top of page
  • ฐณิพัชร์ มายะการ

ความประทับใจเกี่ยวกับปากกาหมึกซึม ที่ขอจารึกไว้

เรื่องราวที่ผมจะเล่าต่อไปนี้อาจไม่เกี่ยวกับตัวปากกาสักเท่าไหร่นะครับ แต่เป็นความประทับใจที่ผมต้องการจะเก็บบันทึกไว้ในความทรงจำตลอดไป และอยากจะถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร ไม่แน่นักว่า เรื่องนี้อาจจะให้ข้อคิดดีๆแก่ใครสักคนได้บ้าง

สิ่งของทุกชิ้นมักจะมีเรื่องราวต่างๆในตัวของมันเองนะครับ ของบางอย่างอาจบอกเราถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อน บอกถึงความรักของพ่อแม่ และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย

ผมเองก็มีสิ่งของหลายชิ้น ที่เตือนความทรงจำและเรื่องราวต่างๆในอดีต แต่มีปากกาหมึกซึมด้ามหนึ่งที่เป็นสิ่งเตือนใจผมได้อย่างพิเศษสุดเลยครับ

ปากกาด้ามนั้น คือ Pilot Birdie เป็นปากกาหมึกซึมเล็กๆที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับผมครับ มันแฝงไว้ด้วยเรื่องราวมากมาย ทั้งมิตรภาพ ความเชื่อใจ การทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างทุ่มเท และที่สำคัญที่สุด คือ มันเป็นสิ่งเตือนใจผมในเรื่องของการ “รักษาสัจจะวาจา” ครับ

ผมได้รับปากกาหมึกซึม Pilot Birdie ด้ามนี้มาจาก พระอาจารย์ชวนปญฺโญ ภิกฺขุ แห่งวัดอาวุธวิกสิตารามครับ ผมรู้จักกับพระอาจารย์ชวนปญฺโญ ตั้งแต่ท่านยังคงเป็น “ครูชนก”

ก่อนหน้านั้น ผมกับครูชนกไม่เคยเจอหน้าค่าตากันมาก่อน เพียงแต่รู้จักกันผ่านเฟสบุ๊คเท่านั้น ผมขอเพิ่มครูชนกเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คก็เพราะชื่นชมการเขียนอักษรบรรจงภาษาไทยของท่านครับ และครูชนกก็ได้กรุณาเข้าร่วมในเพจรีวิวปากกาหมึกซึม Write Like Dream ของผม

การพูดคุยกับครูชนกในเฟสบุ๊ค ก็เหมือนกับเพื่อนในโลกออนไลน์คนอื่นๆ ที่มักจะไปคอมเม้นท์ใต้ภาพ และเขียนโต้ตอบกันไปๆมาๆเท่านั้น ไม่ได้มีความสนิทสนมใดๆเป็นพิเศษ ซึ่งผมได้แต่คิดเองว่า ครูชนกน่าจะพอเห็นถึงความเลื่อมใสที่ผมมีต่อตัวท่าน ทั้งในเรื่องวัตรปฏิบัติเมื่อครั้งยังเป็นฆารวาส เรื่องของการสั่งสอนลูกศิษย์ รวมถึงชื่นชมในการเขียนอักษรบรรจงของท่าน และยังคิดอีกว่า ครูชนกก็คงจะชื่นชมในตัวผมอยู่บ้าง ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องการใฝ่รู้เกี่ยวกับปากกาหมึกซึมที่ผมชื่นชอบครับ

มีอยู่วันหนึ่ง ครูชนกได้ลงรูปปากกา Pilot Birdie ในคอมเม้นท์ของรูปอะไรสักอย่างผมก็จำไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าอยู่ในราวเดือนกรกฎาคม ของปี 2558 ตั้งแต่ผมเพิ่งทำรีวิวปากกาได้ไม่นานนัก ตอนที่เห็นรูปของ Pilot Birdie ผมไม่เคยรู้จักปากการุ่นนี้มาก่อนเลยครับ จึงได้สอบถามไป ครูชนกก็บอกว่า ซื้อปากกาด้ามนี้มานานแล้ว ในราคาไม่กี่สิบบาท โดยครูมีเก็บไว้อยู่ 2 ด้าม ขณะนั้นครูชนกเคยบอกไว้ก่อนแล้วว่า ต้องการจะฝากผมสั่งซื้อปากกาจีน Duke 209 เพราะได้อ่านจากรีวิวของผมครับ

