top of page
  • ฐณิพัชร์ มายะการ

[Q&A] คอแร้ง – หมึกซึม – โรลเลอร์บอล – หมึกเจล – ลูกลื่น คืออะไร


ไม่น่าเชื่อว่า ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งเวลาที่คุยกับเพื่อนๆเรื่องปากกา คือ “พูดคนละเรื่องเดียวกัน” ครับ

เพื่อนของผมหลายๆคนมีความเข้าใจว่า “ปากกาคอแร้ง” คือ “ปากกาหมึกซึม” ส่วน “ปากกาหมึกซึม” คือ “ปากกาโรลเลอร์บอล” และไม่เข้าใจว่า “ปากกาโรลเลอร์บอล” ต่างกับ “ปากกาหมึกเจล” อย่างไร

ผมสังเกตว่า ผู้ที่เข้าใจสับสนเช่นนี้มักจะอยู่ในวัยเดียวกันกับผม ไปจนถึงอายุยี่สิบกว่าๆ แต่สำหรับพี่ๆที่มีอายุสามสิบปีขึ้นไป มักจะมีความเข้าใจในเรื่องนี้ถูกต้องอยู่แล้วครับ

ก็ไม่น่าแปลกใจที่มีหลายๆคนเข้าใจผิดในเรื่องนี้นะครับ เพราะบทความ หรือวิดีโอในสื่ออินเทอร์เน็ต รวมถึงร้านค้าออนไลน์ แม้แต่พนักงานขายปากกายี่ห้อดังๆตามห้างสรรพสินค้าหลายคน ก็ยังเรียกไม่ถูกต้อง จึงทำให้ผู้เสพสื่อพากันเข้าใจผิดตามไปด้วย

บทความนี้ผมไม่ได้จะมาคัดง้างกับบทความ หรือข้อมูลในเว็บอื่นๆนะครับ เพียงแค่อยากจะมาทำความเข้าใจใน “นิยามศัพท์” ที่ผมใช้ในบล็อก Write Like Dream ให้ผมและผู้อ่านเข้าใจตรงกันว่า ผมเรียกปากกาชนิดไหนอย่างไร โดยผมจะพูดถึงข้อแตกต่างระหว่างปากกาแต่ละชนิดไว้ในบทความนี้ด้วยนะครับ

“ปากกาคอแร้ง” เป็นคำที่คนไทยแต่โบราณให้เรียกแทน Dip Pen หรือปากกาจุ่มหมึก เพราะรูปลักษณ์ของปากกามีความละม้ายกับคอของนกแร้งขณะกำลังต่อสู้ หรือหาอาหารครับ เช่นเดียวกับคำว่า “ปากกา” ที่ใช้แทนคำว่า Pen ในภาษาอังกฤษ เพราะมีลักษณะคล้ายกับจะงอยปากของนกกา น่าชื่นชมในจินตนาการของคนในสมัยก่อนมากเลยนะครับ

นอกจากนี้ผมยังเคยเจออยู่บ้างเหมือนกัน ที่บางคนเรียกว่า ปากกาหัวแร้ง เรื่องนี้น่าจะเป็นการสับสนของผู้เขียนมากกว่านะครับ เพราะหัวแร้งเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้บัดกรีครับ

ยังมีอีกหนึ่งคำในภาษาไทย ที่ใช้เรียกปากกาแบบจุ่มหมึก คือ "ปากไก่" ใช้เรียก "ปากกาขนนก" หรือ Quill ครับ อันที่จริงผมไม่เคยได้ยินคำว่า "ปากไก่" นี่มาก่อนเลย แต่มีพี่ที่ใช้ยูสเซอร์เนมว่า กระต่ายเต้นชมจันทร์ ได้กรุณามาบอกผม ในเฟสบุ๊คเพจของ Write Like Dream ก็ขอขอบพระคุณด้วยครับ ทำให้บทความนี้สามารถรวบรวมชื่อเรียก "ปากกา" ชนิดต่างๆได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น

ส่วนคำว่า “ปากกาหมึกซึม” ตามพจานานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายความว่า “ปากกาที่มีไส้สําหรับใส่นํ้าหมึก หรือหลอดบรรจุหมึก น้ำหมึกจะค่อยๆไหลซึมออกมาที่ปลายปากกาเองโดยไม่ต้องจุ่ม”

ความหมายนี้อาจจะบอกไม่ชัดเจนว่าเป็นปากกาชนิดใดนะครับ เพราะปากกาทุกชนิดต่างก็มีไส้ และน้ำหมึกก็จะค่อยๆไหลออกไปที่ปลายปากกาโดยไม่ต้องจุ่มแทบทั้งนั้น แต่เมื่อพิจารณาจากอายุของปากกาแต่ละชนิดแล้ว Fountain Pen เป็นปากกาที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ต่อจาก Dip Pen ดังนั้นคำว่า “ปากกาหมึกซึม” จึงควรที่จะถูกนำไปใช้เรียก Fountain Pen ก่อนที่จะนำไปใช้เรียก Rollerball Pen ที่เพิ่งจะลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อต้นปี 1970 นี่เอง ขณะที่ Fountain Pen ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1884 หรือเกิดก่อนกันเกินร้อยปีอีกนะครับ (อันที่จริงประวัติของปากกาหมึกซึมบอกว่า ถือกำเนิดมาตั้งแต่ช่วงปลายของคริสตศตวรรษที่ 10 โน่นเลยครับ)

