[รีวิวปากกาหมึกซึม] Sheaffer Sagaris

ก็อย่างที่เคยบอกไปแล้วครับว่า ผมมีทัศนคติที่ดีกับปากกายี่ห้อ Sheaffer มาโดยตลอด อาจจะเป็นเพราะปากกาหมึกซึมด้ามแรกในชีวิตของผม คือ Sheaffer 240 นั่นเองครับ และในบรรดาปากกาในฝัน (Grail Pens) ของผม ก็มี Sheaffer รุ่นโบราณรวมอยู่ด้วยไม่ต่ำกว่า 2 รุ่น และรุ่นปัจจุบันอีกอย่างน้อย 1 รุ่นด้วยครับ

สำหรับ Sheaffer Sagaris นี่ ผมยังไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของนะครับ จึงแปลบทความของฝรั่งมาให้อ่านกันก่อน โดยใจความหลักๆผมเอามาจากเรื่อง Sheaffer Sagaris Fountain Pen Review ของบล็อก Best Fountain Pen ครับ แต่เนื่องจากปากการุ่นนี้มีนักรีวิวเก่งๆ ทำรีวิวไว้หลายต่อหลายคนเลย ผมก็จะนำความเห็นของนักรีวิวคนอื่นๆมาแทรกไว้ในบทความด้วยนะครับ

มาที่ความเห็นส่วนตัวของผมเกี่ยวกับปากการุ่นนี้ก่อนเลย ผมชอบดีไซน์ของ Sheaffer Sagaris มากๆเลยครับ เป็นดีไซน์ที่ผสมผสานรูปลักษณ์แบบวินเทจ เข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัวมาก โดยตัวปากกาของ Sheaffer Sagaris จะคล้ายกับปากการุ่นโบราณ Sheaffer Snorkel มีคลิปเหน็บกระเป๋าที่เหมือนๆกับ Sheaffer PFM หรือ Imperial แม้ว่าปากกาจะมีรูปทรงเหมือนปากกาโบราณ แต่การออกแบบกลับทำให้ปากกาดูสวยงามทันสมัยมาก ไม่รู้สึกว่าเชย หรือย้อนยุคแต่อย่างใดเลย

เรามาดูรีวิวของ Ms. Jennifer แห่ง Best Fountain Pen กันดีกว่าครับ

Ms. Jennifer เกริ่นนำมาก่อนว่า Sheaffer Sagaris เป็นปากกาที่มีน้ำหนักเบา แต่แข็งแรงดี แม้ว่าปากกาจะออกแบบมาดูเรียบๆไปสักหน่อย แต่ก็เป็นปากกาที่จะรองรับในทุกความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี

ข้อดี-ข้อเสีย

ข้อดีของ Sheaffer Sagaris ตามความเห็นของ Ms. Jennifer คือ มีน้ำหนักเบา สมดุลดีมาก หัวปากกาแกะสลักสวยงาม และปลอกปากกาเป็นแบบไม่ต้องหมุนเกลียว ส่วนข้อเสียเธอเห็นว่า Section ที่ทำจากเรซินสีดำด้านใช้งานไม่ค่อยถนัดนัก

ขอตัดภาพมาที่ข้อดี-ข้อเสีย ของ Sheaffer Sagaris ตามความเห็นของ Ms. Azizah Asgarali จาก Gourmet Pens หน่อยนะครับ

Ms. Asgarali พูดถึงข้อดีของปากการุ่นนี้ว่า เขียนได้ดีตั้งแต่ออกจากกล่องเลย เป็นปากกาที่สมดุลดีมาก เหมาะทั้งสำหรับคนมือเล็กๆ (ใช้โดยไม่เสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้าม) และคนมือใหญ่ (เสียบปลอกปากกาที่ท้ายด้าม) ปลอกปากกาปิดแน่นสนิทดี และรูปทรงคลาสิกสวยงาม ส่วนข้อเสีย คือ หากใครที่มีมือเล็กๆ แล้วเอาปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้าม จะรู้สึกว่าหนักส่วนปลาย และเธอไม่ชอบที่สูบหมึกสีเทาๆของ Sheaffer เพราะทำให้มองปริมาณน้ำหมึกที่เหลืออยู่ได้ยาก

