top of page
  • ฐณิพัชร์ มายะการ

[รีวิวปากกาหมึกซึม] Bock Nib System / B nib

รีวิวนี้เป็นอีกรีวิวหนึ่งที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากรีวิวอื่นๆที่ผมเคยทำไปนะครับ เพราะครั้งนี้ผมจะพูดถึงเฉพาะหัวปากกา ไม่ใช่ปากกาหมึกซึมทั้งด้าม

หัวปากกาที่นำมาทำรีวิวนี้ ผมได้รับความกรุณาอย่างมากจาก Mr. Matthew Bodycombe เพื่อนนักเล่นปากกาหมึกซึมชาวอังกฤษ ส่งมาให้ทำทำรีวิวแบบฟรีๆเลยครับ ก็ต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย

Matt, your gift was so awesome. Only one of my closest friends would have known me well enough to get something like it for me. Thank you.

จำได้ว่า วันนั้นเรากำลังคุยกันเรื่องปากกาที่ผลิตในประเทศจีน ซึ่งต่างก็มีความเห็นตรงกันว่า ปากกาจีนเดี๋ยวนี้ดูดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย อะไรทำนองนี้ครับ และ Matt ก็บอกว่า เขาชอบที่จะเอาปากกาจีนมาเปลี่ยนไปใช้หัวปากกาที่ดีกว่า โดย Matt ชอบหัวปากกายี่ห้อ Bock นี่แหละครับ ผมก็บอกไปว่า ผมไม่เคยลองเขียนหัวปากกายี่ห้อนี้เลย Matt ก็ดีใจหาย จัดส่งชุดหัวปากกาของ Bock มาให้ผมหนึ่งชุด โดยให้เลือกได้ด้วยว่าต้องการทดลองเขียนหัวปากกาขนาดใด ซึ่งผมก็เลือกหัว Broad หรือ B ครับ

รู้จักกับ Peter Bock AG

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับบริษัทนี้กันซะหน่อยก่อนนะครับ Bock Nib System ผลิตโดยบริษัท Peter Bock AG ในประเทศเยอรมนี ตัวอักษร AG ที่อยู่ท้ายชื่อบริษัทนี่ย่อมาจากคำว่า Aktiengesellschaft ในภาษาเยอรมัน หมายถึง บริษัทมหาชน (Public Company) ก็หมายความว่าบริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทเล็กๆเลยนะครับ จะต้องมีผลประกอบการที่ดีมากๆด้วยจึงสามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ เพียงแค่นี้ก็รู้สึกว่าน่าสนใจแล้วนะครับ ผู้ผลิตหัวปากกาโดยเฉพาะ แต่มีกิจการใหญ่โตขนาดเป็นบริษัทมหาชนได้เลยทีเดียว

บริษัท Peter Bock AG ก่อตั้งในปี 1939 ที่เมืองไฮเดลเบอร์ก ประเทศเยอรมนี โดย Mr. Peter Bock นับจนถึงวันนี้ (2018) บริษัทก็มีอายุเกือบ 80 ปีแล้ว ต่อมาบริษัทก็ตกทอดมาถึงรุ่นลูก ภายใต้การนำของ Mr. Otto Bock และปัจจุบัน CEO ของบริษัท คือ Mr. Wolfgang Bock ลูกของ Mr. Otto อีกทีครับ

ผลิตภัณฑ์ของ Peter Bock

สินค้าของ Peter Bock ก็เป็นหัวปากกาแบบต่างๆ ที่มีให้เลือกหลากชนิดหลายขนาด นับตั้งแต่หัวปากกาที่ทำจากสแตนเสส ไปจนถึงหัวปากกาทองคำ 14 กะรัต 18 กะรัต หัวปากกาพาราเดียม และหัวปากกาไททาเนียม มีให้เลือกทั้งที่เป็นสีเงินล้วน ทองล้วน สองสี สีดำมัน ดำด้าน และหัวปากกาสีสันต่างๆ ขนาดของหัวปากกาก็มีให้เลือกเล็กไปจนถึงขนาดบิ๊กเบิ้ม ขนาดของลายเส้นก็มีหลากหลายตั้งแต่ EF ไปจน B และปากตัดขนาดต่างๆ