ผมไม่ได้ต้องการมาเขียนประวัติศาสตร์ของปากกานะครับ เพียงแค่ต้องการยกให้เห็นว่า คำว่า “ปากกาหมึกซึม” เกิดก่อนที่จะมี Rollerball Pen นานมากแล้ว จึงน่าจะมีความเป็นไปได้ว่า เราใช้คำว่า “ปากกาหมึกซึม” แทน Fountain Pen มากกว่าที่จะใช้แทน Rollerball Pen และเมื่อดูจากพจนานุกรม อังกฤษ-ไทย ทุกฉบับ ก็จะแปลตรงกันว่า Fountain Pen แปลเป็นไทยว่า “ปากกาหมึกซึม” ครับ

ต่อมาเมื่อมี “ปากกาลูกลื่น” เข้ามาจำหน่ายในบ้านเรา ช่วงแรกเราจะเรียกปากกาชนิดนี้ว่า “ปากกาหมึกแห้ง” ซึ่งก็มาจากภาษาอังกฤษที่เรียกว่า Dry Ink Pen ขณะที่อีกชื่อหนึ่งของปากกาชนิดนี้ คือ Ballpoint Pen ซึ่งก็เรียกตามลักษณะของหัวปากกาที่เป็นลูกกลมๆอยู่ตรงปลาย ภาษาไทยก็แปล Ballpoint ออกมาเป็น “ลูกลื่น” ซึ่งผมก็คิดว่าแปลได้ตรงความหมายดีนะครับ

ส่วน Rollerball Pen ถือกำเนิดมาหลังจากปากกาลูกลื่นราว 30-40 ปีเลยทีเดียว โดยครั้งแรกที่ปากกาลูกลื่นถือกำเนิดขึ้นก็ได้รับความนิยมมากมาย จนทำให้โรงงานผู้ผลิตปากกาหมึกซึมหลายรายต้องรีบปรับเปลี่ยนกลยุทธ หันมาผลิตปากกาลูกลื่นตามไปด้วย ใครที่ปรับเปลี่ยนไม่ทันก็ถึงกับต้องปิดกิจการลงไปก็มาก

แต่ปากกาลูกลื่นก็ไม่ได้ “เขียนได้ราวกับฝัน” อย่างที่คิดครับ ปากกาชนิดนี้มีปัญหาไม่น้อยทีเดียว ทั้งน้ำหมึกทะลักออกทางหัวปากกา เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด ทั้งหัวปากกาเขียนไม่ลื่นอย่างชื่อ นำปากกาไปใช้ในที่มีอากาศร้อนหรือเย็นก็มีปัญหา กว่าจะปรับแก้จน “นิ่ง” อย่างในปัจจุบันก็ใช้เวลานานโขทีเดียว

Rollerball Pen เกิดขึ้นมาแทรกตรงกลางระหว่าง “ปากกาหมึกแห้ง” กับ “ปากกาหมึกซึม” ครับ คือ มีหัวปากกาที่มีลักษณะเป็นลูกบอลเช่นเดียวกับ Ballpoint Pen แต่กลับมาใช้น้ำหมึกชนิดเดียวกับที่ใช้ใน Fountain Pen ซึ่งน้ำหมึกจะใสกว่า ทำให้เขียนได้ลื่นกว่า

ต่อมาภายหลังจึงได้เกิด “ปากกาหมึกเจล” หรือ Gel Ink Pen ขึ้น ซึ่งอันที่จริงแล้วก็คือ Rollerball Pen นั่นเองครับ เพียงแค่เปลี่ยนน้ำหมึกจากเดิมที่ใช้หมึกชนิดเดียวกับ Fountain Pen มาใช้น้ำหมึกแบบเดียวกับที่ใช้ใน Ballpoint Pen แต่ผสมน้ำหมึกให้มีความข้นน้อยลงกว่าเดิมจนมีลักษณะคล้ายเจล เพื่อให้เขียนได้ลื่นกว่า Ballpoint Pen แต่น้ำหมึกแห้งเร็วกว่า Rollerball Pen นั่นเอง

สำหรับ Rollerball Pen และ Gel Ink Pen ผมยังหาไม่พบว่ามีการตั้งชื่อเรียกเป็นภาษาไทยอย่างไรนะครับ เท่าที่พบก็เรียกว่า “ปากกาโรลเลอร์บอล” และ “ปากกาหมึกเจล” ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า ในระยะหลังนี้เรามักจะเรียกนวตกรรมใหม่ๆ “ทับศัพท์” ภาษาอังกฤษไปเลย เช่น คำว่า คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เป็นต้น (อันที่จริงทุกคำมีศัพท์บัญญัติ แต่ราชบัณฑิตฯอนุญาตให้ใช้เรียกทับศัพท์ได้ครับ)

