top of page
  • ที่มา: www.bestfountainpen.com

[รีวิวปากกาหมึกซึม] Pilot Penmanship

ปากกาที่ผมนำมาคุยถึงในวันนี้ เป็นปากกาหมึกซึมราคาไม่แพง เหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษา ที่สำคัญปากการุ่นนี้มีขายในบ้านเราด้วย ในราคาไม่ถึง 300 บาท ที่ร้าน Penniverse โดยมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ กับแบบใสๆครับ

เนื่องจากผมยังไม่มีปากการุ่นนี้ ผมจึงแปลรีวิวของฝรั่งมาให้อ่านกันก่อนนะครับ โดยผมแปลมาจากเรื่อง Pilot Penmanship with Ergo Grip Review ของเว็บ Best Fountain Pen และก็เหมือนเดิม ผมจะขอแทรกความเห็นส่วนตัวของผมไว้ในรีวิวด้วย โดยจะแบ่งเป็นคนละย่อหน้ากันไป ไม่เอาไปปะปนกับความเห็นของผู้ทำริวิวนะครับ สำหรับผู้ที่ต้องการจะอ่านเฉพาะรีวิวของ Ms. Jennifer ก็สามารถข้ามย่อหน้าที่เป็นสีฟ้าไปได้เลยนะครับ

ผมชอบชื่อรุ่นของปากการุ่นนี้มากๆเลยครับ “Penmanship” แปลเป็นภาษาไทยว่า ศิลปะในการเขียนตัวหนังสือ ซึ่งปากการุ่นนี้มีวัตถุประสงค์ในการออกแบบอย่างชื่อรุ่นเลยครับ คือ เป็นปากกาที่เหมาะสำหรับการเขียนตัวอักษรบรรจง หรือคัดลายมือ โดยได้รับการออกแบบ Section ให้เป็นรูปสามเหลี่ยม สำหรับการจับปากกาที่ถูกต้อง รวมถึงลักษณะของหัวปากกาที่จะเขียนแล้วมี Feedback ไม่ลื่นปรู๊ดปร๊าดนะครับ เพื่อที่จะให้สามารถควบคุมลายมือได้ง่ายกว่า ปากการุ่นนี้ยังมีลายเส้นขนาดเล็กมาก เพื่อให้สามารถเขียนตัวอักษรที่มีลายละเอียดได้สวยงามด้วย

ผมขอพูดเรื่อง Section Grip รูปสามเหลี่ยมสักนิดนะครับ Section Grip รูปสามเหลี่ยมของ Pilot Penmanship นี่จะแตกต่างกับ Section สามเหลี่ยมของ Lamy Safari มากเลยนะครับ หากดูรูปจะเห็นเลยว่า Section ของ Penmanship จะอวบกว่ามาก เวลาจับปากกาแล้วจะมีช่องว่างระหว่างนิ้วหัวแม่มือ กับนิ้วชี้มากกว่าการจับ Section ของ Lamy Safari ครับ ตรงนี้เองที่ทำให้การจับปากกาของ Penmanship ให้ความรู้สึกสบายมือกว่า ขณะที่ Section สามเหลี่ยมแคบๆของ Lamy Safari อาจทำให้บางคนจับไม่ถนัด เพราะนิ้วหัวแม่มือ กับนิ้วชี้จะไหลไปชนกันครับ

Section ของ Penmanship จึงเป็นลักษณะการออกแบบเพื่อให้จับปากกาอย่างถูกต้องจริงๆ ซึ่งคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ขนาดที่มีการออกแบบ Grip เพื่อให้เอาไปใส่กับปากกาหรือดินสอ สำหรับเด็กๆที่หัดเขียนหนังสือนะครับ ขณะที่ Section ของ Lamy Safari เป็นการออกแบบเพื่อความสวยงามเป็นหลักครับ

เราไปอ่านรีวิวของ Best Fountain Pen กันดีกว่านะครับ

Ms. Jennifer ผู้ทำรีวิวบอกว่า ซื้อปากการุ่นนี้มาในราคาไม่ถึง 10 เหรียญ จากอเมซอนดอทคอม แปลว่าซื้อในบ้านเราก็ราคาพอๆกันเลยนะครับ และเธอยังได้สรุปข้อดีข้อเสียของ Pilot Penmanship ไว้ดังนี้