เอาล่ะ มาฟังความเห็นจากวิดีโอรีวิวของ Mr. Stephen Brown กันมั่งครับ

Mr. Brown บอกว่า เขาชอบ Sheaffer Sagaris ที่ดูคลาสิกดี ทั้งยังเป็นปากกาที่จับถือได้ถนัด เขียนได้ดีอีกด้วย Mr. Brown ยังบอกว่า เขาประทับใจในประสิทธิภาพหัวปากกาของ Sheaffer มาก เป็นหัวปากกาสแตนเลสที่เขียนได้ลื่น ป้อนน้ำหมึกดี ไม่เคยมีปัญหา Hard Start หรือเขียนแล้วเส้นขาดๆหายๆเลย แต่ Mr. Brown ไม่ได้บอกข้อเสียอะไรเกี่ยวกับปากการุ่นนี้ครับ

นี่คือเหตุผลที่ผมต้องนำความเห็นของนักรีวิวปากกาหลายๆสำนัก เกี่ยวกับข้อดี-ข้อเสียของ Sheaffer Sagaris มาให้อ่านกันครับ เพราะทุกคนพูดถึงข้อดีของปากการุ่นนี้ไว้มากจริงๆ ส่วนข้อเสียจากความเห็นของแต่ละคน กลับย้อนแย้งกันอยู่บ้างนะครับ อย่างที่ Ms. Asgarali บอกว่าเมื่อเขียนโดยนำปลอกปากกาไปเสียบที่ท้ายด้ามแล้วจะรู้สึกหนักปลาย แต่ Ms. Jennifer ซึ่งเป็น Poster ตัวยง หรือผู้ที่นิยมเขียนโดยเสียบปลอกปากกาไว้ท้ายด้าม กลับไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาครับ ในขณะที่ Ms. Jennifer บอกว่า Section Grip ใช้งาน่ไม่ค่อยถนัด แต่ Mr. Brown ที่ค่อนข้างจะละเอียด (ช่างติอยู่บ้าง) กลับบอกว่า Section ของปากการุ่นนี้จับได้ถนัดมือดีมาก จะมีแต่เรื่องที่สูบหมึกของ Sheaffer ที่เป็นสีเทา อย่างที่ Ms. Asgarali บอก นั่นผมเห็นด้วยเลยครับว่า ทำไมจึงไม่ยอมทำที่สูบหมึกใสๆอย่างชาวบ้านเค้านะ เพราะดูปริมาณน้ำหมึกที่เหลืออยู่ยากจริงๆครับ

นี่เป็นวิดีโอสั้นๆของ Ms. Jennifer

การออกแบบ

Sagaris เป็นชื่อของอาวุธสมัยโบราณ และยังเป็นชื่อเรียกของขวานสำหรับใช้ในการรบชนิดหนึ่งด้วย ทำให้ผู้รีวิวจาก Best Fountain Pen คิดไปว่า Sheaffer Sagaris จะเป็นปากกาอ้วนๆ ที่ทำจากโลหะ และจะต้องหนักที่ส่วนปลายมากๆด้วย อันเป็นลักษณะของขวาน

แต่ปากกาที่เธอได้รับมา กลับเป็นปากกาที่ทำจากเรซิน มีลักษณะผอมเพรียว สมดุลย์ดีมาก แถมยังมีน้ำหนักค่อนข้างเบาอีกด้วย

ขอขั้นนิดนะครับ คำว่า Sagaris นี่เป็นชื่อหอกที่ใช้รบบนหลังม้าของนักรบเปอร์เซียนโบราณครับ ซึ่งเป็นหอกสั้น เพรียว น้ำหนักเบา ถึงขนาดที่บริษัท TVR ผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นนำของอังกฤษ นำชื่อ Sagarsi ไปตั้งเป็นชื่อรุ่นรถของตัวเองด้วยครับ ส่วนตัวผมมองว่า การที่ Sheaffer ตั้งชื่อปากการุ่นนี้ว่า Sagaris น่าจะต้องการสื่อถึงปากกาที่มีขนาดกำลังเหมาะ ไม่เทอะทะ และใช้งานได้รวดเร็วมากกว่า