ผมไม่สามารถยืนยันได้ว่า สิ่งที่ผมเขียนมานี้จะถูกหรือผิดอย่างไร แต่จากข้อมูลต่างๆที่ค้นคว้ามา ส่วนตัวผมเห็นว่า ก็มีความน่าเชื่อถือได้อยู่มากครับ จึงขออนุญาตใช้อภิธานศัพท์สำหรับบล็อก Write Like Dream ว่า “ปากกาคอแร้ง” ใช้แทน Dip Pen หรือปากกาจุ่มน้ำหมึก ส่วน “ปากกาหมึกซึม” ใช้แทนคำว่า Fountain Pen นะครับ สำหรับ “ปากกาลูกลื่น” หรือ “ปากกาหมึกแห้ง” อันนี้ใช้แทน Ballpoint Pen หรือ Dry Ink Pen ไม่สับสนกับใครอยู่แล้ว Rollerball Pen กับ Gel Ink Pen ผมขอให้ทับศัพท์ว่า “ปากกาโรลเลอร์บอล” และ “ปากกาหมึกเจล” ไปเลยแล้วกัน

เข้าใจตรงกันนะครับ 55555

มาต่ออีกนิดที่ชนิดของน้ำหมึกที่ใช้ในปากกาแบบต่างๆครับ

“ปากกาคอแร้ง” มีจุดเด่นที่ใช้กับน้ำหมึกได้หลากหลายชนิด ขณะที่ “ปากกาหมึกซึม” จะใช้กับน้ำหมึกชนิดที่ทำละลายด้วยน้ำ หรือ Water Base Ink เวลาซื้อน้ำหมึกสำหรับ “ปากกาหมึกซึม” ขอให้อ่านฉลากให้ดีก่อน โดยจะต้องระบุไว้ชัดเจนว่า “For Fountain Pen” นะครับ หากน้ำหมึกชนิดไหนไม่ได้ระบุไว้ ไม่ควรเสี่ยงนำไปใช้กับ “ปากกาหมึกซึม” เด็ดขาด เพราะน้ำหมึกอาจมีความข้นเกินไป ทำให้เขียนไม่ออก หรือมีส่วนผสมของสารเคมี ที่อาจเป็นอันตรายต่อที่สูบหมึก และร่องน้ำหมึกได้ครับ

ส่วนน้ำหมึกของ “ปากกาลูกลื่น” จะเป็นน้ำหมึกแบบที่ทำละลายด้วยน้ำมัน หรือ Oil Base Ink จะเห็นได้ว่า เวลาที่เขียนด้วย “ปากกาลูกลื่น” แล้วไปโดนน้ำ หมึกจะไม่ละลายออกไปครับ (แต่ก็มีน้ำหมึกของปากกาหมึกซึมชนิดกันน้ำเหมือนกัน เรื่องนี้ไว้คุยกันทีหลัง เดี๋ยวยาวเกิน)

อย่างที่บอกไปแล้วว่า “ปากกาโรลเลอร์บอล” ใช้น้ำหมึกแบบที่ทำละลายด้วยน้ำเช่นเดียวกับ “ปากกาหมึกซึม” พอนำน้ำหมึกที่ใส ไปใช้กับหัวปากกาแบบที่เป็นลูกบอล ก็เลยทำให้เขียนได้ลื่นมากแบบ Roller นั่นเองครับ ขณะที่ “ปากกาหมึกเจล” ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับ “ปากกาโรลเลอร์บอล” ทุกอย่าง เพียงแต่จะใช้น้ำหมึกแบบที่ทำละลายด้วยน้ำมัน แต่ผสมให้เหลวกว่าที่เคยใช้ใน “ปากกาลูกลื่น” จนน้ำหมึกมีลักษณะคล้ายเจล ทำให้เขียนได้ลื่นกว่า “ปากกาลูกลื่น” และน้ำหมึกที่เขียนลงบนกระดาษแล้วจะแห้งเร็วกว่า “ปากกาหมึกซึม” และ “ปากกาโรลเลอร์บอล” ครับ

ผมรู้ดีครับว่า กำลัง “เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน” ครับ 55555

ผมมั่นใจว่า ผู้ที่ติดตาม Write Like Dream ส่วนใหญ่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ สิ่งที่ผมพูดไปทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายรู้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว หรืออาจจะรู้มากกว่าที่ผมเขียนก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีเพื่อนๆ และน้องๆอีกหลายคนที่กรุณาติดตามบล็อกนี้ แล้วอาจจะยังไม่เข้าใจในเรื่องดังกล่าวดีพอ จึงทำให้ผมต้องเขียนบทความนี้ขึ้นมาครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page