ข้อดี

  • ราคาถูก

  • เป็นปากกาที่ดี เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ปากกาหมึกซึม

  • เอาปลอกปากกาเสียบท้ายด้ามแน่นหนาดี

  • ที่จับปากกาได้รับการออกแบบให้เหมาะกับสรีระ จับปากกาได้สบายมือ

ข้อเสีย

  • พอเอาปลอกปากกาไปเสียบท้ายด้ามแล้วดูตลกๆชอบกล

  • ปลอกปากกามีขนาดเล็กเกินไป (ตอนปิดปลอกปากกา ผมดูว่าเหมือนปลาหมึก 55555)

  • ไม่มีคลิปเหน็บกระเป๋า

  • ขนาดลายเส้นเล็กมาก (อันนี้บางคนอาจจะชอบ)

การออกแบบ

Ms. Jennifer ให้ความเห็นเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของ Pilot Penmanship ว่า เป็นปากกาที่ดูมู่ทู่ๆชอบกล ที่ปลอกปากกายังมีปีกสีแดงยื่นออกมาอีก (หากเป็นรุ่นสีใสๆ ปีกนี้ก็จะใสๆด้วยนะครับ จะเป็นสีแดงเฉพาะที่ตัวปากกาเป็นสีดำเท่านั้น)

ผู้ทำรีวิวบอกว่า Grip ของปากกาเป็นรูปสามเหลี่ยม คล้ายกับ Lamy Safari เพื่อใช้สำหรับวางนิ้ว ซึ่งดีมากๆสำหรับผู้ที่ต้องการจะเริ่มใช้ปากกาหมึกซึม เพราะการใช้ปากกาลูกลื่นไม่จำเป็นที่ต้องจัดตำแหน่งปากกาให้ถูกต้องก่อนเขียน Grip สามเหลี่ยมนี้จึงช่วยให้จับตำแหน่งของปากกาให้ถูกต้องครับ

ตรงนี้ผมเห็นต่างจาก Ms. Jennifer อยู่บ้างนะครับ คือ ลักษณะ Grip ของ Penmanship จะคล้ายกับ Lamy ABC หรือ Pilot Kakuno มากกว่า Lamy Safari นะครับ ทั้งนี้แม้แต่ Lamy เอง พอออกแบบปากกาสำหรับเด็กนักเรียน (Lamy ABC) ก็ยังทำ Grip สามเหลี่ยมที่มีลักษณะแตกต่างจาก Safari เลยครับ และลักษณะ Grip แบบนี้ ผมไม่ได้มองในเรื่องช่วยให้คนจับปากกาหมึกซึมได้ถูกตำแหน่งที่จะเขียนเลยครับ แต่ผมมองไปถึงเรื่องการช่วยให้ผู้เขียนจับปากกาได้อย่างถูกวิธี ซึ่งจะทำให้ลายมือเขียนสวยครับ

Ms. Jennifer บอกว่า เธอไม่เคยคิดเลยว่า เธอจะมีความสุขกับการใช้ปากการุ่นนี้ แต่พอได้ลองเขียนจริงๆแล้ว เธอกับรู้สึกสนุก และชอบมากๆด้วย เธอรัก Grip ที่จับได้สบายมือมากๆ และแม้ว่าพอเอาปลอกปากกาไปเสียบท้ายด้ามแล้วมันจะดูทะแม่งๆไปบ้าง แต่เธอก็ชอบที่จะเขียนโดยเอาปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามอยู่ดี

Pilot Penmanship เป็นปากกาที่มีน้ำหนักเบา และมีปลอกปากกาที่แทบจะไม่มีน้ำหนักเอาซะเลย ผู้ทำรีวิวยังบอกว่า เธอชอบ “ปีก” ที่อยู่บนปลอกปากกาอีกด้วย เพราะมันช่วยป้องกันปากกากลิ้งตกจากโต๊ะได้อย่างดี โดยเฉพาะปากการุ่นนี้มุ่งจับตลาดนักเรียนอยู่แล้วด้วย เจ้าปีกสีแดงนี่ยังช่วยให้เด็กๆสามารถหมุนเกลียวเพื่อเปิดปลอกปากกาได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