Sheaffer Sagaris เป็นปากกาหมึกซึมที่มีรูปทรงคลาสสิก ส่วนกลางของปากกาเป็นส่วนที่หนาที่สุด และจะค่อยเรียวลงที่ปลายทั้งสองด้าน ลำตัวของปากกาค่อยๆลาดลงเชื่อมต่อกับ Section ไม่ก่อให้เกิดความรำคาญในการจับปากกาเลยแม้แต่น้อย

หัวปากกาทำจากโลหะ แกะสลักลวดลายคล้ายกับรังสีของแสงอาทิตย์ คลิปเหน็บกระเป๋ามีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sheaffer คือ เป็นคลิปเรียบๆที่มีสัญลักษณ์จุดสีขาวตรงส่วนบนของคลิป คลิปของ Sagaris ค่อนข้างแข็ง ทำให้เหน็บกระเป๋าเสื้อได้ค่อนข้างยากสักหน่อย ผู้ใช้ปากกาจำเป็นจะต้องง้างคลิปให้อ่อนเองสักพัก จึงจะใช้เหน็บกระเป๋าเสื้อได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ปากการุ่นนี้ยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย

ประสิทธิภาพในการเขียน

Ms. Jennifer ให้ฉายากับ Sheaffer Sagaris ว่า “ทางสายกลาง” ในแง่ของการป้อนน้ำหมึก เนื่องจากเป็นปากกาที่ไม่เปียก และก็ไม่แห้งจนเกินไป ซึ่งปากกาในลักษณะนี้ผู้ทำรีวิวบอกว่า เธอชอบมากๆ เพราะสามารถเขียนได้ดีกับกระดาษทุกชนิด นอกจากนี้หัวปากกาของ Sagaris ยังเขียนได้อย่างดีตั้งแต่แกะกล่อง โดยไม่ต้องปรับแต่งแต่อย่างใด ปากกาไม่เคยแสดงอาการ Hard Start หรือมีเส้นขาดๆหายๆเลย โดยเฉพาะหัวปากกาขนาด Fine ที่เธอทำรีวิว

หัวปากกาที่ทำจากโลหะของ Sheaffer Sagaris ค่อนข้างแข็ง แต่เขียนได้ลื่น แม้ว่าจะไม่ใช่ประเภทลื่นปรี๊ด แต่เธอก็ยืนยันว่าเขียนได้ดีมากๆ Ms. Jennifer ได้นำปากการุ่นนี้ไปเขียนในสมุดบันทึก สมุดฉีก และกระดาษอีกหลายประเภท เธอไม่พบว่ามีน้ำหมึกซึมทะลุด้านหลังของกระดาษเลย ไม่พบแม้แต่ลายเส้นที่แตกด้วยซ้ำ แถมยังเป็นปากกาที่ใช้เขียนนานๆแล้วยังไม่เมื่อยล้าอีกด้วย

ผมชอบการทดสอบปากกาของ Ms. Jennifer มาก ก็ตรงทดสอบการเขียนนี่แหละครับ เพราะ Ms. Jennifer เป็นคนที่ใช้ปากกาจดบันทึกครั้งละนานเป็นชั่วโมงๆ ต่างกับนักรีวิวหลายๆคนที่ทดสอบเขียนแค่ 1-2 หน้ากระดาษ หรือน้อยกว่านั้นครับ ดังนั้นผมจะเชื่อในความเห็นของ Ms. Jennifer ในเรื่องที่ว่า ปากกาด้ามนั้นเขียนแล้วเมื่อยมือหรือไม่มากกว่าความเห็นของนักรีวิวคนอื่นๆครับ

อีกจุดที่ผมชอบรีวิวของ Best Fountain Pen ก็คือ การที่ทดสอบเขียนบนกระดาษเนื้อไม่ดี เพราะในชีวิตประจำวันของเรามักต้องเขียนบนกระดาษถ่ายเอกสาร กระดาษปรู๊ฟสีน้ำตาล หรือกระดาษสมุดราคาถูกๆ บ่อยกว่าที่จะได้เขียนบนกระดาษเนื้อดีราคาแพงนะครับ ตอนแรกที่ Write Like Dream ทำรีวิว ก็พยายามที่จะทดสอบปากกาในกระดาษทั่วไป แต่ก็มีบางคนทักท้วงมาว่าทำไมไม่ทดสอบในกระดาษที่ได้มาตรฐานกว่านี้ ตอนหลังนี่ก็เลยเปลี่ยนกระดาษที่ใช้ทดสอบปากกาครับ แต่ในใจก็ยังเถียงอยู่นะว่า กระดาษที่ผมใช้ทดสอบเดิมนั่นแหละ คือ มาตรฐานของกระดาษที่ใช้งานบ่อยสุดแล้ว 55555

