ หรือรุ่นลิมิเดตก็จะมีราคาสูงกว่านี้ไปอีกมากเลยนะครับ

เปรียบเทียบขนาด Montblanc 144 - 146 และ 149

เห็นดาวหกแฉกวางเรียงกันยังงี้แล้วใจแทบละลายนะครับ

ภาพโดย Mr. Ocedare จากฟอรั่ม Fountain Pen Network

Montblanc 146 นี่แตกต่างจาก 149 อย่างเห็นได้ชัดเจนเลยนะครับ โดยที่ 146 นี่เป็นปากกาขนาดใหญ่ ส่วน 149 น่ะเป็นปากกาขนาดยักษ์ หรือขนาดโอเวอร์ไซส์ครับ ตัวปากกาของทั้งสองรุ่นทำจากเรซินเหมือนกัน และใช้ระบบเติมหมึกแบบ Piston Filler เหมือนกัน หัวปากกาก็ทำจากทองคำ 14K เหมือนกันอีก แต่หัวปากกาของ 149 มีขนาดใหญ่กว่า 146 มากทีเดียวครับ

เปรียบเทียบขนาดหัวปากกา Montblanc 144 - 146 - 149 และ N-32

ตัวเลข 4810 บนหัวปากกาของ Montblanc คือ ความสูงโดยประมาณของยอดเขา Montblanc

ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปครับ

ภาพโดย Mr. Ocedare จากฟอรั่ม Fountain Pen Network

บทความนี้ผมแปลมาจากเรื่อง Montblanc Meisterstück 146 'Legrand' Fountain Pen Review ของบล็อก Pencil Case Bloc นะครับ Mr. Dries เจ้าของบล็อกนี้เป็นชาวเบลเยี่ยมที่เพิ่งจะมีอายุเพียง 19 หยกๆ 20 หย่อนๆเองนะครับ แม้ว่าอายุจะยังน้อยอยู่ แต่ประสบการณ์เกี่ยวกับปากกาหมึกซึมและเครื่องเขียนต่างๆของ Mr. Dries นี่ไม่น้อยตามอายุเลย ในบล็อกของพี่เค้ารีวิวปากกาหมึกซึมและเครื่องเขียนระดับไฮเอนไว้เพียบเลย การรีวิวก็ทำได้ดี มีความน่าเชื่อถือสูงอีกด้วยนะครับ

Mr. Dries บอกว่า ตัวเขาไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของปากกายี่ห้อ Montblanc นะครับ แถมยังออกตัวอีกว่า การที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์ปากกายี่ห้อนี้ ออกจะเป็นเรื่องที่กล้าเกินตัวไปสักหน่อยสำหรับตัวเขา และเขาก็รู้ดีว่า มีคนจำนวนมากที่รักเจ้าปากกาที่มีโลโก้รูปดาวสีขาวนี้ แต่หลายๆคนที่บอกว่ารัก Montblanc ก็เพียงเพราะโลโก้นี้อีกเหมือนกันครับ เนื่องจาก Montblanc เป็นเสมือนสัญลักษณ์บ่งบอกสถานะ คือ หากคุณต้องการที่จะบอกให้คนอื่นรู้ว่า คุณคือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ คุณก็จำเป็นจะต้องใช้ Montblanc อะไรทำนองนี้ครับ

ผู้ทำรีวิวบอกว่า เขาไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปขัดแย้งกับเรื่องนั้น เพราะมันก็เหมือนๆกับคนที่ขับรถ Porsche ใส่นาฬิกา Rolex หรือซื้อรองเท้าหรูราคาแพงน่ะครับ ซึ่งพี่แกก็บอกว่า แกจะซื้อรถ Porsche แน่นอน ถ้าแกมีตังค์พอครับ 55555 อย่างไรก็ตาม ผู้ทำรีวิวบอกว่า ปากกา Montblanc ไม่เคยทำให้เขารู้สึก Wow ได้อย่างเวลาที่เห็นรถ Porsche ขับผ่าน หรือหากเขาซื้อรองเท้าหรูๆราคาแพงสักคู่ เวลาใส่ก็จะรู้สึกถึงความสบายเท้าที่แตกต่างนะครับ แต่เขาบอกว่า ปากกา Montblanc ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้ขนาดนั้นเลยครับ

เมื่อแกะกล่องปากกาออก Mr. Dries ก็ยังยืนยันว่า ปากกาไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรนักหนาให้กับเขา โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายไปเกือบ 600 ยูโร ตัวปากกามาใสกล่องหนังเทียม ภายในกล่องบุด้วยผ้าเนื้อนุ่ม แต่ผู้ทำรีวิวบอกว่า สำหรับปากกาหรูราคาแพงขนาดนี้ บรรจุภัณฑ์น่าจะดีกว่านี้สักหน่อยครับ

