top of page
  • ที่มา: www.bestfountainpen.com

[รีวิวปากกาหมึกซึม] Diplomat Traveller

หากมีเวลาว่าง ผมชอบที่จะหารีวิวปากกาหมึกซึมของต่างประเทศมาอ่านครับ โดยเฉพาะรีวิวปากกาหมึกซึมยี่ห้อใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยใช้มาก่อน เผื่อว่าจะมีของดี ราคาไม่แพงให้เลือกเล่นน่ะครับ

สำหรับรีวิวของต่างประเทศที่ผมชอบไปดูบ่อยๆก็มีอยู่หลายรายนะครับ แต่ผู้อ่านอาจจะสังเกตว่า ผมแปลรีวิวของ Best Fountain Pen นี่บ่อยกว่าเจ้าอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพราะ ผมชอบการรีวิวของ Ms. Jennifer ครับ ทั้งในแง่มุมมอง ความคิดเห็นของเธอ และปากการุ่นต่างๆที่เธอนำมารีวิวก็มักจะเป็นปากกาที่อยู่ในความสนใจของผมด้วยครับ

สำหรับยี่ห้อ Diplomat นี่ แม้ว่าผมจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างก็ตาม แต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นปากกายี่ห้อนี้ตัวเป็นๆเลย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นโบราณและรุ่นปัจจุบัน ผมจึงไปหารีวิวมาอ่าน โดยเลือกรุ่น Traveller ก่อน เพราะเป็นรุ่นที่มีราคาประหยัด ขายกันในต่างประเทศอยู่ที่ราว $40 +/- และจากที่ดูมาหลายๆรีวิว นักรีวิวทุกคนต่างก็ชื่นชมปากการุ่นนี้ด้วยครับ

เวลาที่ผมเห็น Diplomat Traveller แล้ว ผมมักจะคิดถึง Waterman Hemisphere ที่ผมชอบ เพราะเป็นปากกาที่ทำจากโลหะ มีรูปทรงผอมเพรียวเหมือนๆกัน และยังเป็นหัวปากกาสแตนเลสที่บรรดานักรีวิวชมว่าเขียนดีมากเหมือนๆกันอีกด้วย ก็เลยทำให้ผมสนใจรุ่นนี้ เผื่อจะหามาใช้คู่กับ Hemisphere ด้ามโปรด

Diplomat เป็นบริษัทผู้ผลิตปากกาหมึกซึมจากเยอรมนี ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1922 ก็ต้องถือว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตปากกาหมึกซึมที่มีประสบการณ์พอสมควรเลย ดูข้อมูลจากเว็บของ Diplomat บอกว่า บริษัทนี้ผลิตปากกาหลากหลายชนิด ทั้งหมึกซึม โรลเลอร์บอล ลูกลื่น และดินสอกด โดยเน้นปากกาที่เหมาะสำหรับให้เป็นของขวัญในระดับต่างๆ ตั้งแต่นักเรียนไปจนถึงผู้บริหาร ก็น่าจะแปลว่า ปากกาของบริษัทนี้เน้นสวยงาม มีแพคเกจที่หรูหราครับ

แพคเกจของ Diplomat Traveller เป็นกล่องโลหะ สวยมากครับ

รีวิวนี้ผมแปลมากจากเรื่อง Diplomat Traveller Fountain Pen Review ของบล็อก Best Fountain Pen เช่นเคยครับ

นอกจากสีเงินขลิบเงิน สีเงินขลิบทอง และเคลือบแลคเกอร์ดำแล้ว

ปากการุ่นนี้ยังมีให้เลือกอีกหลายสีเลย เท่าที่อ่านรีวิวของรายอื่นๆที่

ใช้ปากกาสีสันสดใส ผู้ทำรีวิวก็พอใจกับการทำสีของปากกานะครับ

Ms. Jennifer ได้เกริ่นนำเกี่ยวกับ Diplomat Traveller ไว้อย่างน่าสนใจว่า เป็นปากกาหมึกซึมที่มีราคาถูก แต่ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ปากการาคาแพงๆ ต่างจากพวกปากกาพลาสติก แถมยังเป็นปากกาที่เขียนดีเอาซะมากๆอีกด้วย ซึ่ง Ms. Jennifer ได้สรุปข้อดีของปากการุ่นนี้มาซะมากมาย ทั้งราคาไม่แพง น้ำหนักเบา เขียนลื่น จะมีข้อเสียเพียงข้อเดียว คือ ไม่สามารถนำปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่คาใจผมมากครับ เพราะผมดูจากรีวิวอื่นๆ ทุกรีวิวก็สามารถนำปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามได้อย่างแน่นหนาซะด้วยครับ