ด้วยความที่ผมอยากได้ Pilot Birdie มาก ผมจึงเสนอไปว่า จะขอแลก Duke 209 กับ Pilot Birdie ซึ่งครูชนกก็ยินดีที่จะให้ผมแลกด้วย โดยผมยังจำได้ดีครูตอบกลับมาว่า “ของดีๆก็ควรจะไปอยู่กับคนที่คู่ควร” ตอนนั้นผมได้แต่ดีใจ ยังไม่ได้คิดอะไรมากครับ

ผมนำเรื่องนี้ไปเล่าให้พ่อฟัง แต่กลับโดนพ่อตักเตือนมาว่า ผมไม่ควรทำอย่างนั้น เพราะครูเป็นผู้ใหญ่จะปฏิเสธเด็กได้อย่างไร และ Duke 209 ไม่มีค่าคู่ควรกับ Pilot Birdie เลยแม้แต่น้อย ซึ่งตัวผมเองในขณะนั้นมองสิ่งของแค่ที่เพียงมูลค่าซื้อขายเท่านั้น ซึ่ง Duke 209 ผมก็ซื้อมาร้อยกว่าบาท ก็แพงกว่า Pilot Birdie ที่ราคาไม่กี่สิบบาท พ่อจึงสอนต่อไปว่า คุณค่าของสิ่งต่างๆไม่ได้อยู่ที่เพียงราคาที่ซื้อมาเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าภายในตัวของมันที่ไม่สามารถประเมินได้

พ่อยังตั้งคำถามกลับมาอีกว่า คำที่ครูชนกบอกว่า “ของดีๆควรจะไปอยู่กับคนที่คู่ควร” และอะไรที่ทำให้ครูคิดว่าผมเป็นคนที่ “คู่ควร”

ตอนที่ผมอ่านโพสท์ของครูชนก ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยครับ พอพ่อถามกลับมา ผมคิดไม่ออกจริงๆว่าอะไรที่ทำให้ครูชนกกล่าวอย่างนั้น พ่อจึงสอนผมต่อว่า การที่จะทำอะไรก็ตาม ขอให้ทุ่มเทจนถึงที่สุด แล้วคนรอบข้างจะมองเห็นคุณค่าของตัวเราเอง โดยไม่จำเป็นจะต้องพูดจาโอ้อวดป่าวประกาศแต่อย่างใด

จากที่พ่อพูดเตือน ทำให้ผมตัดสินใจแกล้งทำเป็นเพิกเฉยไม่สั่ง Duke 209 ให้ครูชนก เพราะจะเท่ากับเป็นการไปทวง Pilot Birdie ในทางอ้อมครับ อย่างไรก็ตามผมก็ยังคงมีการพูดคุยกับครูชนกผ่านทางเฟสบุ๊คอยู่เรื่อยๆนะครับ

จนเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2558 ครูชนกลงข้อความในเฟสบุ๊คว่า นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป (3 ธันวาคม 2558) จะเปลี่ยนชื่อเฟสบุ๊คเป็น ชวนปญฺโญ ภิกฺขุ ผมเห็นแล้วก็แปลกใจครับ เป็นการบวชเงียบๆ ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ไม่มีพิธีรีตองอะไร ผมยังได้ไปกล่าว สาธุ ในโพสท์นั้นอยู่เลย

หลังจากบรรพชาแล้ว ดูเหมือนพระอาจารย์ชวนปญฺโญ หรือครูชนกในอดีตจะยุ่งกว่าตอนเป็นฆารวาสเสียอีก เพราะทั้งศึกษาธรรมะของท่านเอง สอบเปรียญธรรม ทั้งยังต้องสอนให้กับพระภิกษุ สามเณร และนักเรียนทั่วไปอีกด้วย แต่พระอาจารย์ก็ยังเข้ามาแลกเปลี่ยนทัศนะทางธรรมในเฟสบุ๊คอยู่อย่างสม่ำเสมอนะครับ เพียงแค่เรามีโอกาสคุยกันเรื่องปากกาหมึกซึมน้อยลงไปบ้างเท่านั้น

ในช่วงเดือนกันยายน 2559 ผมได้รับข้อความผ่านเฟสบุ๊คแมสเซนเจอร์ เพื่อสอบถามผมเกี่ยวกับปากกา Parker รุ่นหนึ่ง ที่เพื่อนของท่านกำลังสนใจอยู่ ซึ่งก็คือ Parker Jotter ที่ผมได้ทำรีวิวไปแล้วนั่นเองครับ ซึ่งผมก็ได้ให้ข้อมูลเท่าที่ผมพอจะรู้อยู่บ้างไป

จากนั้นอีกไม่กี่วัน ท่านก็ส่งข้อความมาบอกว่า ท่านได้ฝากเพื่อนซื้อ Parker Jotter ให้ผมด้ามหนึ่งแล้ว ต้องการที่อยู่ของผมเพื่อจะได้จัดส่งปากกามาให้ ความรู้สึกของผมตอนนั้นแตกต่างจากทุกครั้งที่รู้ว่าจะได้ปากกาด้ามใหม่ครับ เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงๆ คือ ดีใจนะครับ แต่ไม่ใช่ดีใจแบบเฮฮา เป็นความดีใจลึกๆมากกว่า จะใช้คำว่าตื้นตันใจ ก็ไม่รู้ว่าจะถูกรึเปล่านะครับ

นี่คือของขวัญจากเพื่อนในโลกออนไลน์ ที่ไม่เคยพบหน้ากันสักครั้งครับ

ผมขอให้พ่อพาผมไปวัดอาวุธฯ เพื่อที่จะได้ไปกราบพระอาจารย์ด้วยตนเอง ในวันที่ 6 ตุลาคม 2559 เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับพระอาจารย์ชวนปญฺโญ พระภิกษุที่ผมพบในวันนั้นไม่ได้แตกต่างจากภาพในจินตนาการของผมก่อนหน้านี้เลย ผมได้พบกับพระอาจารย์หนุ่ม ใจดี ยิ้มเก่ง แต่เต็มไปด้วยภูมิความรู้ในด้านต่างๆมากมาย เราคุยกันอย่างสนุกสนานหลายต่อหลายเรื่องครับ ทั้งในเรื่องส่วนตัว เรื่องปากกาหมึกซึม พระอาจารย์ยังได้สอนให้ผมเขียนอักษรบรรจง และยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมะจากพระอาจารย์อีกด้วยครับ (ผมก็เป็นสายบุญคนหนึ่งเหมือนกันนะครับ 55555)

จากนั้นพระอาจารย์ก็หยิบ Parker Jotter มาให้ผม เราเติมน้ำหมึกและทดลองเขียนกันเป็นที่สนุกสนานมาก ก่อนที่จะผมกลับ พระอาจารย์ได้หยิบ Pilot Birdie ออกมา แล้วถามผมว่า ยังจำได้มั้ย ตอนนั้นผมอึ้งไปเลยครับ

หนึ่งปีเต็มๆ จากคุยกันในเฟสบุ๊คเมื่อเดือนกันยายน 2558 จนถึงวันที่ผมได้พบกับพระอาจารย์ในเดือนตุลาคม 2559 พระอาจารย์ยังคงรักษาสัจจะที่ให้ไว้กับเด็กคนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยเจอหน้ากันสักครั้งด้วยซ้ำ

ผมได้ตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ 2-3 ปีมาแล้วว่า จะตั้งใจยึดมั่นใน “สัจจะวาจา” ตลอดไป ปากกาหมึกซึมด้ามเล็กๆด้ามนี้ จึงเป็นเสมือนสิ่งเตือนใจผมให้ยึดมั่นในเรื่องนี้ยิ่งขึ้นครับ

แม้ผมจะมีปากกาหมึกซึมนับร้อยด้าม มีปากกาที่ราคาแพงกว่า Pilot Birdie มากมายนัก แต่สำหรับผมแล้ว ปากกาด้ามนี้เป็นหนึ่งในปากกาหมึกซึมที่มีมูลค่าสูงที่สุดสำหรับผมเลยล่ะครับ

กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ชวนปญฺโญ ภิกฺขุ ไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งครับ

หมายเหตุ

นอกจาก Parker Jotter และ Pilot Birdie แล้ว ในวันนั้นพระอาจารย์ยังได้ให้ปากกาหมึกซึมโบราณ Pilot 55C2 มากับผมอีกด้าม แม้ว่าโดยมูลค่าของการเก็บสะสมแล้ว Pilot 55C2 น่าจะมีราคาสูงกว่า แต่สำหรับคุณค่า ยังไงก็ยังสู้ Pilot Birdie ด้ามนี้ไม่ได้ครับ

 Write like dream: 

 

blog ที่รวบรวมบทความ และรีวิว เกี่ยวกับปากกาหมึกซึม สำหรับผู้ที่รักการเขียนทุกท่าน

 

ท่านสามารถติดตามการอัพเดทข้อมูลของ WLD ได้ทางโดยกด Like ที่ Facebook Page ของ Write Like Dream (คลิก)

 RECENT POSTS: 
 คลิกเพื่อค้นหาข้อมูล 
bottom of page