มาถึงตรงนี้ผมขอขั้นด้วยรีวิวของเจ้าอื่นๆอีกหน่อยนะครับ เพราะทั้ง Gourmet Pens และ Stephen Brown ทำรีวิวปากกาที่มีหัวขนาด Medium ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับที่มีขายในบ้านเราครับ

Ms. Asgarali แห่ง Gourmet Pens บอกว่า หัวปากกาขนาด M ของ Sheaffer Sagaris เขียนดีตั้งแต่แกะกล่อง โดยไม่จำเป็นจะต้องล้างปากกาก่อนใช้งานเลย หัวปากกาค่อนข้างจะแข็ง แต่ก็ยังพอทำ Line Variation ได้นิดหน่อยหากออกแรงกดปากกามากๆ เธอยังบอกอีกว่า ปากกาเขียนได้ลื่นมากจนทำให้เธอประหลาดใจเลยครับ แต่ก็มี Feedback เล็กน้อย ซึ่งเธอชอบมาก การป้อนหมึกของปากการุ่นนี้ก็ไม่เปียกจนเกินไป แม้ว่าเธอจะชอบปากกาที่เปียกกว่านี้ แต่เธอก็คิดว่า คนส่วนใหญ่จะรู้สึกดีกับการป้อนหมึกของ Sagaris

มาที่วิดีโอรีวิวของ Mr. Brown กันต่อครับ หากดูวิดีโอแล้ว จะได้ยินเสียงหัวปากกาลากบนกระดาษ แสดงให้เห็นว่า เวลาเขียนจะมี Feedback เล็กน้อยอย่างที่นักรีวิวทั้งสองคนบอกมาแล้วครับ แต่ Mr. Brown ก็พูดยืนยันว่า ปากกาเขียนได้ดี ลื่น และการป้อนน้ำหมึกทำได้ยอดเยี่ยมมาก ไม่มีเส้นขาดๆหายๆเลยแม้แต่น้อยแม้จะเขียนเร็วๆก็ตาม Mr. Brown ยังแสดงให้เห็นว่าการป้อนน้ำหมึกของปากการุ่นนี้ออกไปใน “ทางสายกลาง” จริงๆ คือ ไม่เปียกมากจนเกินไป แต่ก็ไม่แห้งนะครับ และก็ยังบอกเหมือนกันอีกว่า หัวปากกาค่อนข้างแข็ง ทำ Line Variation ได้ไม่ดี

ถือว่าการทดสอบเขียนของนักรีวิวชั้นนำทั้งสามคน มีความเห็นที่ไปในทิศทางเดียวกันนะครับ และทุกคนต่างชื่นชมหัวปากกา และการป้อนน้ำหมึกของ Sheaffer Sagaris ด้วย

ปลอกปากกา

สำหรับ Ms. Jennifer ที่ชอบเขียนโดยเสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้ามแล้ว เธอบอกว่า Sagaris เป็นปากกาหมึกซึมที่เป๊ะเวอร์เลยครับ คือ เสียบปลอกปากกาไว้ท้ายด้ามได้มั่นคงดีมาก ไม่มีทางที่ปลอกปากกาจะหลุดออกมาในระหว่างที่เขียนได้เลย ตรงนี้ผู้ทำรีวิวไม่ได้บอกไว้ว่า เมื่อเสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้ามแล้วมีอาการหนักปลายหรือไม่นะครับ แต่ผมเดาเองว่าน่าจะไม่มีปัญหาที่ว่านี้ เพราะหากปากกาด้ามไหนที่เสียบปลอกปากกาไว้ที่ท้ายด้ามแล้วหนักปลาย ผู้ทำรีวิวจะต้องบ่นเป็นเรื่องแรกๆเลยครับ และพอดูวิดีโอรีวิวของ Mr. Brown ก็พอจะสังเกตได้ว่า ไม่น่าจะมีอาการหนักปลายนะครับ