เรื่องกล่องใส่ปากกานี่ผู้ทำรีวิวได้ยกกล่องปากกาของ Delta Delcevita และ Omas Paragon มาเปรียบเทียบครับ เอาแค่ Delta Dolcevita Stantuffo ของผม ที่ราคาถูกกว่า Montblanc 146 ไม่รู้กี่เท่าตัว กล่องใส่ปากกายังเลิศหรูอลังการกว่ามากเลยครับ หากเทียบกับ Omas Paragon ที่ราคาใกล้เคียงกันแล้ว เรื่องบรรจุภัณฑ์นี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ Omas หรูหรากว่ามาก มีแถมน้ำหมึก และซองใส่ปากกามาให้เสร็จสรรพอีกด้วยครับ ซึ่งเรื่องนี้แฟน Montblanc คงรู้ดีอยู่แล้วว่า ถ้าเป็นของยี่ห้อนี้ ทุกอย่างต้องซื้อเพิ่มครับ 55555

ตรงนี้เองที่ทำให้ผู้ทำรีวิวบอกว่า เขาแกะกล่องปากกา Montblanc 146 อย่างไม่รู้สึกตื่นเต้น ประทับใจอะไรเลยครับ ผู้ทำรีวิวบอกว่า เขาได้ยินว่าผู้อ่านบางคนกำลังคิดว่า แทนที่จะเสียเงิน เสียเวลากับกล่องสวยๆ MB เค้าทุ่มเทให้กับคุณภาพของสินค้าต่างหาก Mr. Dries บอกว่า อย่าเพิ่งเข้าใจเค้าผิด MB146 เป็นปากกาที่ดีนะ แถมยังสวยอีกด้วย แต่ก็อยากให้ Montblanc ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย

ผู้ทำรีวิวยังบอกถึงความไม่เนี๊ยบ หรือไม่ใส่ใจในรายละเอียดเท่าที่ควรของ Montblanc อีกว่า ยังมีความคลาดเคลื่อนเล็กๆน้อยๆ ที่ทำให้ปากกาไม่สมบูรณ์แบบอยู่ทั่วไป เช่น วงแหวนที่เชื่อมต่อกับคลิปเหน็บกระเป๋า ยังไม่เนียนเรียบเข้ากับส่วนโค้งของส่วนบนของปลอกปากกา และยังมีช่องว่างเล็กๆระหว่างวงแหวนสีทองตรงท้ายด้ามกับปุ่มเติมน้ำหมึก ทำให้ดูเหมือนว่า ยังปิดปุ่มเติมน้ำหมึกไม่สนิท นอกจากนี้ยังสังเกตได้ว่าเมื่อปิดปลอกปากกาแล้ว ปลอกปากกาจะยังขยับได้อีกนิดหน่อย

อย่างไรก็ตาม Mr. Dries ยอมรับว่า ปากกา Montblanc ใช้เรซินที่ทำตัวปากกาเกรดดี มีความทนทานมาก เพราะจากประสบการณ์ของเขาพบว่า เกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเก็บรักษาปากกาที่ทำจากเรซิน โดยเฉพาะที่เป็นสีดำให้ปราศจากริ้วรอย แต่ MB146 ของเขายังคงดูเหมือนใหม่หลังจากที่ใช้งานไปแล้วสองสามสัปดาห์

นอกเหนือจากข้อติสองสามข้อที่ผู้ทำรีวิวบอกไป โดยรวมแล้วเขาคิดว่า MB146 เป็นปากกาหมึกซึมที่มีการผลิตที่ประณีต และรู้สึกได้ถึงความแข็งแรงทนทานครับ แต่เขาก็ยังพูดไปในทำนองที่ว่า เขาไม่สามารถจะบอกได้นะว่า คุณภาพโดยรวมของปากกาด้ามนี้คุ้มกับราคาสามหมื่นกว่าบาทหรือไม่นะครับ

ปากกาในซีรีย์ Meisterstück ของ Montblanc น่าจะเป็นปากกาที่มีรูปลักษณ์เป็นสากลที่สุดในโลก คือ มองปุ๊บก็รู้ปั๊บว่านี่เป็นดีไซน์ของ MB Meisterstück นะครับ ปากกามีรูปทรงซิการ์ ที่ป่องตรงกลางแล้วค่อยๆเรียวเล็กลงไปทางหัวและท้ายของปากกา คลิปของปากกาดูเรียบง่าย และมีแถบแหวนกลางลำตัวปากกาที่แกะสลักอย่างงดงาม และแน่นอน สิ่งที่ขึ้นชื่อตลอดกาลของ MB ก็คือ ดาวหกแฉกสีขาว ที่อยู่ด้านบนของปลอกปากกา ที่ตัดกับสีดำขลับแบบผิวเปียโนของตัวปากกา

Mr. Dries บอก เขากล้าที่จะพูดว่าการออกแบบของปากกาในซีรีย์ Meisterstück นี่เป็นอะไรที่น่าเบื่อ และไม่น่าสนใจเอาซะเลย แต่ที่เป็นยังงั้นก็เพราะคุณมีความคุ้นเคยกับดีไซน์แบบนี้ที่มีความคลาสิก เป็นอมตะนิรันดร์กาล และถูกก็อปดีไซน์โดยปากกายี่ห้ออื่นๆจำนวนมาก

MB146 เมื่อถอดปลอกปากกาออก จะสังเกตเห็นช่องมองน้ำหมึก ที่ผู้ทำรีวิวบอกว่า เป็นช่องมองน้ำหมึกที่ใช้งานได้ดีมากที่สุดอันหนึ่งเท่าที่เขาเคยใช้ปากกาแบบนี้มา เพราะช่องมองน้ำหมึกของ MB146 ยอมให้แส่งผ่านได้เป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีขนาดใหญ่เพียงพอที่เห็นปริมาณน้ำหมึกในปากกาได้ง่ายๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับ Lamy 2000 ที่มีช่องมองน้ำหมึกก็จริง แต่แทบจะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย

Section ของ MB146 ค่อนข้างสั้นซึ่งก็เหมาะสมกับขนาดของปากกาดี ขนาด Section จะยาวเท่าๆกับ Section ของ Pelikan Souverän M800 ครับ ตัว Section จะเรียวเล็กลงไปทางหัวปากกาเล็กน้อยพอสังเกตได้ การวางมือสำหรับบางคนอาจจะต้องจับปากกาบนเกลียวสำหรับปิดปลอกปากกานะครับ รอต่อระหว่าง Section กับเกลียวของปากกาค่อนข้างจะคมกว่า M800 นิดหน่อย ซึ่งผู้ทำรีวิวบอกว่า เขารู้สึกว่า M800 จับเขียนได้สบายมือกว่าครับ

ขนาดโดยรวมของ MB146 ก็พอๆกับ M800 แต่ MB146 จะยาวกว่า และผอมกว่าเล็กน้อย ที่ทำให้รู้สึกว่า MB146 ผอมกว่า ก็เพราะว่าตัวปากกาของ MB146 จะเป็นรูปทรงซิการ์ที่เรียวเล็กลงไปทางหัวและท้ายของปากกาครับ ปากการุ่นนี้จัดว่าเป็นปากกาที่มีขนาดใหญ่ค่อนข้างมากครับ โดยมีความยาวขณะสวมปลอกปากกา 14.5 ซม. และยาว 12.6 ซม. เมื่อถอดปลอกปากกาออก เมื่อนำปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้าม ปากกาจะยาวถึง 16.2 ซม. ซึ่งผู้ทำรีวิวบอกว่า แม้จะเอาปลอกปากกาไปเสียบท้ายด้าม ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่จะใช้งานถนัดกว่า หากไม่นำปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามครับ

ตัวปากกามีความกว้างรอบๆแถบที่ปลอกปากกา 15 มม. ตรงนี้คือส่วนที่อวบที่สุดตรงปลอกปากกา แต่ไม่ใช่ส่วนที่เราจะจับเขียนนะครับ สำหรับส่วนที่กว้างที่สุดของตัวปากกามีความกว้าง 13 มม.ครับ ผู้ทำรีวิวบอกว่า แม้ปากกา เพราะการที่เป็นรูปทรงซิการ์นี่เอง ทำให้ดูเหมือนว่าปากกาจะมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่จริงๆแล้วมันเป็นปากกาที่มีขนาดใหญ่มากนะครับ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผู้ทำรีวิวบอกว่ามันมีขนาดไม่ใหญ่เท่ากับที่เขาหวังไว้ คือ หัวปากกาครับ MB146 ใช้หัวปากกาขนาดเบอร์ 6 ซึ่งเมื่อเทียบกับตัวปากกาแล้ว รู้สึกเลยว่าหัวปากกามีขนาดเล็กจนเกินไป

หัวปากกาของ MB146 ทำจากทอง 14K เป็นสีทูโทน ซึ่ง Mr. Dries บอกว่าเป็นหัวปากกาที่สวย และประณีตมากๆ ด้านการเขียน MB146 มีความสมดุลดีมาก หัวปากกาได้รับการปรับแต่งมาเป็นอย่างดี เหมาะกับการใช้เขียนงานจำนวนมากๆ แต่หัวปากกาไม่ได้ขัดมาจนลื่นปรู๊ดปร๊าดนะครับ หัวปากกาขนาดกลางของ MB146 เวลาเขียนจะมี Feedback นิดหน่อยพอสังเกตได้ แต่ไม่ใช่กัดกระดาษนะครับ

ก่อนหน้านี้ Mr. Dries เคยบอกว่า เขาชอบหัวปากกาประเภทที่เขียนลื่นๆ จนยอมรับเลยว่าตัวเองออกจะจู้จี้ในเรื่องนี้เอาซะมากๆด้วยครับ แต่ผู้ทำรีวิวก็บอกอีกว่า เขาเคยใช้หัวปากกาประเภทเดียวกับ MB146 ซึ่งเขาเรียกว่า หัวปากกาที่มีสมดุลดี อย่างหัวปากกาของ Graf Von Faber-Castell และ St. Dupont ครับ หัวปากกาเหล่านี้มีประสิทธิภาพด้านการเขียนที่ดีมาก ลายเส้นไม่มีขาดๆหายๆ ไม่มี Hard Start มีความเชื่อถือได้สูง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็น่าจะเป็นอะไรที่ทำให้ผู้คนรักหัวปากกาของ Montblanc เขาต้องยอมรับว่า หัวปากกาของ Montblanc เขียนได้ดีมากจริงๆ มีการป้อนน้ำหมึกที่ยอดเยี่ยม ให้ความเปียกในระดับปานกลาง ความกว้างของลายเส้นก็มีขนาดที่กำลังดี แต่ผู้ทำรีวิวก็บอกว่า การที่เขาเคยใช้ปากกาที่เขียนได้ลื่นๆอย่าง Pelikan มาก่อน ทำให้เขาต้องใช้เวลาสักพักอยู่เหมือนกันกว่าจะคุ้นเคยกับหัวปากกาที่มี Feedback นี้ครับ

ต่อไปก็จะเป็นคำถามที่ยากมากๆสำหรับผู้ทำรีวิว คือ แนะนำให้ซื้อ Montblanc Meisterstück 146 หรือไม่ ผู้ทำรีวิวบอกว่า ด้วยความสัตย์ เขาไม่รู้จริงๆครับ คือ บางทีเจ้า MB146 นี่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจอยู่เหมือนกัน และในฐานะที่เขาเป็นนักสะสมปากกา เขาก็ควรจะมีปากกายี่ห้อนี้ไว้อย่างน้อยก็สักด้ามล่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารำคาญใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับปากการุ่นนี้ คือ ปากการุ่นนี้มี “ออฟชั่น” ให้เลือกมากเหลือเกิน คือ คุณสามารถที่เลือกปากกาที่หรูหรา น่าสนใจเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นด้วยครับ

อ่านรีวิวนี้ของ Mr. Dries แล้วรู้สึกได้เลยว่า แกมีความสับสนเกี่ยวกับปากกาหมึกซึมของ Montblanc นี่อยู่พอสมควรเลยนะครับ คือ หากอ่านรีวิวอื่นๆของแก จะรู้ว่า Mr. Dries นี่เป็นนักรีวิวประเภทฟันธงอยู่เหมือนกัน อะไรชอบ ไม่ชอบก็บอกกันตรงๆ แต่พอมาถึง Montblanc กลายเป็นว่า หมอไม่กล้าฟันธงครับ คงเพราะเกรงในศักดิ์ศรีของ Montblanc ซึ่งก็ควรจะเป็นยังงั้นครับ เพราะ Montblanc เป็นหนึ่งในปากกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี เป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จในฐานะนักบริหารมืออาชีพ แล้วนักรีวิวอายุแค่ 20 หย่อนๆจะมาเข้าใจอะไรได้กับเรื่องเหล่านี้

เปรียบเทียบกับรถโรลสลอยด์โกสต์ ราคาสามสิบกว่าล้านบาท เป็นรถที่คุ้มค่าแค่ไหน เทียบกับอีโคคาร์ราคาสามแสนกว่าบาทได้หรือไม่ คำถามเหล่านี้ไม่มีใครมานั่งตอบให้เสียเวลาหรอกครับ ผู้ที่จะตอบคำถามนี้ได้ก็คือตัวคุณเองครับ วันไหนที่ก้าวถึงจุดนั้น จะมีเพียงคุณเท่านั้นที่รู้คำตอบ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝันครับ

แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page