Diplomat Traveller เป็นปากกาที่มีน้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก Ms. Jennifer บอกว่า จากบรรดาปากกาหมึกซึมมากมายที่เธอเคยรีวิวมา มีปากกาไม่มากนักที่จะพกในกระเป๋าเสื้อ หรือชุดเดรสได้อย่างสะดวก เพราะปากกาหมึกซึมส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักมากเกินไป แต่สำหรับ Diplomat Traveller นี้เหมาะมากๆที่จะใช้เหน็บกระเป๋าเสื้อเชิ้ต ทั้งยังใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม และดูสวยงามอีกด้วย

Ms. Jennifer ยังบอกอีกว่า เมื่อคุณดึงปากกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อ หรือว่าจะถือมันอยู่ในมือแล้วก็ตาม คุณจะต้องเหลือบมองโลโก้ของ Diplomat ที่อยู่ส่วนบนของปลอกปากกาทุกครั้งอย่างแน่นอน ปากการุ่นนี้ให้ความรู้สึกในการสัมผัสที่ดีเยี่ยม เป็นปากกาที่ดูมีเสน่ห์ รู้สึกว่ามีระดับ และออกจะให้ความรู้สึกที่แพงอีกด้วย

Diplomat Traveller เป็นปากกาที่ออกแบบมาดีมาก มีคลิปเหน็บกระเป๋าที่ดูสวยงาม น่าสนใจ ผู้ทำรีวิวชอบรูปทรงของคลิปที่เป็นทรงหยดน้ำ ที่ส่วนปลายของคลิปมีรูรูปหยดน้ำอยู่ ขนาดของคลิปดูแล้วจะใหญ่ไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับรูปทรงของตัวปากกาที่ผอมเพรียว (แต่ตรงนี้ผมเห็นว่า คลิปสมส่วนดีนะครับ เพราะผมมองว่า คลิปเป็นจุดเด่นของปากกา หากเล็กเรียวเกินไปอาจจะดูไม่น่าสนใจครับ)

ปากการุ่นนี้มีรูปทรงผอมเพรียว ด้ามปากกาจะเรียวเล็กลงไปเล็กน้อย ที่ส่วนบนของปลอกปากกามีโลโก้ของ Diplomat สวยงาม นับว่าเป็นปากกาที่มีสไตล์ โดยไม่จำเป็นจะต้องมีดีไซน์ที่หวือหวาแต่อย่างใด แต่เป็นปากกาที่ดูคลาสิกมากๆ

ปากกาที่นำมารีวิวนี้ เป็นหัวปากกาสแตนเลส ขนาด Fine โดยปากการุ่นนี้จะแถมหมึกหลอดมาให้หนึ่งหลอด ซึ่งสามารถหาซื้อที่สูบหมึกของ Diplomat มาใช้ได้ แต่จากที่ผมดูวิดีโอรีวิวของ Mr. Stephen Brown บอกว่า ปากการุ่นนี้สามารถใช้กับที่สูบหมึกมาตรฐานของ Schmidt ได้ด้วย ก็น่าจะแปลว่า สามารถใช้กับที่สูบหมึกมาตรฐานทั่วไปได้นะครับ

ประสิทธิภาพของหัวปากกา บนกระดาษชนิดต่างๆ

หัวปากกาของ Diplomat Traveller ทำจากสแตนเลส มีขนาด Fine ผมดูในเว็บของ Diplomat เอง พบว่าปากการุ่นนี้มีหัวปากกาให้เลือก 2 ขนาด คือ Fine กับ Medium ครับ แต่แปลกที่นักรีวิวที่ผมอ่านเจอทุกคน รีวิวหัวปากกาขนาด Fine กันหมดเลย หัวปากกาของ Diplomat Traveller ลื่นมาก แต่ค่อนข้างแข็งสักหน่อย ซึ่งผู้ทำรีวิวก็บอกว่า มันเป็นบุคลิกของหัวปากกาสแตนเลสส่วนใหญ่อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามปากการุ่นนี้เขียนได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ลื่น และไม่มีเส้นขาดๆหายๆให้พบเลยแม้แต่น้อย

ตรงนี้ผมขออ้างรีวิวของ Mr. Stephen Brown หน่อยนะครับ Mr. Brown รีวิว Diplomat Traveller หัวปากกาขนาด Fine เหมือนกัน แต่ Mr. Brown บอกว่า หัวปากการุ่นนี้ไม่แข็ง แต่เป็นสปริงดีด้วยซ้ำ สามารถทำให้เกิด Line Variation ได้อย่างน่าประทับใจเลย แม้บริษัทจะไม่ได้ออกมาโฆษณาว่าเป็นหัวปากกาแบบ Semi Flexible Nib ก็ตาม

Ms. Jennifer ทดสอบใช้ Diplomat Traveller กับกระดาษทั้งแบบที่มีเนื้อดี ราคาแพง และกระดาษราคาถูกๆ ซึ่งปากกาก็เขียนได้ดีกับกระดาษทุกประเภท ผู้ทำรีวิวชื่นชอบหัวปากการุ่นนี้ ที่มีลายเส้นขนาดเล็ก และไม่มีปัญหาเรื่องการป้อนน้ำหมึกเลย ทั้งนี้เพราะหัวปากกาขนาดเล็ก มักจะป้อนน้ำหมึกลงบนกระดาษอย่างจำกัด จึงทำให้มักจะเขียนแล้วรู้สึกว่ามี Feedback มากกว่าหัวปากกาขนาดใหญ่ๆ ที่ป้อนน้ำหมึกในปริมาณที่มากกว่า จึงช่วยหล่อลื่นในระหว่างเขียนได้ดีกว่า จึงทำให้หัวปากกาที่มีลายเส้นขนาดเล็กบางยี่ห้อ เวลาเขียนแล้วอาจมีอาการเส้นขาดๆหายๆ หรือมีการสะดุด แต่ปัญหานี้ไม่มีใน Diplomat Traveller เลย

ปากการุ่นนี้ออกไปในทางแห้งปานกลาง หัวปากกาขนาดเล็กป้อนน้ำหมึกในปริมาณที่ไม่มากนัก ซึ่งก็ทำให้ได้ลายเส้นที่มีขนาดเล็กคม นับว่าเป็นปากกาที่เหมาะสมกับนักเรียน นักศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ที่จะทำให้สามารถเขียนบนกระดาษเนื้อไม่ดีได้โดยน้ำหมึกไม่ซึมทะลุด้านหลัง

อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมชอบรีวิวของ Best Fountain Pen คือ Ms. Jennifer ชอบทดสอบปากกาบนกระดาษเนื้อไม่ดีครับ เพราะในชีวิตจริงของเราต้องเขียนบนกระดาษราคาถูกๆ กระดาษถ่ายเอกสาร หรือแม้แต่กระดาษสีน้ำตาล บ่อยกว่าที่จะเขียนบนกระดาษดีๆ ราคาแพงๆ ในช่วงแรกที่ผมทำรีวิวปากกา ผมจึงชอบที่จะทดสอบบนกระดาษเนื้อไม่ดี แต่ก็มีนักเล่นปากกาบนคนที่บ่นกับผมว่า ทำไมไม่หากระดาษดีๆมาใช้บ้าง 55555

กลับมาที่เรื่องความเปียกของปากกาครับ นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ Mr. Brown มีความเห็นค่อนข้างแตกต่างจาก Ms. Jennifer อยู่บ้างนะครับ คือ ในวิดีโอรีวิวของ Mr. Brown แสดงให้เห็นว่า ปากกาออกไปในทางค่อนข้างเปียกครับ แต่ผมคิดว่า ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะการใช้คำพูดที่แตกต่างกันก็ได้ ขณะที่ Ms. Jennifer บอกว่า หัวปากกาแห้งปานกลาง (หรือเปียกปานกลาง) แต่ Mr. Brown บอกว่า ค่อนข้างเปียก (ก็แปลว่าเปียกปานกลางด้วยรึเปล่า ???) เอ่อ แบบว่า เอ่อ มันคือความหมายเดียวกันรึเปล่าครับ 55555 แต่เท่าที่ดูจากวิดีโอรีวิวของ Mr. Brown แล้ว ผมถือว่า Diplomat Traveller เป็นปากกาค่อนข้างเปียกนะครับ แต่ด้วยความที่มีลายเส้นขนาดเล็ก จึงทำให้น้ำหมึกแห้งเร็ว ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหมึกที่ใช้อีกด้วยครับ

ปลอกปากกา

ปลอกปากกาของรุ่นนี้เป็นแบบดึงเข้าถอดออกได้เลย ไม่ต้องหมุนเกลียว ซึ่ง Ms. Jennifer ชอบปลอกปากกาแบบนี้ครับ ต่างกับผมที่ผมจะชอบปลอกปากกาที่เป็นเกลียวมากกว่า ทั้งนี้อาจเพราะว่า งานเขียนของผม (นักเรียน) จะเป็นงานเขียนยาวๆ แบบเปิดปลอกปากกาครั้งเดียวเขียนเป็นชั่วโมง ไม่ใช่การเขียนแบบจดบันทึกสั้นๆ อีกเหตุผลที่ผมชอบปลอกปากกาแบบเกลียว ก็เพราะว่าทนกว่าปลอกปากกาแบบ Snap ที่ใช้ไปนานๆปลอกปากกาอาจจะหลวมได้ครับ

กลับมาที่ปัญหา ปลอกปากกาไม่สามารถเสียบท้ายด้ามได้ ตรงนี้ผมแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นนะครับ เพราะทุกรีวิวที่ผมอ่านเจอ ต่างก็บอกว่าเสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้ามได้ แถมยังสมดุลดีอีกด้วย ตรงนี้ผมว่าจะลอง Email ไปถามบริษัท Diplomat ดู ได้ผลยังไงจะมาเล่าสู่กันฟังอีกทีละกันครับ

โดยรวมแล้ว ผู้ทำรีวิวบอกว่า Diplomat Traveller เป็นปากกาที่มีน้ำหนักเบา เขียนได้ถนัดมือดีมาก แม้จะเขียนเป็นเวลานานๆก็ไม่รู้สึกเมื่อยมือแต่อย่างใด

ปากการุ่นนี้เหมาะกับใคร คุ้มค่าหรือไม่

Diplomat Traveller เป็นปากกาที่ยอดเยี่ยมมาก เหมาะที่จะใช้เป็นปากกาที่นำไปใช้งานทุกวัน ด้วยราคาที่ต่ำกว่า $50 ปากการุ่นนี้ยังดูโดดเด่น มีคลาส เหมาะที่จะนำไปใช้จดบันทึกการประชุม หรือใช้เซ็นชื่อในสลิปบัตรเครดิตก็ได้

ผู้ทำรีวิวบอกว่า เธอรักในความสารพัดประโยชน์ของปากกาที่มีน้ำหนักเบาด้ามนี้มากๆ ที่ทำให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ทุกหนทุกแห่ง ตรงนี้ขอขยายความนิดนึงนะครับ ที่ผู้เขียนบอกว่าปากการุ่นนี้สารพัดประโยชน์ ก็ตรงที่มีขนาดเล็ก พกพาง่าย ราคาไม่แพง แต่หรูดูดี พอหยิบออกมาดึงปลอกปากกาออกก็เขียนได้ทันที ไม่มีอาการงอแงครับ

ก่อนจบผู้เขียนเน้นย้ำว่า Diplomat Traveller เป็นปากกาที่คุ้มค่าต่อเงินที่เสียไปอย่างยิ่งครับ

Diplomat Traveller นี่เป็นปากกาอีกรุ่นหนึ่ง ที่ผมต้องหารีวิวของนักรีวิวหลายต่อหลายคนมาดูเปรียบเทียบข้อมูลกัน เพราะผมสนใจปากการุ่นนี้มาก แต่ข้อมูลของ Ms. Jennifer มีขัดแยังกับ Mr. Brown อยู่บ้าง โดยเฉพาะประเด็นปลอกปากกาเสียบท้ายด้ามครับ

แต่ยิ่งหาข้อมูลมาเปรียบเทียบกันมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกสนใจปากการุ่นนี้มากขึ้นไปทุกที เพราะไม่พบว่ามีนักรีวิวคนไหนที่พูดถึงปากการุ่นนี้ในแง่ลบเลยแม้แต่คนเดียวครับ

จุดที่ทำให้ผมสนใจปากการุ่นนี้มากๆ ก็ตรงที่ Ms. Jennifer พูดถึงความเป็นปากกาสารพัดประโยชน์นี่แหละครับ ปากการาคาไม่แพงนัก แต่ดูหรู แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา พกพาง่าย ปลอกปากกาแบบ Snap ใช้งานได้รวดเร็ว รูปทรงของปากกาเหมาะที่จะนำไปใช้ทั้งในเวลาที่ตัวแบบเป็นทางการ หรือชุดลำลองก็ตาม ทั้งยังเป็นปากกาที่เขียนได้ลื่น ไม่มีปัญหา Hard Start อีกด้วย ถือว่าเป็นปากกาที่ครบเครื่องจริงๆเลยนะครับ จะเสียดายก็แค่ว่า ปากการุ่นนี้หาซื้อในบ้านเราไม่ได้ครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page