นอกจากนี้บริษัทยังมีจำหน่ายทั้งเฉพาะหัวปากกาอย่างเดียว หัวปากกาพร้อม Feed และมีทั้งชุด Section พร้อม Feed และหัวปากกาจำหน่ายอีกด้วย

เรียกว่า มีให้เลือกซื้อครบวงจรด้านหัวปากกาอย่างแท้จริงเลยครับ

ขนาดของหัวปากกา

มาตรงนี้ผมขอแทรกด้วยเรื่องขนาดของหัวปากกา หรือ Nib Sizes หน่อยนะครับ คำๆนี้มี 2 ความหมายครับ ความหมายแรก คือ ขนาดของตัวหัวปากกาเองเลย ว่าหัวปากกานั้นมีความกว้างความยาวเท่าไหร่ และอีกอย่างหมายถึง ขนาดลายเส้นของหัวปากกา ว่าหัวปากกานั้นเขียนเส้นเล็กหรือใหญ่ขนาดไหนนะครับ สองคำนี้ฝรั่งเองก็ใช้สับสนกันบ่อยๆ แต่สำหรับขนาดลายเส้นของหัวปากกานี่นักเล่นปากกาหมึกซึมบางคนก็จะใช้คำเรียกที่แตกต่างไปเช่น Tip Size, Nib Width หรือ Nib Stroke Size เป็นต้น

ที่ต้องบอกมานี่ ก็เพราะหากใครจะสั่งซื้อหัวปากกา Bock มาใช้ จะต้องระบุทั้งขนาดของหัวปากกา และขนาดของลายเส้น โดยขนาดของหัวปากกาทาง Bock จะแจ้งขนาดที่วัดจากไหล่ปากกาด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง (ส่วนที่กว้างที่สุด) และขนาดความยาวของหัวปากกามาให้ และขนาดลายเส้น Bock จะแจ้งเป็น Iridium Point Size นะครับ

ผลิตให้ปากกาหมึกซึมชั้นนำ

Bock ไม่เพียงแต่ผลิตหัวปากกาขายเองเท่านั้นนะครับ แต่ยังผลิตให้บริษัทปากกาหมึกซึมชั้นนำต่างๆอีกด้วย ยกตัวอย่างบริษัทปากกาที่ให้ Bock ผลิตหัวปากกาให้ก็ได้แก่ Delta ที่ผมเพิ่งทำรีวิวไป และชื่นชอบลักษณะการเขียนของปากกายี่ห้อนี้นักหนา หรือ Sheaffer ที่ผมบอกเสมอว่า เป็นปากกาหมึกซึมที่เขียนได้ลื่นมาก แม้แต่ Faber-Castell ที่นักวิจารณ์ปากกาของฝรั่งยกย่องให้เป็นหัวปากกาที่ทำจากสแตนเลสที่เขียนได้ลื่นที่สุด นอกจากนี้ก็ยังมี Kaweco หรือแม้แต่ปากกาหรูราคาแพงอย่าง Visconti ก็ล้วนแต่ให้ Bock ผลิตหัวปากกาให้ทั้งสิ้นครับ

ชุดป้อนน้ำหมึก (Feed)

หัวปากกา Bock ที่ Matt ส่งมาให้ผมเป็น Nib System หรือ Nib Set ครับ คือ มีหัวปากกา Feed และชุดรองรับ Feed กับหัวปากกา ที่เรียกว่า Housing ถ้าหากหา Section ของปากกาที่เหมาะสมได้ ก็สามารถใส่ชุดหัวปากกาทั้งชุดเข้าไปได้เลย นอกจากนี้ Matt ยังส่งที่สูบหมึกของ Beaufort Ink มาให้อีก 1 อันด้วย ขอขอบพระคุณอีกทีครับ

Feed ของ Bock ที่ให้มาในชุด Nib System ทำจากพลาสติก ผมสังเกตว่ามีช่องสำหรับให้อากาศไหลผ่านที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว น่าจะทำให้ป้อนน้ำหมึกได้ฉ่ำมากๆ แต่เสียดายปากกาที่ผมนำมาใช้ด้วยไม่สามารถใช้กับ Feed ตัวนี้ได้ จึงไม่ได้ทดสอบการ Flow ของน้ำหมึกจาก Feed ตัวนี้นะครับ

หัวปากกา (Nib)

หัวปากกาของ Bock ที่ Matt ส่งมาให้ผม เป็นหัวปากกาขนาดใหญ่ (เบอร์ 6) ทำจากสแตนเลส ที่หัวปากกาจะมีลวดลายเล็กน้อย และมีโลโก้รูปแพะภูเขากระโดดอยู่ในวงกลม (ผมเดาเองว่าเป็นแพะภูเขานะครับ 5555) แล้วก็มีชื่อยี่ห้อ Bock อยู่ แต่ผมไม่เห็นว่ามีตัวอักษรบอกขนาดลายเส้นของหัวปากกานะครับ อย่างไรก็ตามหัวปากกาที่ผมนำมาทำรีวิวนี้เป็นหัวปากกาขนาด Broad หรือหัว B ที่ให้ลายเส้นขนาดใหญ่ครับ

การใช้งาน

ผมเลือกที่จะนำหัวปากกาของ Bock ไปใช้กับปากกา Jinhao ซึ่งรุ่นที่สามารถใช้กับหัวปากกาขนาดใหญ่ เบอร์ 6 ได้ ก็มี Jinhao X-450, X-750 และ Jinhao 159 ครับ ผมเลือกที่จะใช้กับ Jinhao 159 ซึ่งเป็นปากกาหมึกซึมของ Jinhao ที่ผมชื่นชอบที่สุด แม้ว่า Jinhao 159 จะมีขนาดใหญ่ และค่อนข้างหนัก ทำให้ปากการุ่นนี้ไม่ค่อยเหมาะที่จะใช้พกพาไปไหนมาไหน แต่ก็เหมาะกับหัวปากกาขนาด B ดีครับ เพราะหัวปากกาขนาดนี้ก็ไม่ใช่หัวปากกาที่จะใช้จดงานทั่วไปอยู่แล้ว จึงเหมาะที่จะเอาไว้ประจำโต๊ะทำงาน สำหรับเขียนบันทึกต่างๆ หรือใช้เซ็นชื่อมากกว่า

ก่อนอื่นก็ต้องถอดหัวปากกาเดิมของ Jinhao 159 ออกซะก่อน ซึ่งก็ทำได้ง่ายๆ โดยจับที่หัวปากกาและ Feed แล้วดึงออกมาตรงๆ จากนั้นผมลองเอาชุดหัวปากกาและ Feed ของ Bock ใส่เข้าไป แต่ปรากฎว่าใส่ไม่เข้าครับ ผมจึงกลับมาใช้ Feed เดิมของ Jinhao ซึ่งก็ใช้ได้พอดีอย่างเหมาะเจาะทีเดียว เพราะว่าใช้ Feed เดิมนี่เอง ผมเลยต้องใช้กับที่สูบหมึกเดิมของ Jinhao ด้วย ไม่ได้ใช้ที่สูบหมึกของ Beaufort Ink นะครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่ไม่มีโอกาสได้ทดสอบ Nib System ของ Bock ทั้งชุดครับ

หัวปากกาขนาด B ของ Bock เขียนได้ลื่นมาก ไม่มี Feedback เลย

เมื่อใช้กับชุด Feed ของ Jinhao 159 แล้วป้อนน้ำหมึกดีมาก เขียนเร็วๆ

หรือลากยาวต่อเนื่อง ไม่พบปัญหาเส้นขาดๆหายๆแต่อย่างใด

การเขียน

จริงๆแล้วผมมั่นใจในหัวปากกาของ Bock ตั้งแต่ยังไม่ได้เขียนแล้วครับ เพราะพอดูจากชื่อยี่ห้อปากกาหมึกซึมต่างๆที่ Bock ผลิตหัวปากกาให้แล้ว ล้วนเป็นปากกาที่ผมชอบในลักษณะการเขียนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Delta, Sheaffer, Faber-Castell หรือ Kaweco ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นหัวปากกาที่เขียนลื่นแบบไร้ Feedback ทั้งสิ้น แต่เราก็ไม่รู้แน่นะครับว่า Bock ผลิตหัวปากการุ่นไหนให้กับปากกาหมึกซึมเหล่านั้นบ้าง

ส่วนปลายของหัวปากกาเจียรได้กลมดี ไม่มีกัดกระดาษเลยครับ

ขนาดลายเส้นของหัวปากกา Broad (B) ของ Bock เท่าๆกับขนาดลายเส้นของหัวปากกาที่ผลิตในยุโรปส่วนใหญ่ คือ ราว 0.8 มม. ลายเส้นขนาดนี้ต้องถือว่าใหญ่ไปสักหน่อยสำหรับการนำไปใช้เขียนงานทั่วไป ซึ่งลายเส้นขนาดใหญ่ที่สุดที่พวกเราค่อนข้างจะคุ้นเคยก็เป็นแค่ 0.7 มม. ขนาดของลายเส้นที่เพิ่มขึ้นอีก 0.1 มม. นี่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนะครับ

สำหรับลายเส้นใหญ่ๆของหัว B แบบนี้ เหมาะมากๆสำหรับใช้จดบันทึกสั้นๆ พวกบันทึกเตือนความจำ เพราะลายเส้นใหญ่ เห็นได้ชัดเจนดี ผู้บริหารใช้เขียนสั่งงานลูกน้องก็เหมาะมากนะครับ หรือจะใช้เซ็นชื่อก็ยิ่งเหมาะใหญ่ เพราะเวลาตวัดปากกาส่วนปลายของลายเส้นจะเล็กเรียวลงไปสวยดีครับ ยิ่งถ้าใช้กับน้ำหมึกที่มี Shade หรือ Sheen สวยๆ หรือน้ำหมึกพวก Shimmer จะเห็นการไล่โทนสีของน้ำหมึก หรือเห็นประกายเงินประกายทองได้ชัดเจนสวยมากๆครับ

เปรียบเทียบขนาดลายเส้นของหัวปากกาขนาดต่างๆ ทั้งปากกา

ที่ผลิตแถบเอเชีย และยุโรป

อธิบายนิดนะครับ น้ำหมึกที่มี Shade คือ น้ำหมึกที่ไล่โทนสีสวยๆครับ คือ บริเวณที่กดหัวปากกากับกระดาษ ปากกาก็จะปล่อยน้ำหมึกออกมามาก ก็จะเห็นสีสันของน้ำหมึกเข้ม ส่วนบริเวณที่ตวัดปากกาก็จะเห็นเป็นสีอ่อนลง ส่วนน้ำหมึกที่มี Sheen คือ น้ำหมึกที่พอแห้งแล้ว เมื่อเอาไปส่องกับแสงจะสะท้อนแสงเป็นเงาๆครับ ซึ่งจะทำให้ดูเหมือนกับว่า น้ำหมึกไล่สีจากสีหนึ่งไปอีกสีหนึ่งได้ สำหรับพวก Shimmer ก็เป็นน้ำหมึกที่ผสมผงเงิน ผงทองลงไปในน้ำหมึกด้วย พอน้ำหมึกแห้งก็จะมีประกายระยิบระยับ

น้ำหมึกพวกนี้ นอกจากจะเหมาะสำหรับการเขียนอักษรวิจิตร หรือ Calligraphy แล้ว หากนำมาเขียนบันทึก เขียนหัวข้อต่างๆ จะทำให้ดูสดใสสวยงามยิ่งขึ้น ผู้บริหารที่นำไปใช้สำหรับเซ็นชื่อ ก็จะทำให้ลายเซ็นสวยงามเป็นเอกลักษณ์ดีด้วยนะครับ

กลับมาที่หัวปากกา Bock ต่อครับ

หัวปากกาขนาด B ของ Bock เขียนลื่นมาก แบบไม่มี Feedback เลย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจครับ เพราะหัวปากกาขนาดใหญ่ๆก็มักจะเขียนได้ลื่นอยู่แล้วนะครับ ความรู้สึกในการเขียนจะไม่ใช่ประเภทลื่นปรู๊ดปร๊าด แต่ยังรู้สึกว่าหัวปากกาจับกระดาษอยู่ น่าจะมาจากการแต่งผิวหัวปากกาที่ไม่ได้ขัดให้ถึงกับเป็นเงา แต่แต่งผิวให้มีรอยสากนิดๆ ซึ่งช่วยให้การเขียนสนุกและสามารถควบคุมลายเส้นได้ดี คล้ายๆกับการเขียนด้วยดินสอครับ

ป้อนน้ำหมึกได้ฉ่ำมากๆ ยิ่งลายเส้นขนาดใหญ่อย่างนี้ ใส่น้ำหมึกสีสันสดใส

จะเห็นสีของน้ำหมึกได้ชัดเจน สวยงามมาก

พอนำไปใช้กับชุด Feed ของ Jinhao 159 ปากกาก็ยังป้อนน้ำหมึกได้ฉ่ำมากๆ ยิ่งช่วยทำให้เขียนได้ลื่น สนุกมากขึ้นครับ หัวปากกาสแตนเลสของ B ของ Bock ค่อนข้างแข็งทีเดียว แทบไม่มี Flex เลย ยิ่งลายเส้นมีขนาดใหญ่อยู่แล้ว ยิ่งทำให้แทบไม่เห็นความแตกต่างของการเขียนแบบ Flex เลยครับ อันนี้ก็ไม่แปลกอีกนะครับที่หัวปากกาลายเส้นขนาดเล็กๆจะสร้างความแตกต่างของการเขียนแบบ Flex ได้ดีกว่า

กลับหัวปากกาเขียน หรือ Reverse Writing ได้ลายเส้นขนาด EF

แม้ว่าจะเขียนมี Feedback มากสักหน่อย แต่ก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหา

สิ่งที่ผมเสียดาย คือ พอเอามากลับหัวปากกาเขียน หรือ Reverse Writing แล้วมี Feedback ค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ถึงกับกัดกระดาษนะครับ ยังใช้เขียนแบบ Reverse ได้อย่างไม่ยากเย็น การเขียนแบบ Reverse Writing จะได้ขนาดลายเส้นเท่าๆกับหัวปากกาขนาด Extra Fine ของยุโรปเลยทีเดียว ตรงนี้ก็เหมาะดีสำหรับผู้ที่พกปากกาด้ามเดียว เอาไว้ใช้เซ็นชื่อ หรือเขียนบันทึกสั้นๆเป็นหลัก แต่หากจำเป็นจะต้องกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม ก็กลับหัวปากกาเขียนได้ครับ

สรุป

หัวปากกาของ Bock ใช้งานได้ดีมากๆ จนผมคิดอยากสั่งปากกาที่ทำจากอะครีลิกสวยๆจากอินเดีย แล้วเอามาเปลี่ยนใช้หัวปากกาของ Bock แทน ซึ่งจะทำให้ได้ปากกาที่ทำจากวัสดุที่สวยงาม และเขียนได้ดีเยี่ยมอีกด้วย แต่ติดที่ว่าหัวปากกาของ Bock นี่ราคาสูงพอสมควรทีเดียว อย่างหัวปากกาสแตนเลสที่ Matthew ส่งมาให้ผมนี่ราคาขายอยู่ที่ตั้ง 10 ปอนด์อังกฤษ หรือราว 450 บาท ส่วนหัวปากกาทองคำ 18 กะรัต ราคาขาย จะสูงถึง 120 ปอนด์อังกฤษ หรือกว่า 5 พันบาทเลยครับ เรียกว่าซื้อปากกาดีๆได้ทั้งด้ามกันเลย สำหรับนักเล่นปากกาหมึกซึมในบ้านเรา หากสั่งเข้ามาก็ต้องเสียค่าขนส่งเพิ่มขึ้นอีก แต่ถ้าใครสนใจหัวปากกาของ Bock จริงๆ ก็ลองเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ www.peter-bock.com ครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page