Pilot Penmanship ให้มาพร้อมกับหมึกหลอดของ Pilot จำนวน 1 หลอด ปากการุ่นนี้มีหัวปากกาเพียงขนาดเดียว คือ ขนาด Extra Fine (EF) ซึ่งผู้เขียนบอกว่า เธอไม่เคยใช้หัวปากกาขนาด EF ของญี่ปุ่นมาก่อนเลย ทำให้ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ขนาดของลายเส้นจะเล็กแค่ไหน และมันก็เส้นเล็กมากจริงๆซะด้วย ทั้งนี้เพราะว่า หัวปากกาที่มีลายเส้นเล็กมากๆ มักจะจำกัดการปล่อยน้ำหมึกลงกระดาษ เพื่อให้ได้ลายเส้นที่มีขนาดเล็กมาก แบบเส้นผม หรือปลายเข็มครับ เลยทำให้การเขียนรู้สึกว่ามี Feedback อยู่บ้าง ซึ่งเธอพยายามยืนยันให้เห็นว่า เป็น Feedback เวลาเขียนจริงๆ ไม่ใช่หัวปากกากัดกระดาษนะครับ ซึ่งผู้ทำรีวิวไม่ค่อยชอบปากกาที่มีลายเส้นขนาดเล็กๆอย่างนี้ แต่เธอก็บอกว่า ปากกาที่มีลายเส้นเล็กมากๆจะช่วยให้คุณเขียนตัวอักษรขนาดเล็กได้สวยงามอย่างที่หัวปากกาขนาด Medium ไม่สามารถทำได้

ขอเล่าเรื่องหัวปากกาขนาด Extra Fine ของปากกาทางเอเชีย และเรื่องของ Feedback จากประสบการณ์ของผมให้ฟังกันสักหน่อยนะครับ เพราะว่าพอดีผู้ทำรีวิวออกตัวไว้ว่า ไม่เคยใช้หัวปากกาขนาดนี้มาก่อน แต่ผมคุ้นเคยกับหัวปากกาเล็กๆของทางเอเชียนี่เป็นอย่างดีครับ

หัวปากกาขนาด EF ของทางเอเชีย โดยเฉพาะปากกาที่ผลิตในญี่ปุ่นและจีน จะมีขนาดลายเส้นที่เล็กมาก ราว 0.2 มม. ขณะที่หัวปากกาขนาด EF ของทางฝั่งตะวันตกจะมีขนาดลายเส้นราว 0.3 บางยี่ห้อก็ 0.4 มม. เรียกว่าขนาดของลายเส้นใหญ่กว่าหัวปากกา EF ของทางเอเชียถึงเท่าตัวเลยครับ

ผมพบว่าผู้ผลิตปากกาในจีนหรือญี่ปุ่น ผลิตหัวปากกาขนาดเล็กได้ดีมากๆ เมื่อเปรียบเทียบหัวปากกาขนาด EF ของผู้ผลิตทางฝั่งตะวันตก ซึ่งจะมีขนาดลายเส้นพอๆกับ หรือใหญ่กว่าหัวปากกาขนาด F ของผู้ผลิตทางเอเชีย ยังพบว่า หัวปากกาขนาด Fine ของทางเอเชียยังเขียนได้ลื่นกว่าหัวปากกาขนาด Extra Fine ที่ผลิตจากฝั่งตะวันตกหลายๆยี่ห้อเลยครับ แต่สำหรับ Pilot Penmanship นี่ เรากำลังพูดถึงหัวปากกาขนาด Extra Fine ของญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดของลายเส้นเล็กกว่าหัวปากกาขนาด EF ของทางตะวันตกเกือบครึ่งทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่า ส่วนปลายของหัวปากกาจะต้องเล็ก และแหลมมากเลย อย่างที่เรียกว่า ปลายเข็มเลยก็ว่าได้ครับ และการปล่อยน้ำหมึกลงบนกระดาษก็จะต้องจำกัด เพื่อให้เกิดลายเส้นขนาดเล็ก ซึ่งน้ำหมึกที่ปล่อยผ่านหัวปากกาลงบนกระดาษนี้ก็เป็นเสมือนสารหล่อลื่น ช่วยให้ปากการู้สึกว่าเขียนได้ลื่นขึ้นด้วย ดังนั้นปากกาที่มีส่วนปลายของหัวปากกาที่เล็กมาก และปล่อยน้ำหมึกลงบนกระดาษแบบจำกัดนี้ จึงมักจะเกิด Feedback คือ เกิดแรงเสียดทานขณะที่ลากหัวปากกาลงบนกระดาษอยู่บ้างนะครับ

อย่างไรก็ตาม แรงเสียดทานของหัวปากกากับกระดาษ หรือ Feedback นี้ จะแตกต่างจากหัวปากกาที่กัดกระดาษนะครับ หัวปากกาที่กัดกระดาษมักจะเกิดกับการเขียนบางมุม คือ หัวปากกาเดียวกันเขียนบางมุมก็ลื่นหรือพอรับได้ แต่บางมุมก็จะรู้สึกว่าหัวปากกาขูดเนื้อกระดาษ จนบางทีเป็นรอยเหมือนเอาเหล็กแหลมมาขูดบนกระดาษเลยครับ ลักษณะที่กัดกระดาษแบบนี้จะเกิดจากการเจียร และขัดส่วนปลายของหัวปากกาไม่ดีพอครับ

ปากกาที่เขียนแล้วมี Feedback นี่ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะครับ ตรงกันข้าม สำหรับผมแล้วปากกาที่เขียนแล้วมี Feedback หลายๆด้าม ทำให้รู้สึกว่าเขียนสนุกด้วยซ้ำ คือ ให้ความรู้สึกว่า หัวปากกา “จับ” เนื้อกระดาษ ไม่ใช่แบบลากผ่านๆน่ะครับ ปากการาคาเกินหมื่นจากฝั่งตะวันตกบางยี่ห้อที่ผมเคยเขียนมา ก็ให้ความรู้สึกว่ามี Feedback นิดๆ เขียนแล้วสนุกมากเช่นกันครับ

เรื่องของ Feedback นี่ เป็นความชอบของผู้ใช้ปากกาหมึกซึมแต่ละรายเลยนะครับ ผู้ใช้บางคนชอบปากกาแบบลื่นปรื๊ด พอปากกามี Feedback นิดหน่อย ก็รู้สึกไม่ชอบซะแล้ว แต่ตัวผมชอบเขียนด้วยปากกาที่รู้สึก “จับ” กระดาษมากกว่าหัวปากกาแบบลื่นหัวแตก จึงรู้สึกสนุกกับปากกาที่มี Feedback ในการเขียนครับ

กลับมา Pilot Penmanship ต่อครับ ลักษณะการเขียนของปากการุ่นนี้ที่มีลายเส้นขนาดเล็กมาก ปากกาเขียนออกไปในทางค่อนข้างแห้ง จะช่วยให้เขียนบนกระดาษเนื้อไม่ดีได้โดยน้ำหมึกไม่ซึมทะลุด้านหลัง ซึ่งก็เหมาะมากสำหรับนักเรียน เพราะสมุดของโรงเรียนต่างๆก็มักจะใช้กระดาษเนื้อไม่ดีนะครับ ส่วนลักษณะการเขียนที่มี Feedback นั่นก็ช่วยให้ควบคุมลายมือได้ดีกว่าปากกาแบบลื่นปรื๊ดปร๊าด ตรงนี้ผมชื่นชม Pilot เลยล่ะครับ ที่ออกแบบปากกาหมึกซึมมาได้เหมาะสำหรับนักเรียน หรือผู้ที่ต้องการใช้เขียนอักษรบรรจง (Penmanship) อย่างแท้จริงเลยครับ

Ms. Jennifer บอกต่อไปว่า อาจจะเป็นเพราะปากการุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับนักเรียน ที่มักจะต้องวางปากกาไว้บนโต๊ะหนังสือ หรือไม่ก็เก็บไว้ในเป้หลัง ปากการุ่นนี้จึงไม่มีคลิปเหน็บกระเป๋ามาด้วย ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาปากกาที่จะพกในกระเป๋าแล้ว ให้มองข้ามปากการุ่นนี้ไปได้เลย แต่ถ้าคุณมักจะพกปากกาในกระเป๋าใส่ปากกา หรือมักจะวางปากกาไว้บนโต๊ะหนังสือ Pilot Penmanship ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะ

ปากกาหมึกซึมสำหรับนักเรียนหลายรุ่น หลายยี่ห้อก็มักจะออกแบบมาให้ไม่มีคลิปนะครับ เช่น Lamy ABC, Pilot Kakuno, Pelikan Twist, Pelikan Pelikano Jr. ทั้งนี้เพราะคลิปเหน็บกระเป๋านี่นับได้ว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดบนตัวปากกาครับ เนื่องจากคลิปมักจะหัก งอ หรือง้างได้ง่าย การออกแบบให้ปากกาไม่มีคลิปนี้จึงช่วยให้เด็กๆใช้ปากกาได้ทนขึ้นด้วยนะครับ

ภายในด้ามปากกาของ Pilot Penmanship มีที่ว่างเหลืออยู่มาก ทำให้สามารถหาซื้อที่สูบหมึกของ Pilot มาใช้กับปากการุ่นนี้ได้ หรือคุณจะเติมหมึกหลอดที่ใช้หมดแล้วด้วยหลอดฉีดยาก็ยังได้ หากคุณไม่ต้องการที่จะซื้อหมึกหลอดใหม่มาใช้ ผู้ทำรีวิวบอก เธอมั่นใจว่าปากการุ่นนี้สามารถที่จะทำเป็น Eyedropper ได้ด้วย

การทำปากกาให้เป็นระบบเติมหมึกแบบ Eyedropper คือ การเอาหลอดหยดยาหยอดตา หยอดน้ำหมึกเข้าไปในด้ามปากกาโดยตรง โดยไม่ต้องใช้ที่สูบหมึกหรือหมึกหลอดครับ แต่ตอนที่จะใส่ด้ามปากกาที่เต็มด้วยน้ำหมึกเข้ากับตัวปากกาต้องทาจาระบีขาวที่เกลียวก่อนนะครับ เพื่อป้องกันน้ำหมึกซึมออกทางเกลียวครับ

การทำแบบนี้จะช่วยให้ปากกาสามารถบรรจุน้ำหมึกได้มาก เรียกว่าเขียนกันได้ทั้งเดือนโดยไม่ต้องเติมน้ำหมึกเลยล่ะ แต่สำหรับนักเรียนแล้ว อาจจะไม่เหมาะที่จะทำแบบนี้นะครับ เพราะหากตัวปากกาแตกน้ำหมึกจะหกเลอะเทอะได้ครับ และสำหรับ Pilot Penmanship ซึ่งเป็นปากกาที่มีลายเส้นขนาดเล็ก ป้อนน้ำหมึกน้อย ลำพังหมึกหลอดของ Pilot เพียงหลอดเดียวก็เขียนกันได้เป็นเดือนแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทำเป็น Eyedropper ครับ

หัวปากกาขนาด EF ของ Pilot Penmanship เขียนได้ดีมากบนกระดาษเนื้อละเอียด แต่หากเขียนบนกระดาษเนื้อหยาบๆก็จะรู้สึกปากกาขูดกระดาษมากกว่าปกติ เพราะปากกาป้อนน้ำหมึกในปริมาณไม่มากพอที่จะทำให้ปากกาเขียนได้ลื่น แต่กระดาษเนื้อหยาบๆที่ผู้ทำรีวิวพูดถึงนี้ หมายถึงพวกกระดาษสา หรือกระดาษทำมือนะครับ สำหรับกระดาษสมุดทั่วไป ปากการุ่นนี้เขียนได้สบายๆ ไม่มีปัญหาครับ

ปากการุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เขียนหนังสือตัวเล็กๆเป็นอย่างมาก หัวปากกาขนาดเล็กของ Pilot Penmanship เหมาะสำหรับการเขียนตัวอักษรที่มีลายละเอียดมากๆ การสเก็ตช์รูป หรือวาดภาพลายเส้น หรือการเขียนข้อความในพื้นที่จำกัด

หัวปากกาของ Pilot Penmanship ไม่กัดกระดาษเลย แต่ปากการุ่นนี้เป็นปากกาที่แห้ง จึงทำให้รู้สึกถึง Feedback เวลาเขียน และย่อมแน่นอนว่า จะเขียนไม่ได้ลื่นเท่ากับปากกาที่ป้อนน้ำหมึกฉ่ำๆ ปากการุ่นเหมาะสมอย่างมากสำหรับกระดาษสมุดบันทึก หรือสมุดนักเรียนทั่วๆไป ผู้ทำรีวิวบอกว่า เธอไม่เคยเจอปัญหา Hard Start หรือลายเส้นขาดๆหายๆจากปากการุ่นนี้เลย ทั้งยังบอกว่า ปากการุ่นนี้เหมาะมากที่จะนำไปใช้เป็น Everyday Fountain Pen เพื่อนำไปใช้ฝึกเขียนบรรจง หรือสเก็ตช์รูป โดยไม่ต้องกังวลเลยว่า เวลาเขียนด้วยปากการุ่นนี้แล้วจะมีน้ำหมึกซึมทะลุด้านหลังกระดาษ หรือลายเส้นที่เขียนแตกจากน้ำหมึกซึมบนกระดาษด้วย

ปลอกปากกา

Pilot Penmanship มีปลอกปากกาแบบเกลียว โดยปลอกปากกาจะมีขนาดเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม และเมื่อนำปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามแล้วดูตลกมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปากการุ่นนี้เป็นปากกาที่มีน้ำหนักเบา จับเขียนได้สบายมือมากๆ ปีกสีแดงบนปลอกปากกา ยิ่งทำให้ปากกาดูแปลกมาขึ้น แต่ปีกนี้ก็ช่วยให้หมุนเกลียวเปิดปลอกปากกาได้ง่าย และยังช่วยป้องกันปากกากลิ้งตกโต๊ะอีกด้วย ซึ่งผู้ทำรีวิวก็ยอมรับว่า เป็นการออกแบบที่แยบยลมากครับ

Pilot ได้ออกแบบปากการุ่น Penmanship ให้มีสมดุลกับมือของเด็กๆเป็นอย่างดี แต่ผู้ใหญ่ก็ยังใช้งานได้ถนัดมากๆอีกด้วย คุณสามารถที่จะใช้ Pilot Penmanship จดงานได้ทั้งวันโดยไม่เมื่อยมือเลย

ปากการุ่นนี้เหมาะกับใคร และคุ้มค่าหรือไม่

ผู้ทำรีวิวยืนยันหนักแน่นว่า ปากการุ่นนี้เหมาะสำหรับทุกคน ที่รักหัวปากกาขนาด EF

ปากกาด้ามนี้เหมาะสำหรับที่จะให้เป็นของขวัญแก่ใครที่ชอบปากกาหมึกเจลที่มีเส้นเล็กๆ เพื่อแนะนำให้เขารู้จักกับปากกาหมึกซึม ที่จับปากการูปสามเหลี่ยมได้รับการออกแบบให้เข้ากับสรีระ ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ใช้ปากกาจับปากกาได้อย่างถูกต้อง

จุดเดียวที่ผู้ทำรีวิวบ่นเกี่ยวกับปากการุ่นนี้มากที่สุด คือ หนังสือคู่มือ รวมถึงแพ็คเกจทั้งหมดจะเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยใช้ปากกาหมึกซึมของ Pilot มาก่อน อาจเข้าใจผิดได้ว่าด้านที่แคบของหมึกหลอดเป็นด้านที่จะต้องเสียบเข้าไปในตัวปากกา จึงควรที่จะทำคู่มือเป็นภาษาอังกฤษด้วย

อย่างไรก็ตาม Pilot Penmanship เป็นปากกาหมึกซึมที่มีหัวปากกาขนาดเล็กที่ยอดเยี่ยมมากๆ แถมยังมีราคาถูกมากอีกด้วย หากใครได้ลองใช้ปากการุ่นนี้แล้วจะรักมันเลยล่ะ

ผมอ่านรีวิวนี้ของ Best Fountain Pen แล้วบอกตรงๆว่า “เคลิ้ม” เลยครับ ขนาด Ms. Jennifer ที่ไม่ค่อยชอบปากกาเส้นเล็กๆ (ปกติผู้ทำรีวิวนิยมหัวปากกาขนาด M ของทางฝั่งตะวันตกครับ) แต่พอมาลองใช้ Pilot Penmanship แล้วยังอดหลงรักไม่ได้เลยครับ ข้อเดียวที่ผมติสำหรับปากการุ่นนี้ คือ ใช้ได้เฉพาะกับหมึกหลอดของ Pilot ที่หาซื้อได้ยาก และราคาค่อนข้างสูงเท่านั้น แต่ยังดีที่ทางร้าน Penniverse มีที่สูบหมึกของ Pilot ขายให้ต่างหาก โดยมีให้เลือกหลายรุ่นหลายแบบ ในราคาที่ไม่แพงด้วยครับ

หากใครสนใจ Pilot Penmanship สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน www.penniverse.com ครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page