แถบที่ปลอกปากกา Sheaffer Sagaris ค่อนข้างกว้าง มีสลักคำว่า Sheaffer ไว้ เมื่อปิดปลอกปากกาจะมีเสียงดังคลิกให้ได้ยินอย่างชัดเจน ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอกปากกาปิดสนิทดีแล้ว

Sheaffer Sagaris เป็นปากกาหมึกซึมที่มีขนาดของหัวปากกาปานกลาง ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาในการล้างน้ำหมึกออกจาก Feed มากนักเมื่อต้องการจะทำความสะอาดปากกา ปากการุ่นนี้ใช้ได้ทั้งกับหมึกหลอด และที่สูบหมึกของ Sheaffer เท่านั้น

โดยรวม

Sheaffer Sagaris เป็นปากกาหมึกซึมที่คุ้มค่ามากๆ ปากการุ่นนี้เขียนได้ดีบนกระดาษทุกชนิด โดยไม่มีปัญหาเรื่องการป้อนน้ำหมึกเลย นอกจากนี้ยังเป็นปากกาที่มีน้ำหนักเบา แต่หัวปากกาค่อนข้างที่จะแข็งสักหน่อย ซึ่งก็เป็นปกติของหัวปากกาที่ทำจากโลหะ ผู้ทำรีวิวได้สรุปไว้ว่า Sagaris เป็นปากกาหมึกซึมสำหรับใช้งานอย่างแท้จริง

จากการคุยกับหลายๆคนเรื่องปากกาหมึกซึม ผมเคยพบว่า มีบางคนที่รู้สึกว่ายี่ห้อ Parker หรือ Sheaffer ออกจะเชยๆไปแล้ว ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ความรู้สึกแบบนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร หากจะบอกว่า เพราะปากกาสองยี่ห้อนี้มีมานานแล้ว ก็น่าจะเป็นตรรกะที่ใช้ไม่ได้นะครับ เพราะปากกาแบรนด์ดังอื่นๆ อย่าง Waterman, Montblance, Pelikan ต่างก็มีอายุเกินร้อยปีทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ผมจึงพยายามนำรีวิวปากกาทั้งสองยี่ห้อมาให้ชมกันครับ เพราะทั้งสองยี่ห้อนี้สามารถหาซื้อได้ง่ายในบ้านเรา ด้วยราคาที่ไม่สูงเกินไปนักด้วย แถมนักรีวิวปากกาในต่างประเทศต่างก็ชื่นชมในแบรนด์ทั้งสองด้วยนะครับ

ที่ผมบอกไปแต่ต้นว่า ผมมีทัศนคติที่ดีกับปากกายี่ห้อ Sheaffer นี้ อันที่จริงแล้วไม่ใช่เพียงเพราะเป็นปากกาหมึกซึมด้ามแรกของผมเท่านั้นนะครับ แต่จากการที่ผมมีโอกาสเป็นเจ้าของ Sheaffer ทั้งรุ่นปัจจุบัน และรุ่นโบราณ และได้ลองเขียนปากกายี่ห้อนี้มาหลายต่อหลายรุ่น ต้องขอบอกเลยครับว่า หัวปากกาของ Sheaffer เขียนได้ลื่นมากจริงๆ (รุ่นปัจจุบันจะเขียนลื่นกว่ารุ่นโบราณ แต่หัวปากการุ่นโบราณจะ Flex ดีกว่า) แถมปากกายี่ห้อนี้ยังมีรูปทรงที่หรูหราสวยงาม ในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยากด้วย จึงนำมาบอกต่อกันครับ

ผู้ที่สนใจ Sheaffer Sagaris สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/PenBrandName ครับ ปากการุ่นนี้มีให้เลือกหลายสี และยังมีปากกาแบบโรลเลอร์บอล และลูกลื่นให้เลือกอีกด้วย ใครที่สนใจก็รีบหน่อยนะครับ เพราะผมรู้มาว่าสินค้ามีจำนวนจำกัดจริงๆ และหนึ่งในนั้นผมจะต้องซื้อมาใช้เองอย่างแน่นอนด้วยครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเขียนได้ราวกับฝัน

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดี